31 ตุลาคม 2545 00:49 น.
ฮัตคุง
ต้านเอาไว้ไม่ไหว
โดนกองหน้าหัวใจเธอยิงทำประตู
แค่เผลอหน่อยเดียว...กลับต้านเอาไว้ไม่อยู่
เธอเล่นใช้เทคนิคสุดหรู...คนรู้ใจ
ตั้งใจแล้วพยายามปัดป้อง
ทุกวิถีการจ้องมอง...สกัดเธอไม่ให้ครอบครองใจ
อุตส่าห์สู้ยิบตา...ยื้อให้เวลาหมดไป
แต่โดนลูกโทษจนได้...ช่วงต่อเวลาใจ
o.k...ยอมแพ้ก็ได้
แต่ต่อนี้ไป...อย่าไปยิงประตูหัวใจใครอีกนะเธอ
30 ตุลาคม 2545 14:19 น.
ฮัตคุง
อาการดูแย่
รวยระรินร่อแร่..กว่าหน่วยกู้ใจจะมาถึง
นานเกินไปแล้วที่ไม่มีคนคอยสบตาซึ้ง
ไม่มีใครมาฉุดดึง
จากความเหงาที่รุมทึ้งสักที
บาดเจ็บไปแล้ว 3 ห้อง
กำลังลุกลามถูกซัดลงไปกองอยู่ในห้องที่ 4
ตะโกนร้องออกไปแล้วแต่ไม่มีใครขานตอบสักที
มีบ้างมั้ยสักคนพลเมืองดี
ตัดสินใจเด็ดเดี่ยววินาทีนี้...กู้ใจ
30 ตุลาคม 2545 14:06 น.
ฮัตคุง
เคยมีหลายคนสงสัย
ทำไมเขียนแต่กลอนเหงาเคล้าน้ำตา
มีแต่ห่วงใยและห่วงหา
มีเพียงสายลมที่พัดพา...ให้ความคิดถึงลอยไป
คงเป็นเพราะใจที่เบาบาง
และอ้างว้างอยู่ในมุมที่ไม่สดใส
อยู่ในอ้อมกอดของความเศร้าเกินกว่าใคร
แสงแห่งรักคงสาดส่องไม่ถึงใจ
ความมืดจึงนำพาไป
ถูกละไว้ในห้วงกาลเวลาที่เฝ้ารอ
27 ตุลาคม 2545 17:26 น.
ฮัตคุง
ในคืนที่แสงดาวหลบซ่อน
มีลมหนาวบั่นทอนอยู่รอบข้าง
กับแรงใจที่กำลังเลือนลาง
จากความผูกพันที่จืดจางเบาบางเหลือเกิน
ไออุ่นเล็กๆเริ่มไหลรินจากขอบตา
ความหมางเมินเย็นชาเริ่มหนาขึ้นตามทางเดิน
พยายามบอกกับใจอย่าให้ความสำคัญเขามากเกิน
เขาแค่คนรู้จักผิวเผิน...แค่คนบังเอิญผ่านมา
26 ตุลาคม 2545 20:50 น.
ฮัตคุง
นั่งอยู่ตรงนี้
บรรยากาศที่เคยมีแต่รอยยิ้มเต็มเติม
นั่งอยู่ตรงนี้...ที่ต้นไม้ต้นเดิม
แล้วเรื่องราวเก่าๆก็เริ่มวนกลับไป
ใบหน้าเธอก็ผุดขึ้นมาในสมอง
แววตาคู่นั้นที่เคยมองแทนคำพูดในใจ
เธอคนที่เคยปลอบให้กำลังใจฉันได้
แม้ไม่ต้องเอ่ยปากพูดอะไร
แค่นั่งอยู่ใกล้ๆ...เพราะรู้ว่าเธอเข้าใจก็พอ
ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน
รู้บ้างมั้ย...ต้นกล้าใจต้นนี้ยังเฝ้ารอ
หากต้นไม้ร้องไห้ได้ตอนนี้มันคงน้ำตาคลอ
ทุกจังหวะที่เอนไหวมันคงร้องขอ
อยากให้รู้ว่ายังรักและยังรอเธอเช่นเดิม