9 กุมภาพันธ์ 2549 10:50 น.

แววตาหม่นคู่นั้น

อินทรีน้อย

ฟ้าก็หม่นพื้นก็มัวสลัวสลาง
หมู่เมฆาท่ามฟ้ากว้างบดบังฟ้า
แต่แววหม่นหมองไหม้ในดวงตา
กลับหม่นหมองยิ่งกว่าบนฟ้าไกล
สิ่งไร้ค่าใครทิ้งขว้างมาทางนี้
แต่ที่นี่จะไร้ค่าก็หาไม่
ทุกทุกอย่างยังช่วยเสริมเพิ่มแรงใจ
เลี้ยงชีวิตให้เป็นไปในโลกกลม
หนึ่งมือกำถุงผ้าบนบ่าซ้าย
เอาไว้ใส่สิ่งสรรอันเหมาะสม
หนึ่งมือถือไม้เขี่ยของที่ปองชม
ที่จ่อมจมใต้ฝ่าเท้าเจ้าก้าวไป

ชีวิตในแดนเถื่อนยังไม่ถอย
ไม่รอคอยวาสนามาอวยให้
ยังต่อสู้ดิ้นรนยังมีไฟ
ตัวเราหล่ะเป็นใครทำไมท้อ
				
5 กุมภาพันธ์ 2549 13:53 น.

ก่อนสิ้นไร้ไม่เปล่าดาย

อินทรีน้อย


เหน็บหนาว ณ ราวป่า................หมู่พฤกษาต้องลมไหว

หรีดหริ่งและเรไร......................กล่อมแนวไพรด้วยบทเพลง

จันทร์เจ้าสาดแสงอ่อน...............และโคจรลอยเท้งเต้ง

ขุนเขาเหงาวังเวง........................หรือข้าเองที่เหงาใจ

หวีดหวิวแว่วแว่วเสียง................ศัพท์สำเนียงลมต้องไม้

คลับคล้ายเสียงหนึ่งใคร..............มาร่ำไห้และครางครวญ

ลองลองตั้งใจฟัง.........................เสียงกลับดังคล้ายเสียงสรวล

เริงร่าหัวเราะร่วน........................แล้วก็หวลเป็นโหยหา

ค่ำคืนที่มีดมิด..............................ยิ่งดลจิตให้เหว่ว้า

เรี่ยวแรงก็โรยรา..........................เหน็ดเหนื่อยล้ากับเดินทาง

ดุ่มเดินไปตามฝัน........................ใต้แสงจันทร์จันทร์กระจ่าง

เหน็บหนาวหนาวน้ำค้าง..............ท่ามเส้นทางที่ทอดยาว

ทดท้อในบ้างครั้ง..........................แต่ไม่ยั้งไม่หยุดก้าว

ปลุกปลอบใจทุกคราว...................แม้ปวดร้าวจะก้าวไป

เพียงเพื่อพิสูจน์ค่า..........................แห่งชีวาแห่งหัวใจ

ก่อเกิดเจริญวัย................................ก่อนสิ้นไร้ไม่เปล่าดาย

เหน็บหนาว ณ ราวป่า.....................แสงจันทรายังเฉิดฉาย

เดินดุ่มไปเดียวดาย..........................มุ่งจุดหมายแม้เลือนลาง
				
3 กุมภาพันธ์ 2549 11:25 น.

อย่าได้ท้อเลย

อินทรีน้อย


            สุรีย์ยังผ่องแผ้ว               แผดแสง
หน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง                   เจิดจ้า
บ้างหลบหมอกเมฆแฝง               หลังม่าน
สูรย์กลับยังแผดกล้า                    ส่องหล้ามิคลาย
            จันทร์ฉายยังแจ่มแจ้ง     ตามกาล
บ้างหลบหายไม่นาน                   เจิดจ้า
แม้เป็นแค่บริวาร                        แห่งโลก
ยังสาดแสงเด่นฟ้า                      แต่งแต้มราตรี
            คนที่มีทุกข์ท้อ               ท่ามทาง
อุปสรรคมากมายขวาง               ต่อหน้า
ฝั่งฝันยิ่งเลือนลาง                      พร่าพร่า
ขอเถิดนะมิตรข้า                        อย่าได้ท้อเลย				
26 มกราคม 2549 10:07 น.

นะใจจงหายเหนื่อย

อินทรีน้อย



ได้ยินว่าเหนื่อยเหนื่อย
สายลมเอื่อยกระซิบมาว่าอย่างนั้น
ในมุมหนึ่งที่สับสนเหนื่อยใจไม่แพ้กัน
นี่ก็เพิ่งอ้อนจันทร์ให้ผ่านคืนวันเหว่ว้าซะที

เอาหล่ะเหนื่อยก็เหนื่อย
แต่จะไม่ปล่อยให้เป็นเรื่อยเรื่อยแบบนี้
จึงต้องหยัดยืนด้วยแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มี
ปลอบโยนคนดีให้ผ่านคืนวันเหนื่อยล้าแบบนี้ด้วยกัน

นะใจจงหายเหนื่อย
ฝากสายลมเฉื่อยช่วยหอบแรงใจจากฉัน
และฝากผ่านไปกับดวงดาว อาทิตย์ พระจันทร์
ปลุกปลอบเธอตื่นจากฝันและผ่านคืนวันเลวร้ายซะที				
24 มกราคม 2549 06:18 น.

แด่เธอ

อินทรีน้อย

เพียงเพลงแผ่วเบาแผ่วเบาอย่างนี้
แล้วนี่ยังมีลมเอื่อยผสม
แทรกใจเหงา ๆ คละเคล้าอารมณ์
บวกความขื่นขมคับแค้นในใจ

จึงออกอาการบ้า ๆ บ๊อง ๆ 
ได้เห็นได้มองก็อย่าสงสัย
เพียงแค่ฟุ้งซ่านฟุ้งซ่านเกินไป
รับเรื่องมากมายไม่ไหวมันเบลอ

อยากเขียนงานงามให้ตามมาอ่าน
แต่ใจมันด้านช้าเฉื่อยเสมอ
เขียนคำไม่หวานไม่ซึ้งใจเธอ
ให้รู้ว่าเผลอว่าเพี้ยนพิกล

แต่อยากสื่อสารบางงานไว้ก่อน
วันไหนดับร้อนใจไม่สับสน
จะร้อยคำซึ้งให้หนึ่งบางคน
จะมอบกลอนกลกำนัลน้ำใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอินทรีน้อย