6 กรกฎาคม 2545 21:10 น.
อ้อ
คืนวันอันเหน็บหนาว ใต้แสงดาวมีไฟผิง
มีฟ้าไว้พักพิง แนบแอบอิงเป็นเรือนกาย
หิ่งห้อยเป็นดั่งแสง พลังแรงสู่จุดหมาย
น้ำค้างที่พรางพราย ยามเหนื่อยหน่ายไว้อาบกิน
จันทราไว้เป็นเพื่อน คอยย้ำเตือนให้ถวิล
น้ำทิพย์ชโลมริน รดผืนดินให้ขจี
ทุ่งหญ้าแทนทุ่งข้าว เหลืองทองราวแต่งแต้มสี
กระท่อมใกล้วารี ไว้เป็นที่ให้แอบอิง
คืนวันอันเหน็บหนาว ใต้แสงดาวไร้ไฟผิง
คืนนี้ไร้ที่พักพิง ทั่วทุกสิ่งช่างมืดมน
5 กรกฎาคม 2545 23:01 น.
อ้อ
เสียงน้องร้องให้ใจจะขาด
พี่ปาดน้ำตาตัวกลัวน้องเห็น
น้องเอ๋ยลำบากยากเย็น
ของเล่นที่จะให้ก็ไม่มี
กินแต่น้ำตาต่างข้าว
ดูดาวดูเดือนเพื่อนน้องพี่
วันนี้วันเพ็ญเดือนเด่นดี
เดี๋ยวพี่จะขอต่อจันทรา
..จันเอ๋ยจันเจ้า ขอข้าวขอแกง
ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า
ขอช้างขอม้าให้น้องข้าขี่
ขอเก้าอี้ให้น้องข้านั่ง
ขอเตียงตั้งให้น้องข้านอน
ขอละครให้น้องข้าดู
ขอยายชูเลี้ยงน้องข้าเถิด
ขอยายเกิดเลี้ยงตัวข้าเอง...
พี่ร้องแล้วเบือนสะเทือนขวัญ
พระจันทร์เจ้าขาอย่าข่มแหง
ให้ยายมาเลี้ยงในเสียงเพลง
วังเวงแท้แท้..แม่ไม่มา
5 กรกฎาคม 2545 22:43 น.
อ้อ
ดอกเอ๋ยดอกไม้ในสายหมอก
เก็บดอกเก็บกลิ่นสิ้นสี
ฟ้ามืดยืดยาวหนาวฉะนี้
จะมีแสงเอื่อสักเพียงไหน
ดอกเอ๋ยดอกไม้เมื่อได้แดด
เหลืองแสดแดงขาวพราวไสว
ยิ้มรับแสงอรุณอุ่นไอ
อุนใจอบกลิ่นกว่าสิ้นวัน
เด็กเอ๋ยเด็กน้อยคอยความรัก
หาตักที่จะหนุนให้อุ่นขวัญ
ผู้ใหญ่ใจแร้งมิแบ่งปัน
ฟาดฟันหัวใจให้ยับเยิน
ถ้าเลือกเกิดได้จะไม่เกิด
กับผู้ให้กำเนิดที่ห่างเหิน
เกิดแล้วกรุณาอย่าหมางเมิน
จูงเดินสู่ถนนคนดี
ยิ่งเด็กกำพร้าน่าสงสาร
พิการ...ลำบาก มากเหลือที่
ขอเศษเมตตาปรานี
รักมีมอมให้ได้บุญแรง
เพื่อวันข้างหน้าฟ้าใส
ดอกไม้เยาวชนจะยลแสง
โลกสวยด้วยใจไม่เคลือบแคลง
พร้อมแบ่งรักให้ได้หรือยัง?