23 มกราคม 2555 07:56 น.
อินสวน
ขอโทษทีที่ทำไม่เหมือนเก่า
เพราะอยากลบรอยเหงาที่โหยหา
ทุกอย่างคงค้นพบยามสบตา
จึงเลือกจะหลบหน้าห่างเหินไป
ณ วันนี้ที่เดิมคงเดียวดาย
หากไม่ใช่โหดร้ายบอกได้ไหม
เป็นเพราะเธอหรือฉันที่ปันใจ
มีประโยชน์อะไรต้องทบทวน
กับรู้สึกสับสนปนหวาดหวั่น
ความผูกพันรู้ดีไม่มีหวน
อาจเป็นความอ่อนแอที่แปรปรวน
หรือเพราะความไม่ควรทางสังคม
ความรักที่ฉันให้คงมีน้อย
ความท้อถอยทวงถามความเหมาะสม
หรือแพ้ใจอ่อนไหวในอารมณ์
โครงสร้างรักจึงล้มไม่มั่นคง
ขอโทษทีที่ทำเพราะจำใจ
ไม่อาจจะแก้ไขตามประสงค์
เพราะเรื่องราวการพบมันจบลง
อย่าพะวงสงสารเช่นผ่านมา
ณ วันนี้มีสุขตามอัตภาพ
อาจไม่ทาบเทียมใครในวาสนา
แต่ไม่เคยน้อยใจในโชคชะตา
รู้คุณค่าพอเพียงหล่อเลี้ยงใจ
19 มกราคม 2555 19:44 น.
อินสวน
ปั่นปีนขึ้นขุนด่านปราการชล
ทะลักล้นใจคนรักล้นไหล
เหตุไฉนตัดสวาทขาดเยื่อใย
แทบขาดใจคิดถึงรำพึงครวญ
เบือนบ่ายหน้าเลี้ยวขวาหานางรอง
หวังได้คลายขุ่นข้องของอินสวน
ดอกไม้ป่ารายล้อมหอมอบอวล
สายลมหวนหอบใจไหลวารี
แม้ว่าเป็นนางรองของใครอื่น
หมายชมชื่นนวลน้องอย่าหมองศรี
หัวอกคนถูกกระทำและย่ำยี
พี่รู้ดีหนาวเหน็บและเจ็บนาน
หลังล่ำลาแวะยังวังตะไคร้
แดดรำไรไล้ลอดทะลุผ่าน
ฝ้ายคำคอยลอยล่องทั่วท้องธาร
คงร้าวรานเหมือนใจใครบางคน
เสือภูเขาเยือนย้อนนครนายก
พออุ่นอกอุ่นใจคลายสับสน
กราบหลวงพ่อปากแดงบันดาลดล
เป็นสิริมงคลพ้นโรคภัย
ชะเง้อชะแง้แลหาเขาชะโงก
หากมีโชควาสนาจะมาใหม่
มะยงชิดเชยชิดมิตรผูกใจ
เส้นทางไกลฤาจะกั้นคำสัญญา
5 มกราคม 2555 09:20 น.
อินสวน
บทกลอนที่เขียนผ่านบนลานเล่า
ทั้งใหม่เก่าเศร้าปนระคนหวาน
ในเส้นทางว่างเปล่าที่ยาวนาน
จะยังคงขับขานที่บ้านกลอน
ริมระเบียงบ้านเก่าคงเหงาต่อ
กับการรอลึกเร้นเป็นภาพหลอน
อาจขาดหายไปบ้างบางบทตอน
ยังสะท้อนใจกร้านที่ด้านชา
โมบายแกว่งกรุ้งกริ่งใจกรุ้มกริ่ม
ยังพอยิ้มคิดถึงคะนึงหา
กับเรื่องราวก่อนเก่ายาวนานมา
อาจโรยล้าไปบ้างเพียงบางวัน
แมงมุมยังชักใยไม่หยุดหย่อน
ใบไผ่ร่อนสลัดร่วงย้อนห้วงฝัน
มะม่วงผลิช่อดอกบอกยืนยัน
ถึงเวลาแบ่งปันความงดงาม
ระเบียงใจรำไรบ่ายแดดอ่อน
คงซุกซ่อนหลบเร้นเป็นคำถาม
เงากาแลลับแลชะแง้ตาม
จวบจนยามยอแสงค่ำแลงลง
ลมหนาวคงผ่านไปอีกไม่ช้า
หอบคุณค่าห่วงใยหรือไหลหลง
มาเยือนเย้าความฝันที่มั่นคง
หรือประสงค์หยันเย้ยเช่นเรื่อยมา
13 ธันวาคม 2554 13:04 น.
อินสวน
ขอเป็นเพียงเศษหนึ่งส่วนรู้สึก
หนึ่งในล้านสำนึกระลึกถึง
ลมรำเพยฝากคำถ้อยรำพึง
ไม่อาจดึงดูดใจไว้ครอบครอง
เพียงเสี้ยวซีกสัมพันธ์แบ่งปันมา
มีคุณค่าเกินกว่าที่ขอร้อง
การยินยอมตอบรับประคับประคอง
แม้ระดับเกี่ยวข้องยังห่างไกล
ขอขอบคุณไออุ่นเจือจุนแผ่
ในขอบเขตมิตรแท้ที่มีให้
เป็นแรงผลักภาพฝันบันดาลใจ
วาดหวังใหม่ก้าวข้ามความเดียวดาย
แม้สัมผัสไม่ได้ในความรัก
ไม่มีความแน่นหนักในความหมาย
ความจริงใจจากฉันเทียบเม็ดทราย
แต่มากมายเกินนับซึมซับรอย
ตะวันลอนอ่อนแสงแหล่งริมโขง
รอบลานโล่งแลเหลียวเปล่าเปลี่ยวหงอย
ยังพอมีลมพ้อเพื่อนรอคอย
ใจละห้อยล่องไหลตามสายชล
ล่องลมหนาวเรื่องราวส่งข่าวข้าม
ฝากคำถามหวนกลับยังสับสน
หนึ่งส่วนล้านมีไหมน้ำใจคน
ยังกังวลเพื่อใหม่จะใจดำ
5 ธันวาคม 2554 08:43 น.
อินสวน
แดดหน้าหนาวรำไรไล้ทุ่งทอง
ลมหนาวต้องล่องผ่านสะท้านไหว
คิดเอื้อนเอ่ยคำฝากลำบากใจ
คนอยู่ไกลเปลี่ยนไปเหมือนไม่เคย
เก็บความรักส่วนลึกรู้สึกผิด
คงปกปิดลำบากใจอยากเผย
สารภาพอ้อนวอนผ่านกลอนเชย
อย่าหยันเย้ยเยาะกลับให้อับอาย
ฝากลมหอบตอบคำลำนำล่อง
สู่หอห้องห่างไกลคงไม่สาย
ราวฟ้าหม่นใจคนยิ่งเดียวดาย
อย่าใจร้ายเลยหนาโปรดปรานี
อย่าลืมฉันม่วงครามยามแดดต้อง
เขาคงคิดขุ่นข้องจึงหมองสี
ให้อภัยสักหนนะคนดี
ต่อแต่นี้จะภักดีชั่วนิรันดร์
ป่านฉะนี้หลวงพระบางคงร้างเลือน
คงแชเชือนไม่เหมือนเคยร่วมฝัน
อยากมาบอกตอกย้ำคำยืนยัน
ความผูกพันวันเก่ายังเฝ้ารอ
องค์พระธาตุพูสีที่ศักดิ์สิทธิ์
ช่วยดลจิตสมหวังดั่งเคยขอ
ให้ความรักหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ
ความเข้าใจเติมต่อทอสายใย