11 ตุลาคม 2545 19:34 น.
ฮัตคุง
อยากได้รอยยิ้มที่เย้ยหยัน
แทนคำพูดบอกกันว่าเสียใจ
และขอร้องอีกอย่างได้ไหม
ไม่ว่าเจอกันเมื่อไหร่...อย่าหันมองมา
พูดอยู่ได้...ขอโทษอะไรกัน
หรือเวทนาฉันกับอาการตรงหน้า
ก็แค่รอยยิ้มปนน้ำตา
ฉันน่าจะเป็นฝ่ายขอบคุณมากกว่า
ที่สอนให้ฉันได้รู้ว่า
ชีวิตที่เข้มแข็งกว่า...เขาทำกันยังไง
11 ตุลาคม 2545 13:01 น.
ฮัตคุง
อะไรๆก็ไม่แน่นอน
ทุกอย่างถูกกัดกร่อนโดยกาลเวลา
คนที่อยู่ๆรักกันมากก็จากลา
เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
ก้าวเข้ามา...แล้วก็ผ่านพ้นไป
อะไรๆก็ไม่เหมือนเดิม
ที่คิดว่าสวยดีเลิศ.....
อยู่ๆก็เริ่มนับหนึ่งใหม่
คนที่คิดว่าเป็นทุกๆอย่างฝากชีวิตก้าวไป
อยู่ๆก็ไม่เคยเป็นอะไร...ไม่เคยเป็น
11 ตุลาคม 2545 07:34 น.
ฮัตคุง
รักเธอมากแค่ไหน
ฉันตอบไม่ได้หรอกนะคนดี
ถามว่ารู้สึกอย่างไรในวันนี้
ก็แค่คิดถึงทุกที...ก่อนมีน้ำตา
ถามว่ารักเธอมากเท่าใด
ซึ้งมากแค่ไหนในคุณค่า
ความหมายเพิ่มมากขึ้นสักเท่าไหร่ในแววตา
ฉันตอบได้แค่ว่า
หานเหนื่อยอ่อนล้าเมื่อคิดถึงเธอ
10 ตุลาคม 2545 20:45 น.
ฮัตคุง
เป็นเรื่องของความเจ็บปวด
กับน้ำตาที่ไม่ได้ตั้งใจอวดให้เห็น
อีกเสียงสะอื้นที่มากมายเกินความจำเป็น
ยากที่จะซ่อนเร้น...ดังใจ
บอกหน่อยกับอาการที่ว่า
เป็นการกระทำที่ไร้ค่า....
ของคนอกหักใช่ไหม
รักเธอก็ไม่น้อยกว่าใคร
ทำได้แค่น้อยใจ
ที่ไม่เคยได้รักมากเกินใคร...จากเธอ
10 ตุลาคม 2545 20:33 น.
ฮัตคุง
เหมือนอยู่บนโลกคนละใบ
เหมือนคนห่างไกลทั้งที่ใกล้กันแค่นี้
เพราะความจริงใจ.....
ทำให้เราห่างไกลกันไปทุกที
คงไม่เป็นอย่างนี้...ถ้าเธอคนดียังเหมือนเดิม
เหมือนตะปูที่ตอกติดข้างฝา
ถอนออกมาก็ยังมีรอยเดิมเพิ่ม
เสียความรู้สึกไป.....
ถอนด้วยอะไรก็คงไม่เต็มเติม
มีอย่างเดียวที่คอยมาเสริม
ที่บอกให้เอาแต่นับหนึ่งเริ่ม...คือน้ำตา