7 พฤษภาคม 2550 08:46 น.
อินสวน
หากเหนื่อยนัก พักใจ หายอ่อนล้า
โลกบนบ่า ปล่อยวาง บ้างได้ไหม
ใจอึดอัด เคร่งครัด เร่งรัดไป
คงไม่ไหว ใจจะทุกข์ รุกโรมรัน
อักษรงาม มีช่องไฟ ให้ว่างเว้น
ภาพที่เห็น เป็นรายร่อง งามต้องจิต
แล้วไฉน ไม่เว้นวรรค ให้ชีวิต
หยุดเพื่อคิด ทบทวน ครวญใคร่ตรอง
5 พฤษภาคม 2550 15:19 น.
อินสวน
ลีลาร่าย เริงรำ ระบำบท
ท่วงระทด ท่าที ระทวยไหว
สังคีตขับ รับกลอง ทำนองไว
ระเร่าใจ ให้รุ่มร้อน รุกรอนราน
เพลงกระชั้น พลันกระโชก ละโลกลิ่ว
วูบวาบหวิว วุ่นวาย ใจขับขาน
ดุจวารวัน เวียนวน จนเจียนจาร
สั่นสะท้าน สะท้อนไหว ใจสะเทือน
บ้างกู่ก้อง ร้องโห่ บ้างโอ้เอ้
บ้างเกเร เฉไฉ จำไล่เลื่อน
บ้างหลีกลี้ หนีหลบ กลบกลาดเกลื่อน
ยมทูต ต้องตักเตือน ไล่ติดตาม
ถึงทางแยก สามแพร่ง แหล่งจำแนก
ความต่างแตก แยกประสบ ภพทั้งสาม
สืบประวัติ คัดกันที่ ความดีงาม
ยากจะข้าม เขตขอบ ระบอบกรรม
หนึ่งเส้นทาง เสียงกรีดร้อง ก้องโหยหวล
ฟังแล้วชวน ขวัญสยอง ต้องครวญคร่ำ
หุบห้วงเหว เลวชั่ว มัวมืดดำ
เร่งรุกร่ำ พร่ำเพรียก พันธนา
หนึ่งเส้นทาง คุ้นเคยคลับคล้ายคล่อง
ครอบครัวครอง รองรอ ติดต่อหา
กึ่งกุศล กรรมบันดล ไม่พ้นพา
ให้กลับมา ใช้กรรม ตามครรลอง
หนึ่งเส้นทาง สว่างวาบ กำซาบจิต
เนรมิตร ประโคมขับ รับฉลอง
มวลบุปผา เริงร่า ระเรืองรอง
วิมานทอง รองรับไป ในนิพพาน
4 พฤษภาคม 2550 09:34 น.
อินสวน
ไอแดดร้อนตอนสายบนชายหาด
คลื่นซัดสาดน้ำกระเซ็นเป็นฟองขาว
ลมกระโชกโบกสะบัดพัดทรายกราว
ก้านมะพร้าวเอนห่อล้อแรงลม
หาดแห่งนี้มีเรื่องเล่าสาวคำเอื้อย
เธอเปิดเผยเรื่องราวเล่าขื่นขม
อยู่ที่นี่จากบ้านนามานานนม
เรือรักล่มเพราะคารมผู้ชายทราม
สู้ดิ้นรนทนท้อพ้อชีวิต
ถูกหรือผิดมิทราบได้ใจเคยถาม
ลืมถูกต้องตามวิถีความดีงาม
ทั้งค้ากามเสพยาสารพัน
พอหมดสาวดาวร่วงดวงดิ่งดับ
ชะตาอับฤดีแดจึงแปรผัน
ไม่มีแม้น้ำใจใครแบ่งปัน
สุดรำพันห่อเหี่ยวอยู่เดียวดาย
ผิวกายกร้านใบหน้าเกรียมไม่เอี่ยมอ่อง
แววตาหมองเหม่อมองหาเป้าหมาย
บริการนวดทั่วไปให้หญิงชาย
เช้าจวบสายบ่ายคล้อยคอยเหลือบแล
สาวคำเอื้อยเจื้อยแจ้วแนวชีวิต
ไม่เคยคิดย้อนคืนถิ่นแผ่นดินแม่
จะฝากกายใจกลวงพร้อมดวงแด
สังเวยแก่โลงทองท้องทะเล
3 พฤษภาคม 2550 08:04 น.
อินสวน
เวรระงับด้วยการไม่จองเวร
คือประเด็นเคยรับฟังคำสั่งสอน
มาบัดนี้ทุกข์ทวีฤดีรอน
จำต้องถอนคุณธรรมประจำใจ
พี่ดอกแก้วอ่านแล้วอย่าตำหนิ
สมาธิปัญญาช่วยไม่ไหว
มันหยามเหยียดตอกย้ำทำเกินไป
ปล่อยเอาไว้คงกลัดกลุ้มไฟสุมทรวง
ถึงเวลาไล่ล่าชำระแค้น
ใจหนักแน่นแม้นเป็นไปไม่ต้องห่วง
ซึ่งซึ่งหน้าไม่สับสนกับกลลวง
สอยให้ร่วงฆ่าให้ตายวายชีวา
ระดมพลพรรคพวกพร้อมอาวุธ
ออกเร่งรุดจรดลเพื่อค้นหา
มันอยู่ไหนอย่าให้ปลอดรอดสายตา
ในกะลายางรถยนต์ค้นให้เจอ
ในอ่างน้ำแจกันนั่นแหละเหมาะ
มันชอบเลาะซ่อนกายอย่าได้เผลอ
เจ้าลูกน้ำยุงลายไงละเธอ
อย่าพลั้งเผลอให้บินไปไล่กัดคน
2 พฤษภาคม 2550 12:50 น.
อินสวน
บ้านหลังนี้บทกวีมีหลายหลาก
ส่งมาจากหล้าแหล่ง หลายแห่งหน
เป็นเวที โอกาสให้ ใครหลายคน
ได้ฝึกฝนสัมผัสซึ้งถึงบทกลอน
พี่ดอกแก้วเจื้อยแจ้วแนวธรรมะ
สอดสาระคุณธรรมนำมาสอน
พุทธธรรมน้อมนำตามบทกลอน
เอื้ออาทรคลายปัญหาสารพัน
คุณครูพิมพริ้มพรมคารมหวาน
เกี่ยวเหตุการณ์งานกลอนสะท้อนฝัน
ปราณรวีแนมเหน็บชวนเจ็บคัน
หลากสีสันแบ่งปันความสวยงาม
เพียงพลิ้วพร่ำรำพัน หวานเสนาะ
สำนวนเพราะจับใจให้ไถ่ถาม
นายธนาศาสนาวัดอาราม
ชวนติดตามศิลปวัฒนธรรม
เฌอมาลย์หว่าน คารมคมคำคิด
เพื่อชีวิตน่าชื่นชมเจ้าคมขำ
มัสลินจินตนาพาถ้อยคำ
รักหวานฉ่ำซึ้งเศร้าคละเคล้าไป
กุหลาบขาวพราวพร่างกลางไพรพฤกษ์
ถ่ายเทความรู้สึกที่อ่อนไหว
คนลานเทวา วาจาเชือดเฉือนใจ
เป็นกลิ่นไอร้อนแรงแห่งกวี
คุณก่องกิกชอบหยิกหยอกเย้ายั่ว
ชวนยิ้มหัวสุขใจไม่หน่ายหนี
ไรไก่.....................
ช่วยต่อให้ด้วยครับ........มากมายหลายคนครับ....