6 กุมภาพันธ์ 2555 21:22 น.
อิสรชัย รัตน
จะตื่นตูมไปทำไม น่าปวดหัว
จะมัวกลัว ทำไมช่างน่าขัน
จะมัวเถียงทำไมอายเด็กมัน
จะมาพูดห้ำหั่น กันเพื่อใคร
จะมัวสร้างข่าว ฉาว ให้เร้าจิต
การสร้างข่าวต้องคิดให้นำสมัย
ไม่สร้างความเสียหายให้บรรลัย
เจ็บรู้ไหม ไม่มีใครมาลงทุน
ชาติล่มซ้ำ ครั้งสอง ร้องว่าเศร้า
เมื่อเรื่องราว ฉาวโฉ่ โมโหฉุน
คำทำนายทายทัก หนักนะคุณ
คอยซ้ำเติม เพิ่มทุน ให้หวาดกลัว
พูดมาได้ว่าเขื่อนจะเลือนลั่น
แผ่นดินไหว สนั่น ไปถ้วนทั่ว
เจ็บระทม ตรมทุกข์ ภัยถึงตัว
แล้วมาสร้างความมั่วกันทำไม
รู้กันบ้าง รู้กันหน่อยว่าเอาอยู่
บอกให้รู้การบริหารต้องขานไข
เชื่อรัฐเถิด บ้านเรานั้นปลอดภัย
แม้จะหนักปานใด เอาอยู่เอย
5 กุมภาพันธ์ 2555 17:04 น.
อิสรชัย รัตน
กว่าจะเป็นข้าวหนึ่งเม็ดแสนเหน็ดเหนื่อย
ความปวดเมื่อยอ่อนล้า น่าเศร้ายิ่ง
เตรียมต้นกล้า ไถดะ คราดชะทิ้ง
เมื่อทุกสิ่ง พร้อมพรัก เริ่มปักดำ
ต้นข้าวเขียว เรียงราย เอนกายไหว
ศัตรูพืช กัดใบ มากระหน่ำ
ตั๊กแตนปาทังก้า มาท้าย้ำ
ผู้ชอกช้ำ ชาวนา พาทุกข์ใจ
ทั้งยาฉีด สารพิษ คอยปลิดฆ่า
ศัตรูพืช นานา ไม่ปราศัย
น้ำคอยผัน เข้าสู่นา พาห่วงใย
เพื่อต้นข้าว เติบใหญ่ ไม่ตายลง
ต้นข้าวแก่ รวงดอก ก็ออกผลิ
ความปิติ ของชาวนา หน้าชี้บ่ง
หมดหนี้สิน ปีต่อไป ได้มั่นคง
หากฟ้าคง ปรานี มีเมตตา
เสียงครืนครืน คืนนั้นสั่นหัวอก
ฝนหลั่งตก เหมือนดังจะสั่งฟ้า
เสียงจ๊อกแจ๊ก ไหลริน ริมชายคา
เช่นเดียวกับ น้ำตา ชาวนานอง
ผืนน้ำข้น เวิ้งว้าง กว้างดุจอ่าว
ท่วมยอดข้าว ชาวนา หน้าเศร้าหมอง
ข้าวจะกิน หนี้จะใช้ ใครรับรอง
หรือจะต้องสร้างหนี้ นี้ต่อไป
2 กุมภาพันธ์ 2555 22:26 น.
อิสรชัย รัตน
จากบ้านทุ่ง สู่กรุงมุ่ง ศึกษา
ไกลพี่น้องท้องนาถิ่นอาศัย
สู่รั้วของชนชั้นปัญญาไกล
สำเร็จไป กลับบ้านนา ด้วยอาวรณ์
นั้นเป็นปณิธาน ก่อนวันจาก
ก่อนจำพราก แม่พ่อที่สั่งสอน
สู่กรุงไกร ใหญ่โตในนาคร
เริ่มบทสอนของอาจารย์ ผ่านเรื่อยมา
วันสู่เดือน เลื่อนลับ นับมาเรื่อย
มิรู้เหนื่อย งานสังคม สมปรารถนา
ลืมนึกถึงท้องทุ่ง ตาลท้องนา
ลืมสัญญา ที่จะกลับ มิลับกาย
สนุกในเธค ผับ คลับ แต่งโก้
วางมาดโต ข้านี้ใหญ่ให้ใจหาย
รินสุรา มีนารี มิเว้นวาย
บทเรียนนั้นมิได้อยู่ในใจ
ความสนุก หดหาย จากกายจิต
ผลการเรียน ชี้สิทธิ์ ความเติบใหญ่
เรียนไม่ผ่าน เกรดไม่ถึง จึงลาไกล
สถาบัน จำต้องไล่ ไม่ได้การ
ทอดสายตา มองเรื่อย ตามฟุตปาท
เราเป็นเช่น เส้นทางขาด ไม่เอาถ่าน
นึกถึงแม่ คอยรับ ลูกกลับบ้าน
คงอีกนาน แม่เฝ้ารอ ลูกต่อไป
27 มกราคม 2555 20:51 น.
อิสรชัย รัตน
เมื่อคืนเกิดเหตุ อาเพศหนัก
เมื่อเห็นยักษ์ วัดแจ้ง แต่งจิ๊กโก๋
แล้วมาชวน เพื่อนรัก ยักษ์วัดโพธิ์
ออกไปเต้น อะโกโก้ โชว์ลวดลาย
แล้วมาเจอ สีดา ที่หน้าผับ
ควงมากับพระอภัย น่าใจหาย
ส่วนโฉมยงเนื้อเย็นเบญจกาย
เดินกรีดกราย กับเจ้าเงาะ เหมาะเจาะจริง
อ้าว! นั้นจินตหรา มาด้วยนี่
ควงเพื่อนซี้ หลวิชัย ดูใหญ่ยิ่ง
มโนราห์ คู่พระลอ คลอแอบอิง
รจนา หนุงหนิง ศรีสุวรรณ
อีกคู่หนึ่งพระแพง แฝงเสน่ห์
ชวนคนธรรม์ เตร็ดเตร่ ไม่เหหัน
วาสิฏฐี พระสุธน หยอกเย้ากัน
คาวีนั้น มีพระเพื่อน ดุจเรือนตาย
สุวรรณมาลี นี้ไม่หยอก
ควงเด็กนอก กามนิต ไม่หนีหาย
มเดหวี มีโกเมนทร์ เคียงข้างกาย
ส่วนระเด่น ยอดชาย ไร้คู่ควง
ตกใจสุด หยุดวั้บ อยู่กับที่
ลุกเร็วรี่ เข้าสุขา ท้องพาร่วง
กินอะไร เข้าไปหนอ ปวดท้องถ่วง
ฤทธิ์มะม่วง น้ำปลาหวานในจานโต
26 มกราคม 2555 22:46 น.
อิสรชัย รัตน
มอง
มองผ่านช่อง...รอยแตก
ช่องรอยแยก ข้างฝาพาผิดหวัง
วันนี้เป็นเช่นวันวานเนิ่นนานจัง
สังคมยังล้าหลังอุดมการณ์
มองผ่านช่อง...รอยเร้า
หน้าร้อนผ่าว เขินอาย สุดกล่าวขาน
คอร์รับชั้นกันมากล้น พ้นประมาณ
ทุกวงการ ของสังคม ขื่นขมใจ
มองผ่านช่อง...รอยห่าง
หาแบบอย่างที่ดีหามีไม่
ปล้น ฆ่า จี้ ข่มขืน อาชญาภัย
อนาถใจ เมื่อผ่านมองห้องสังคม
มองผ่านช่อง..รอยแยก
เปรียบดังคนใจแตกให้ขื่นขม
สังคมพุทธ ดุจบัว ฝังโคลนตม
โคลนโสมม แปดเปื้อน ทั่วเรือนกาย
มองผ่านช่อง...รอยหัก
ใจจมปลัก หดหู่ มิรู้หาย
เมื่อไหร่หนอ จะพัฒนา จิตใจกาย
ไทยจึงจะมีความหมายควบคู่กัน
มองผ่าน ม่านตาขอบฟ้ากว้าง
สู่หนทาง พบสุข คลายทุกข์ผัน
แต่ก็หา แทบไม่เจอ ทุกวีวัน
เพราะอยู่กัน เห็นแก่ตัว ทั่วสังคม