16 พฤศจิกายน 2554 07:37 น.
อินสวน
ณ ฟากฟ้าคืนหนาวดาวหม่นหมอง
ลมหนาวต้องใจกร้านสะท้านไหว
จึงไม่อาจซ่อนเร้นความเป็นไป
แม้สายเกินแก้ไขยังใฝ่คืน
มองราวฟ้าห่างไกลห่วงใยยิ่ง
จากใจจริงสัมผัสยากขัดขืน
ความหวังดีแต่หลังคงยั่งยืน
ไม่เคยแปรเป็นอื่นแม้สักครา
ฝากลมหนาวเล้าโลมไปพรมพรอด
ฝากอ้อมกอดยืนยันในฝันหา
ยิ้มทักทายฝากไว้กับจันทรา
ฝากดาราสบตาสัญญาใจ
ณ ฝั่งฟ้าพร่างพราวเห็นดาวตก
ยืนกอดอกเหว่ว้าน้ำตาไหล
คิดถึงลุ่มเจ้าพระยาห่วงอาลัย
อุทกภัยคลี่คลายแล้วหรือยัง
กาสะลองหอมบางน้ำค้างหยด
ยังไม่หมดหลงใหลในมนต์ขลัง
ปรารถนารักยิ่งยังจริงจัง
แม้เขาชังร้างรายังอาวรณ์
4 ตุลาคม 2554 09:12 น.
อินสวน
เสือภูเขาหนาวเหน็บด้วยเจ็บหนัก
คนเคยรักห่วงใยมาหน่ายหนี
ลืมทุกสิ่งจริงจังความหวังดี
ไม่เหลือแม้ไมตรีที่ผูกพัน
คอยหลบเลียแผลใจในถ้ำถิ่น
ไม่เคยสิ้นพยายามตามล่าฝัน
อาจเงียบเหงาอ้างว้างในบางวัน
อาจไหวหวั่นไปบ้างบางเวลา
เจ็บครานี้ไม่นานคงหายขาด
พิษ สวาทบาดรอยเสน่หา
ไม่ถึงขั้นระทมบ่มน้ำตา
เพียงรู้สึกปวดปร่าว้าวุ่นใจ
มีขอบฟ้ากว้างไกลท้าทายรอ
มีสายธารเพียงพอหล่อเลี้ยงไหล
มีเสียงเพลงขุนเขาลำเนาไพร
มีดอกไม้เพื่อนใหม่ในเส้นทาง
เสือใจหวานไม่นานจะผ่านพ้น
ข้ามเส้นความสับสนและหม่นหมาง
ความรู้สึกรักชอบที่บอบบาง
จะปล่อยวางด้วยธรรมที่ค้ำจุน
สองขาปั่นยืนยันมั่นคงอยู่
หนึ่งใจรู้ทุกรอบที่ล้อหมุน
สุขภาพแข็งแรงแปลงเป็นทุน
ธรรมชาติอบอุ่นยังคุ้นเคย
30 กันยายน 2554 12:45 น.
อินสวน
คิดฮอดคนหลอกลวงหลวงพระบาง
ป่านฉะนี้แรมร้างแล้วไฉน
คงลืมเลือนเพื่อนเก่าเคยเอาใจ
ลืมสะใบพาดบ่าเมื่อพาแลง
กราบพระธาตุพูสีที่ยึดมั่น
จวบตะวันล้ารอนเริ่มอ่อนแสง
กลับถึงบ้านเร่งรัดแล้วจัดแจง
ห้างพาขวัญแต้มแต่งดอกจำปา
ฟั่นฝ้ายเกลียวผูกข้อจากพ่อแม่
ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่แห่ห้อมหา
อวยพรให้ปลอดภัยไร้โรคา
ปรารถนาสิ่งใดสมใจปอง
ข้ามฟากจากเชียงแมนเกาะแขนเกี่ยว
ยื่นมือเหนี่ยวฉุดรั้งขึ้นฝั่งของ
ท่องราตรีอ้อนออดกอดประคอง
สบตามองไม่กระพริบจิบเบียร์ลาว
ร้านอินโดไชน่าฯในครานั้น
แรกเจอกันสัมพันธ์กลางลมหนาว
พลิ้วหมอกบางพร่างพรมฟ้าห่มดาว
ยามห่างไกลถามข่าวจากดาวดวง
อีกไม่นานเทศกาลออกพรรษา
จะกลับมาแม้เวลาจะเลยล่วง
หากไม่ลืมช่วยบอกอย่าหลอกลวง
ยังเป็นห่วงคิดฮอดตลอดมา
27 กันยายน 2554 13:56 น.
อินสวน
ฟ้าวันนี้สีจางเมฆบางแต้ม
สัญญาณแรมเลือนร้างจะห่างฝน
จะผ่านพร้อมฝันจางของบางคน
อีกหนึ่งความอดทนผ่านพ้นไป
ดอกแก้วร่วงกรูกราวอีกคราวนับ
การลาลับร้างเลื่อนความเคลื่อนไหว
เก็บกวาดซากเศษซอกออกจากใจ
ตัดเยื่อใยหอมห่างเจือจางตาม
มองราวฟ้าภูผาฝ้าม่านหมอก
มีข่าวบอกนำฝากฟากตรงข้าม
ว่าทางโน้นฟ้าคลี่เป็นสีคราม
แต่หนาวเริ่มรุกลามทุกยามนอน
พลิ้วเพลงเหงาเว้าวอนย้อนปลายทุ่ง
ดอกผักบุ้งขอบคุ้งเคล้าแดดอ่อน
วูบลมหวนชวนฝันวันอาทร
ภาพสะท้อนซ้อนลายแลชายเงา
เหลืองอร่ามดาวเรืองเล่าเรื่องผ่าน
เป็นตำนานใจคนหวานปนเหงา
ครบรอบลากันยาฝนบางเบา
นิยายรักเรื่องเก่า...ก็ขาดตอน
24 กันยายน 2554 10:28 น.
อินสวน
เพลงกล่อมเห่ทะเลทะลวงลึก
ทะลักล้นรู้สึกสะอึกกลั้น
กระทบทับขับไล่กระไรกัน
จวนจะขาดสะบั้นกระนั้นใจ
อุตส่าห์หนีเดียวดายจากชายเขา
ทะเลเหงาร้อยเท่าฤาไฉน
ข่มสะอื้นขมขื่นกลืนกลับไป
สู่ห้องใจอัดอั้นกลั่นเก็บรอย
เรือหาปลาลอยลำจำเจจอด
ความอยู่รอดไม่รอแม้ท้อถอย
ณกลางอ่าวชาวประมงยังคงคอย
หมึกกุ้งหอยประทังหวังของวัน
กระโจนจมงมงายแล้วหงายหน้า
เค็มน้ำตาเค็มกว่าทะเลฝัน
สำลักไล่คลื่นแรงช่วยแบ่งปัน
ความกดดันจากใจให้ทะเล