13 พฤศจิกายน 2553 19:01 น.
อินสวน
ก่อกองฟืนผิงไฟไล่ลมหนาว
เล่าเรื่องราวผ่านเพลงบรรเลงหวาน
ท่องทำนองโศกเหงาแกมร้าวราน
ไหวสะท้านผ่านพรมลมรำเพย
ใกล้ยี่เป็งเร่งรอต่อเติมรัก
หวั่นใจนักสะทกสั่นอกเอ๋ย
ลมหนาวล่องท่องถามตามคุ้นเคย
ไม่คิดเลยจะลับกับวันเดือน
ปากรำพึงรำพันว่าฝันเฝ้า
ใจของเจ้าใหลหลงคงไม่เหมือน
ท่ามค่ำคืนดึกดื่นชื่นชมเดือน
คงมีเพื่อนเชยชิดสนิทใจ
สายลมหวนหอบข่าวร้าวรานบอก
ลุ่มเจ้าพระยาเขาหลอกรู้บ้างไหม
ยกคำอ้างช่องว่างความห่างไกล
แล้วปันใจเป็นอื่นในคืนลวง
5 พฤศจิกายน 2553 06:05 น.
อินสวน
ฝากสายลมทักทายจากชายเขา
กับข่าวคราวซ้ำเก่าเคยเล่าขาน
หอบเรื่องราวหนาวเย็นเป็นตำนาน
กี่ร้าวรานผ่านมาแล้วผ่านไป
แม้ไม่ได้ปลุกปลอบคลายบอบช้ำ
หากเปรียบคนใจดำคงไม่ใช่
เพราะยังอยากอุ้มชูดูแลใจ
แต่เกรงใครหลายคนจะขุ่นเคือง
ความรักจากขุนเขาคนเก่าก่อน
อาจสั่นคลอนรอนล้าจากหลายเรื่อง
ลุ่มเจ้าพระยาชายกรุงความรุ่งเรือง
โสนเหลืองหรือจะคอยคนดอยดง
ป่านนี้คงเพลิดเพลินสะเทิ้นน้ำ
คงชุ่มฉ่ำร่ำไรแล้วไหลหลง
ลมเหนือเยือนเลื่อนลั่นความมั่นคง
ยังพะวงส่งถามความห่วงใย
ในยามนี้มืดมัวสลัวหมอก
มีเพียงดอกดาวเรืองที่ปลูกไว้
เป็นตัวแทนแฟนพี่ที่อยู่ไกล
ยามลมไล้หนาวย้อนพอผ่อนคลาย
ข้าวในนาคอยหาคนมาเกี่ยว
หรือจะลืมคมเคียวร้างราหาย
กระท่อมไร้คนเหลียวแสนเดียวดาย
จึงระแวงแหนงหน่ายเบี่ยงบ่ายคำ
เหมันต์ตะวันอ้อมหอมข้าวใหม่
คิดถึงใครจนเผลอคำเพ้อพร่ำ
เปิดอีเมล์ว่างเปล่าเหงาประจำ
ต้องผ่านกี่คืนค่ำ...ต้องทำใจ
28 ตุลาคม 2553 22:04 น.
อินสวน
ณ ราตรีหนาวลมโสมกระจ่าง
นอกหน้าต่างอ้างว้างทางลมหวน
หอมหมื่นลี้โชยไกลให้รัญจวน
ใจปั่นป่วนครวญร่ำในค่ำคืน
แม่สลองหนาวเนื้อลมเหนือต้อง
ใจลอยล่องถึงใครไม่อาจฝืน
มองดาวตกสะทกกอดอกยืน
จะขัดขืนข่มใจอย่างไรกัน
เห็นหลายคนรุมล้อมตะล่อมร้าน
มีเตาถ่านใครผ่านต้องรีบหัน
ข้าวปุ๊กงาผิงไฟรสหวานมัน
ขายสิบบาทต่ออันเร่เข้ามา
เสียงเพลงแผ่วแว่วหวานตำนานรัก
นักท่องเที่ยวทายทักด้วยหรรษา
ใต้โคมจีนอร่ามงามแปลกตา
บ้างจิบชาบ้างจิบไวน์ได้อารมณ์
ถึงสี่ทุ่มแยกย้ายสลายกลุ่ม
หัวอกหนุ่มสั่นไหวน้ำลายขม
นั่งจิบไวน์ปล่อยใจล่องสายลม
ไปพรอดพรมโลมเล้าลุ่มเจ้าพระยา
คิดถึงนะคนดีสุดที่รัก
อยากหนุนตักออดอ้อนก่อนอุษา
อยากชิดเชยเกยคางข้างกายา
จวบจนฟ้ารุ่งสางสว่างวัน
ตื่นจากฝันเร็วพลันเช้าวันใหม่
สูดอากาศสดใสกลิ่นไอฝัน
วิ่งขึ้นภูบูชาสิ่งสำคัญ
บรมธาตุยึดมั่นบันดาลดล
ตะวันขึ้นขอบฟ้าอรุณสวัสดิ์
จิบน้ำชาตามนัดข้างถนน
ร้านสะอาดปลอดภัยไร้กังวล
เบเกอรี่ อร่อยล้นจนติดใจ
ก่อนล่ำลาอาลัยสลักจิต
ปิยะมิตรไมตรีที่ฝากไว้
แม้วิถีแตกต่างและห่างไกล
แต่น้ำใจซาบซึ้งคงตรึงตรา
27 ตุลาคม 2553 15:42 น.
อินสวน
เพลงพิณแผ่วแว่วโศกโศลกเศร้า
แคนพลิ้วเหงารับพรมผสมเสียง
เป็นลำนำปวดปร่าล้าสำเนียง
ร้อยความเรียงรำพันกลั่นจากใจ
ลายโปงลางครางมาว่าชอกช้ำ
หวูดครวญคร่ำเกินข่มอารมณ์ไหว
ว่าสุดแสนรวดร้าวหนาวทรวงใน
น้ำตาไหลรินรื้นเกินฝืนทน
โอ้ว่ายอดชีวันช่อขวัญเอื้อง
เจ้าขุ่นเคืองเรื่องใดใจสับสน
รู้ไหมใครฅนรอเขาท้อจน
ความหมองหม่นเยี่ยมยามเที่ยวถามใจ
โอ้ว่ายอดชีวันช่อขวัญฟ้า
สิ้นเมตตาแล้วหรือฤๅไฉน
ที่บอกรักถักทอต่อสายใย
เพียงลวงใจลวงกันให้สั่นคลอน?
โอ้ว่ายอดชีวันช่อขวัญรัก
ช่างยากนักเกินใจจะไถ่ถอน
จึงต้องเจ็บเหน็บหนาวแสนร้าวรอน
ให้อาวรณ์ว้าเหว่อยู่เอกา
โอ้ว่ายอดชีวันช่อขวัญแก้ว
คงหมดสิ้นรักแล้วสิเน่หา
เหมือน ฅนสิ้นชีวันแล้วขวัญตา
เมื่อรักมาลาไกลไร้เธอเคียง(ถิ่นแคนแดนอีสาน)
เพลงพิณแผ่วแว่วโศกเหมือนโลกเศร้า
แคนพลิ้วเหงาเล้าโลมผสมเสียง
เหตุใดหนอตัดพ้อท้อสำเนียง
บอกรักไม่พอเพียงหล่อเลี้ยงใจ
หากรักแฟนคนไกลอย่าใจน้อย
อย่าท้อถอยสัมพันธ์ให้สั่นไหว
เสียงหวูดครางอ้างว้างบนทางไกล
กลั้นน้ำตาอย่าให้ไหลหลั่งริน
เหตุไฉนไยคิดว่าขุ่นเคือง
จากช่อเอื้องอาจเพียงกุหลาบหิน
หรืออาจเป็นหญ้างอกเพียงดอกดิน
แล้วจะยังถวิลหรือสิ้นใย
เสียงสะล้อคลอคำลำนำรัก
ลมหนาวทักแตกต่างจากครั้งไหน
เคยเดียวดายหลายปีที่ผ่านไป
กับสิ่งใหม่ในใจเริ่มถักทอ
ไม่อาจเป็นช่อขวัญที่ควรค่า
ไม่อาจเป็นช่อฟ้าประดับหอ
คงเป็นเพียงดอกหญ้าค่าไม่พอ
จะเติมต่อเส้นทางรักอย่างไร
ยังคงเป็นคนดอยเฝ้าคอยถ้า
เสน่หาไม่สิ้นยังสงสัย
ไยตัดพ้อต่อว่าบอกอาลัย
หรือมีใครเปลี่ยนไปให้กังวล ........(เสียงพิณถิ่นเหนือ)
26 ตุลาคม 2553 20:10 น.
อินสวน
จากเชียงรายเลี้ยวซ้ายมุ่งปลายดอย
ใจจดจ่อรอคอยตามรอยฝัน
ขับคดเคี้ยวเลี้ยวไล่ไต่เขาชัน
สุริยันยามบ่ายไล้สีทอง
เงาภูทอดเชิงชั้นหลั่นระดับ
งามต้อนรับคนไกลคลายหม่นหมอง
หนาวสัมผัสกลิ่นไอใจลำพอง
กาสะลองสกาวพราวเรียงราย
แม่สลองร้านรวงละลานตา
ผลิตภัณฑ์คุณค่าการค้าขาย
ชาชั้นดีที่นี่มีมากมาย
ขจรขจายขึ้นชื่อเลื่องลือไกล
มีโรงแรมที่พักนักท่องเที่ยว
ทั้งบ้านเดี่ยวห้องคู่ดูทันสมัย
บรรยากาศสะอาดประทับใจ
ในราคาพอไหวไม่เกินควร
เรื่องอาหารการกินไม่สิ้นไร้
ทั้งเทศไทยท้องถิ่นหรือจีนล้วน
คุ้มนายพลคนชมลองชิมชวน
เพิ่มความอ้วนขาหมูสูตรยูนาน
พอเย็นย่ำค่ำลงส่งตะวัน
แสนสุขสันต์ร่ำรุกสนุกสนาน
พบเพื่อนใหม่ต่างแดนแสนสำราญ
คาราโอเกะบ้านบ้านหวานน้ำคำ
คืนข้างแรมหนึ่งค่ำงามจันทร์ส่อง
ใจลอยล่องถึงไหนในคืนค่ำ
ลมหนาวพรมห่มดอยพลิ้วรอยจำ
คนไกลย้ำโทรหาว่าห่วงใย
บอกว่าลุ่มเจ้าพระยาน้ำท่าล้น
ท่วมบ้านเรือนขัดสนพอทนไหว
เพราะความรักไหลรวมท่วมหัวใจ
จึงส่งเสียงสดใสถึงปลายดอย