6 กันยายน 2553 14:54 น.
อินทรีน้อย
แมลงปอปีนป่ายฟ้า สีคราม
เลาะลัดผ่านโมงยาม เยี่ยมไม้
ด้วยปีกบอบบางงาม เป็นสุข
คอยปลอบประโลมไล้ มิ่งไม้มนต์กวี
ด้วยมีรักแรกนั้น กับกลอน
เขียนขีดตามบทตอน ร่างร้อย
หลงใหลหมู่อักษร วิจิตร
มิตรมิ่งก็ใช่น้อย ต่างโต้กวีกัน
คืนวันที่ผ่านพ้น ทุกคืน
เราต่างถูกกลบกลืน ค่ำเช้า
วัยล่วงไม่อาจขืน หรือขัด
เขียนขีดพอหยอกเย้า ชุ่มชื้นชื่นใจ
ใครเลยจะล่วงรู้ วันใด
เราอาจจากใครใคร ร่างร้าง
สิ่งใดที่ภายใน ร้องร่ำ
เขียนเถิดอย่าปล่อยคว้าง ร่างร้อยบทกวี
แมลงปอมีหนึ่งต้น กวีไกว
บินเยี่ยม ยอด, ดอก, ใบ กิ่งก้าน
ข่มเหงาข่มดวงใจ เซ็งจับ
เขียนสื่อทุกทุกด้าน จากห้วงหัวใจ
สดใสหรือโศกซึ้ง ทรงจำ
เขียนสื่อผ่านลำนำ ฝากไว้
มีบ้างแนบขำขำ มาหยอก
เท่าที่พอแต่งได้ แต่งด้วยใจจริง
อ้างอิงกลอนอื่นบ้าง บางกวี
ร้อยร่างต่างวลี แต่งแต้ม
อาศัยสื่อสุนทรีย์ แต้มแต่ง
กลอนต่อพอเยาะแย้ม หยอกล้อรมย์กวี
2 กันยายน 2553 07:17 น.
อินทรีน้อย
ท้องฟ้า ท้องฟ้า
เธอผู้เป็นดั่งจันทราแสนไกลห่าง
ฉันคิดถึงท่ามฝันอันเลือนลาง
บอกข่าวเธอให้รู้บ้างคนทางนั้น
ดอกไม้ ดอกไม้
ข้าขอฝากคำห่วงใยไปแดนฝัน
ฝากเจ้าแนบ ปีก ภู่, ผึ้ง ไปโดยพลัน
มอบให้เธอในวันที่ท้อใจ
น้ำค้าง น้ำค้าง
บนยอดหญ้าแบบบางช่างสดใส
ก่อนที่เจ้าระเหยหายกลายเป็นไอ
คำคิดถึงขอแนบไปกับไอน้ำ
ผีเสื้อ ผีเสื้อ
ถือซะว่าช่วยเหลืออย่าได้ขำ
ข้าขอฝากคำห่วงใยสักร้อยคำ
ได้โปรดนำแนบปีกไปฝากเธอ
สายลม สายลม
ขอประนมนอบไหว้ด้วยใจเพ้อ
ช่วยพัดความคิดถึงจากคนละเมอ
บอกกับเธอ ว่ารักนี้ ไม่มีจาง