29 พฤษภาคม 2553 04:59 น.
อินสวน
ระหว่างฝันและวันของความจริง
มีหลายสิ่งซุกซ่อนอย่างสับสน
ในซอกหลืบลึกมากหากรื้อค้น
อาจพบเจอเหตุผลยากเข้าใจ
ต่างคนต่างพยายามทำหน้าที่
แม้ว่าอาจไม่ดีดังฝันใฝ่
บางครั้งเคยคิดเผื่อเพื่ออะไร
แต่กลับไม่ใช่ในวันต่อมา
เหน็ดเหนื่อยระทมและขมขื่น
เห็นหยัดยืนคือฝืน..สู้ปัญหา
หลายคนบอกว่าฉันเหมือนคนบ้า
เหมือนระเบิดเวลารอมานาน
หากชีวิตไม่มีใครมากมาย
คงถึงบทสุดท้ายที่หอมหวาน
จะไม่มีพรุ่งนี้ของเมื่อวาน
สิ้นสุดความทรมาน...เพียงลำพัง
ขอให้เธอแสดงความแข็งแกร่ง
เลิกระแวง...สงสัย...ในความหวัง
ฉันจะขอเธออีกเพียงหนึ่งครั้ง
ไปถึงฝั่ง...ทิ้งความหลังให้ลบเลือน
อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
ความขาดด้อยฉันมีอย่าให้เหมือน
ต้นกล้าชีวิต..งามสะพรั่งดั่งดาวเดือน
อย่าแชเชือน...เปรียบเสมือนชื่นชนนี
เหลือคะเนเวลาเป็นของฉัน
อาจเป็นวันเดือนนับกระชับถี่
ลบเงื่อนไขในนั้นจากวันนี้
กับสิ่งมีตามที่ปรากฏกรรม
ณ จุดที่ชีวิตปราศความกลัว
ใจระรัวบีบเค้นเต้นระส่ำ
คงไม่เหลือเวลาให้ตอกย้ำ
แม้กระทั่งทรงจำ.ไม่มีเลย
ได้แค่นี้จริงๆกับสิ่งตั้งใจ
ความอ่อนไหวซ่อนไว้เกินเอื้อนเอ่ย
มันคือความอ่อนแอน่าเยาะเย้ย
จึงเป็นความคุ้นเคยที่ชาชิน
ไม่มีใครกำหนดได้...หรอกนะ
เป็นตรรกะวาสนาคราสูญสิ้น
ฝากวิญญาอาณาจักรแห่งดวงจินต์
ธรณินซึมซับเมื่อดับดวง
26 พฤษภาคม 2553 16:23 น.
อินสวน
หยาดพิรุณโปรยปรายสายสวาท
ใจไม่อาจลืมลงรักหลงใหล
ความคิดถึงพรูพร่างกลางฤทัย
ย้อนวันใหม่ทำได้อย่างไรกัน
ณ วันนี้เชียงรายสายฝนฉ่ำ
บนรู้สึกตอกย้ำเคยฉ่ำฝัน
แม้ไกลห่างไม่จ้างร้างผูกพัน
เธอคือคนสำคัญเสมอมา
ราตรีหนึ่งซึ้งใจที่ได้รัก
แต่คืนนี้หน่วงหนักเสน่หา
กลางลมฝนคนเศร้าหนาวน้ำตา
มองราวฟ้าม่านฝนหม่นใจมอง
หยาดพิรุณโปรยปรายสายใยรัก
ยังแน่นหนักเหมือนเก่ารักเราสอง
ระลึกถึงทุกคราฟ้าคะนอง
เพียงขุ่นข้องใยน้องจึงขุ่นเคือง
17 พฤษภาคม 2553 12:03 น.
อินสวน
อยากอ่านกลอนอ้อนคำชื่นฉ่ำจิต
จากมิ่งมิตรมากมายในแดนฝัน
ปลอบวิญญาพาสุขทุกชีวัน
ประโลมขวัญชื่นชิตมิตรไมตรี
คิดถึงปราณรวีมีเยื่อใย
เพียงพลิ้วไหวหยาดคำหวานทุกที่
มิตรภาพเฌอมาลย์หวานฤดี
รัมณีย์รอรักทุกเวลา
แก้วประภัสสรถอดสลักรัก
Bananaleaf ห้ามหักเสน่หา
งามสมหญิง กิ่งฟ้า พิมญดา
เมากีตาร์คุณยายังตราตรึง
สุขใจที่ได้รักอนงค์นาง
ตราบวันนี้หมอกจางยังคิดถึง
กลอนคมคำครูพิมในคำนึง
น้องดอกบัวรำพึงวลีใจ
นรศิริปลายฝันวันเดียวดาย
อีกมากมายผลงานเพื่อนฝากไว้
ยามเงียบเหงาเหน็บหนาวในคราวใด
อบอุ่นใจเบิกบานในบ้านกลอน
กลับมาเถิดวันวานอันหวานชื่น
เก็บกวาดความขมขื่นที่คอยหลอน
แปรความแปลกแตกต่างเป็นอาทร
เพื่อบ้านกลอน...ของเรา..ไม่ร้าวราญ