20 มิถุนายน 2550 16:30 น.
อินสวน
ได้อ่านความ คิดเห็น ประเด็นจาก
ข้อความฝาก กำลังใจ ล้วนไถ่ถาม
เปี่ยมน้ำใจ ไมตรี ที่ดีงาม
เฝ้าติดตาม เติมต่อ รอผลงาน
ทั้งดีใจ แกมเสียใจ ในครานี้
ดีใจที่ พี่-น้องรัก สมัครสมาน
ชวนอยู่ต่อ เพื่อถักทอ ก่อตำนาน
ร่วมสืบสาน บ้านกลอนไทย ให้รื่นรมย์
ใจหนึ่งนั้น หวั่นไหว เสียใจยิ่ง
คิดทอดทิ้ง จากไป ไม่เหมาะสม
เหตุผลเพียง อยากพักร้อน ผ่อนทุกข์ตรม
ด้วยขื่นขม เหนื่อยล้า มาช้านาน
ถ้อยวาจา โพส์ทตอบมา น้ำตาไหล
ปลุกปลอบใจ ห่วงไย ไม่หักหาญ
พลังความ จริงใจ ได้เบ่งบาน
พอต้านทาน ความท้อแท้ พ่ายแพ้ไป
จะคงอยู่ เป็นเพื่อน เหมือนหวังวาด
จะองอาจ บนเส้นทาง อย่างสดใส
ร่ายลำนำ คำกลอน ตอนต่อไป
ตามที่ใจ ปรารถนา และท้าทาย
20 มิถุนายน 2550 07:59 น.
อินสวน
ชั้นฝีมือ งานกลอน ยังอ่อนหัด
ไม่ถนัด สื่อสาร งานภาษา
ผลงานไม่ งามงด รจนา
จางคุณค่า น่ารำคาญ บนลานกลอน
หวังเร่งรัด พัฒนา ขึ้นมาได้
เพราะหลงใหล ใจรัก ด้านอักษร
แต่สวรรค์ ไม่เป็นใจ ลืมให้พร
จำจากจร ถอนหวัง พังทลาย
ขอบพระคุณ ที่เจือจุน แบ่งปันให้
กำลังใจ จากผู้รู้ ครูทั้งหลาย
จะบันทึก จารึกรัก คำทักทาย
เป็นเส้นสาย ลายสลับ ประทับใจ
คอยชื่นชม คำคม บทกวี
จากน้อง-พี่ ที่ชอบชิด พิสมัย
วรรณศิลป์ จินตนา ไม่ลาไกล
ขออวยชัย ให้จำรัส สวัสดี
15 มิถุนายน 2550 07:29 น.
อินสวน
ตะวันลอน อ่อนแรง แสงลับล้า
ร่วงโรยรา เรียงราย กระจายเกลื่อน
กับกฎเกณฑ์ กาลเวลา ที่มาเยือน
ไม่อาจเลื่อน รั้งรอ คำขอลา
เก็บจำปา มาเรียงร้อย เป็นสร้อยช่อ
งามละออ พ้อความหมาย ให้โหยหา
หอมประทิน กลิ่นลมุน กรุ่นอุรา
มีคุณค่า แม้ลับล่วง เจ้าดวงมาลย์
กราบเคารพ ศพครู ผู้ยิ่งใหญ่
ครูผู้ให้ ความรัก เป็นรากฐาน
วิทยาคม เพาะบ่ม อุดมการณ์
ให้เบ่งบาน กลางใจ ศิษย์หลายคน
บรรยากาศ ซึมเศร้า เคล้ากลิ่นธูป
เทียนไหววูบ ส่องธรรม นำกุศล
รูปบานใหญ่ ยิ้มย่อง ต้องกมล
ให้คิดวน เวียนหลัง ครั้งเยาว์วัย
ภาพอดีต หัดขีดเขียน เรียน ก.ไก่
จำขึ้นใจ อาขยาน ขับขานไข
มีเด็กชาย อินสวน มักกวนใจ
ชอบวิ่งไล่ โวยวาย ไม่ส่งงาน
คุณครูครับ ผมนับได้ แปดสิบห้า
ดอกจำปา อุปกรณ์ สอนคูณหาร
โอ้ดวงดอก จำปา อย่าร้าวราน
เจ้าจะบาน กลางใจ ไปนิรันคร์
13 มิถุนายน 2550 10:41 น.
อินสวน
ผมมีเพื่อน ต่างศาสนา ที่น่ารัก
เรารู้จัก สนิทกัน นานนักหนา
ลาจากกัน นับจากวัน รับปริญญา
ต่างพกพา อุดมการณ์ กลับบ้านตน
ยังติดต่อ ไม่หายห่าง ทางโทรศัพท์
ตอบโต้กลับ ผ่านอีเมลล์ เป็นบางหน
ส่งของฝาก มา-ไป ไม่อับจน
เราสองคน พุทธ-อิสลาม งามผูกพัน
เพื่อนโทรมา เล่าเรื่องราว ข่าวแดนใต้
ด้วยหมองไหม้ ใจวิโยค แสนโศกศัลย์
หวาดผวา ขมขื่น ทุกคืนวัน
ทั้งความฝัน วาดหวัง พังทลาย
ราชการ งานประจำ ที่ทำอยู่
ยิ่งหดหู่ เขาขู่เผา เป็นเป้าหมาย
เพื่อนร่วมงาน ถูกดักยิง ทั้งหญิงชาย
อีกมากมาย ปัญหา สารพัน
วอนทางการ รัฐบาล ช่วยแก้ไข
เขาบอกให้ รอเวลา สมานฉันท์
ให้ชีวิต รอถ้า ฆ่ารายวัน
ตายจากกัน กี่หมื่นพัน เพื่อสังเวย
หากเคราะห์ร้าย ตายจาก ฝากฝังหน่อย
รับลูกน้อย ไปเลี้ยงให้ ได้ไหมเอ๋ย
แม้เราต่าง ศาสนา อย่าละเลย
เพื่อนรักเอย..จงมั่นใจ....ให้สัญญา
10 มิถุนายน 2550 11:26 น.
อินสวน
เกิดมาเป็น กุลบุตร พุทธศาสน์
ไม่ควรพลาด ได้บวชเรียน เพียรศึกษา
ตามขนบ ประเพณี ที่สืบมา
จำพรรษา เคร่งครัด ปฏิบัติธรรม
ขอกราบลา บุพกา ญาติผู้ใหญ่
ที่เคยได้ เลี้ยงชุบ อุปถัมภ์
คนรูจัก มักคุ้น จุนเจือจำ
อโหสิกรรม สวัสดี มีมงคล
ทั้งพ่อแม่ ย่ายาย มารายล้อม
ญาติมิตรพร้อม ตั้งใจ ในกุศล
เป็นวันเบิก ฤกษ์งาม ยามบันดล
เชิญทุกคน น้อมนำ ก่อกรรมดี
ได้เวลา เช้าสามโมง ปลงผมนาค
เพื่อละจาก สิ่งปรุงแต่ง ทั้งแสงสี
ชำระล้าง ความกระด้าง จางราคี
มีราศี ผ่องแผ้วใส ใจมั่นคง
ถึงเมื่อสาย หมายยาม ได้ทำขวัญ
เพื่อทบทวน สิ่งดีงาม ตามประสงค์
สืบทอดธรรม ตามเหตุ เจตจำนง
ได้ดำรง ตามรอยบาท ศาสดา
นำผลบุญ เกื้อหนุน แทนคุณแม่
ทดแทนแก่ ค่าน้ำนม อุดมค่า
ทั้งคุณพ่อ ผู้ก่อเกิด กำเนิดมา
เลี้ยงลูกยา สุขสบาย ทั้งกายใจ
คำเรียกขวัญ วังเวงหวาน สะท้านจิต
พ่อนาคคิด พิจารณา น้ำตาไหล
มโนนึก ตรึกตรองตาม เนื้อความนัย
เกิดพลัง ยิ่งใหญ่ ในดวงจินต์
พระพุทธเจ้า ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์
โปรดมนุษย์ เวไนย หายโศกสิ้น
รสพระธรรม เลิศล้ำ อัมรินทร์
ชุบชีวิน ถวิลหวัง ทางโสดาฯ
อุปสมบท เป็นสงฆ์ องค์สุปะติฯ
สมาธิ ไม่ข้องขาด พระศาสนา
ได้รู้แจ้ง บรรเจิด เกิดปัญญา
ให้ญาติโยม ถ้วนหน้า ได้ผลบุญ