ยายแก่มากแล้ว หากใครจะถามยายว่า มีสิ่งใด ที่ทำให้ยายจดจำได้มากมายที่สุดในชีวิตรนี้ ก็คงจะต้องบอกว่า มันช่างเยอะเหลือเกิน ชีวิตของยายผ่านมาทั้งทุกข์และสุขเป็นชีวิตธรรมดาๆของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยที่เคยเปรี้ยวและเก่ง ของยุคที่ผู้หญิงรุ่นยายยังสาว ยายทำงานและเลี้ยงลูกเองสร้างฐานะด้วยตัวเอง เป็นหนี้เป็นสิน เงินผ่อน มันเป็นสมัยของยุคคนรุ่นยายยังสาว ความเป็นแม่ ของผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างยาย ความเก่ง ความสามารถ ความอดทน หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี อยู่ในทุกหยด ของเม็ดเลือดสีแดงอันเข้มข้น ทำไมผู้หญิง จะมีไม่ได้ ยายทนง จึงเป็นคนแก่ที่อวดดื้อถือดีบ่ยั่นใคร ใครๆก็รู้ แกรักลูกๆมาก ยายมีหมาเลี้ยงไว้หลายตัว ยายเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเพื่อน คนแรก ที่มีความผูกพันต่อกันอย่างลึกซึ้งคือลูกหมาพันธ์ไทยตัวเล็กๆ ที่ชื่อว่า ส้มตำ ฉันคุยกับยาย นานพอดู คุณแก้ว กับน้องกรอง ชอบขนมที่แกทำให้เด็กๆกิน เล่นเพลิดเพลินกับหมาหลายๆตัวของ แก ยายนง เป็นคนสะอาด และใจดี แต่ก็น่าเป็นห่วง แกมาอยู่คนเดียว ในบ้านสวน หลังเล็กๆ ลูกหลานแกไปใหนซะหนอ ปล่อยให้แม่แก่ๆ กับหมาอีกตั้งหลายตัว มาอยูแบบลำพัง เจ็บป่วยใครจะดูแล พาไปหาหมอ แกขับรถได้ แต่สภาพอย่างยาย คงไม่มีความสามารถ ขับไปไกลๆ ในถนนใหญ่ได้แล้ว ความเป็นหญิงเก่ง สมัยสาวๆ กับสภาพ ที่ วัยชรา ไม่มีลูกหลานดูแล คนแก่ตัวคนเดียว ตามลำพัง กับหมา น่าสงสารเหลือเกิน ยายกับฉัน และครอบครัว ของฉัน มีความผูกพันกันมากขึ้น อาจารย์ ธนบัติ สามีไม่รังเกียจที่ ฉันและลูกๆ ไปเยี่ยมเยียนยาย ทุกครั้งที่ฉัน เดินผ่านรั้วบ้าน เด็กๆจะเรียกคุณยายนง เราจะเห็นแกจะนั่งอ่านหนังสือ และจะดีใจ กระตือลือล้นทุกครั้ง ที่เห็นฉันและลูกๆ ยาย จะเล่าชีวิตสมัยเด็กๆของแก มันเป็นเรื่องราวที่ยาวนานมาก ของชีวิตเด็กๆ เมี่อ ห้าสิบ หกสิบปีมาแล้ว ฉันนึกภาพไม่ออก แต่ สิ่งที่ยายเล่า ชีวิตคนสมัยนั้น ทำไมนะ จึงเรียบง่ายและมีความสุขจัง ความทรงจำในวัยเยาว์ ของยาย สว่างพร่างพราย เหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวานมันเป็นภาพในความทรงจำ ของบ้าน ทรงไทยหลังใหญ่ปัจจุบันนี้ เราคงไม่มีวันได้รู้ว่า สภาพที่แวดล้อมในตอนนั้น คือต้นไม้ มากมาย ต้นกล้วย มีสภาพเหมือนป่า แทบไม่น่าเชื่อว่า นั่น บ้านพักข้าราชการ เมืองไทยเรา ห่างจากปัจจุบัน เพียงแค่ ห้าสิบ หกสิบปี เราจะมีต้นไม้ มากมายอุดมสมบูรณ์ขนาดนั้นทั้งๆที่ ณ ที่ตรงนั้น ยังเป็น ที่อยู่อาศัย หาใช่ป่าไม่ หากเป็นป่าจริงๆ คิดดู เราจะมีต้นไม้ อุดมสมบูรณืมากมาย ขนาดใหนหนอ ฉันฟังยายเล่า แล้วก็ ถอนใจอย่างแสนเสียดาย ต้นไม้ ที่มันพากัน ล้มหาย หนีหน้า แทบจะไมมีหลงเหลือ ในป่า ก้เถอะ ฟังยายเล่าดีกว่า ยายเล่าว่า บ้านพักข้าราชการในต่างจังหวัด ที่จังหวัดพิษณุโลกในสมัยนั้น บ้านจะปลูก ห่างกันเป็นระยะๆ ที่กว้างมากมีถนนราดยาง ต้นไม้ปลูกริมถนนสองข้างทาง สูงใหญ่ กลางคืนจะมืดมาก เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนใหญ่จะใช้รถจักรยาน ถ้าใครมีรถขับ ก็ต้องนับว่ามีฐานะร่ำรวย ตอนนั้น คนจะใช้รถยุโรป ยี่ห้อ ดอร์จ เครื่องยนตร์ดังมาก เพราะหยั่งงี้ พวกเด็กๆจะวิ่งเล่น กันอย่างสนุกสนาน อิสระเสรี พวกข้าราชการ จะขี่รถจักรยานไปทำงาน คุณพ่อมีคันนึง ท่านแต่งชุดข้าราชการสีกากี กางเกงขาสั้นคลุมเข่า รองเท้าคัดชู เข็มขัดหนัง ขัดเงา ผมแสกกลาง ฉันนั่งนึกเท่าไร ก็ให้นึกไม่ออกจริงๆ
ตอนที่ ๒ สายน้ำที่ใหลเอื่อยๆ นิ่ง แต่เชียวกราก ในบางวัน น้ำจะไหลเซาะริมตลิ่งฝั่งตรงข้ามเป็นรอยเว้า แต่ทางฝั่งที่บ้าน..เราทำเขื่อนป้องกันไม่ให้ดินถูกเซาะหายไป ฉันปลูกต้นต้นทานตะวันพันธ์ดอกใหญ่มาก ที่ริมรั้ว เลียบชายคลอง ดอกทานตะวันยามโดนลมพัด ถ้าพายเรือผ่าน แล้วมองเข้ามา จะสวยงามมาก ทุกดอก จะใหญ่มาก สีเหลือง ทองอร่ามและดกมาก พวกชาวสวน ที่พายเรือผ่าน จะเรียกบ้านของฉันว่า บ้านไร่ทานตะวัน ชายคลอง อาจารย์ ธนบัตร สามีของฉัน เธอจัด โต๊ะเก้าอี้ แบบ Out Door สีขาว ไว้ที่ตรงชายน้ำ ริมรั้ว เพราะเธอชอบให้จัดโต๊ะอาหาร รับประทานนอกบ้าน เพื่อ ดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำ และชีวิตแบบไทยๆ ที่เรียบง่าย กับธรรมชาติ ที่ปราศจากแสงสีที่ปรุงแต่ง มี คุรแก้ว และน้องกรอง ลูกสาวและลูกชาย วิ่งเล่น หยอกเย้า อยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างกาย เสียงหัวเราะที่สดใสของลูกๆ เสียงใสๆ ที่หยอกเย้า มันถ่ายทอดอารมณ์แห่งรัก ผูกพันธ์ระหว่างครอบครัว พ่อแม่ลูก หากเวลา จากนี้ แม้ว่าจะผ่านไปนานสักเท่าใด ฉันสามารถบอกได้เลยในตอนนี้ว่า จะไม่มีวันลืม ความสุขในครอบครัวน้อยๆของฉัน สามีที่แสนดี ...พ่อพระของฉัน ลูกสุดที่รัก โซ่ทองรัก ที่คล้อง ความรัก ความผูกพัน ผนึกแน่น ไม่มีวันคลาย ..... และวันหนึ่ง เมื่อคุณธนบัติไม่อยู่บ้าน เพราะต้องไปสอน นักศึกษา วิศว ที่สถาบัน ฉันเดินไปที่บ้านพัก ลุงผล กับป้าเนียม เพื่อจะสั่งงานแก เรื่องผลไม้ มี มะม่วง และพืชผัก ที่ชาวสวนข้างใน มาขอเหมาซื้อ เพื่อจะเอาไปส่งที่ตลาด มีคุณแก้ว กับน้องกรอง ลูกสาว ลูกชาย พร้อมด้วยพี่เลี้ยงตามมาด้วย ขณะที่เดินเรื่อยๆเอื่อยๆ พลันก็ ได้ยินเสียง หมาเห่า หลายตัวมาก ดังมาจาก สวนข้างที่ติดกัน ถ้าจำไม่ผิด จำได้ว่า ลุงผล เคยบอกว่า ไม่มีใครอยู่ดูแล มีบ้าน ไม้สองชั้นที่ ปิดกุญแจ เหมือนปิดตาย แต่วันนี้ ได้ยินเสียงหมาหลายตัว เห่า ฉันจึงหยุดเดิน และหันไปดู....ก็เห็น หญิงแก่ ประมาณเกือบ 70ปี...ได้ยินเสียงยายห้ามหมา ...และหันมายิ้กับฉัน อย่างมีไมตรี เมื่อได้รับการแนะนำ จาก ลุงผล และป้าเนียม จึงรู้ว่า ยาย คนนี้ชื่อ ทนง คงไทย อายุราวๆ70 ปี...มีหมาประมาณมี ประมาณ 7-8ตัว ที่กลัง ห้อมหน้า ห้อมหลัง วนเวียน อย่างรักใคร่ ในตัวแก
๑ บ้านที่ฉันอยู่ในปัจจุบันนี้ อยู่ในเขตบางขุนเทียน เป็นพื้นที่มรดกจาก คุณตาคุณยาย แม่ยกให้ฉันเป็นของขวัญแต่งงาน ต่อจากนั้น เมื่อันกับสามี กลับจากเยอรมัน เรามาปลูกบ้านเป็นแบบทรงไทยโบราณ มันเป็นความใฝ่ฝันของฉันเอง ฉันรักบ้านทรงไทยมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เพราะฉันผูกพันกับคุณยาย บ้านที่อยู่ตอนเด็ก เป็นบ้านทรงไทยแฝด ฉันรักชีวิตสมัยเด็กๆเหลือเกิน คุณยายใจดีมาก เรามีนกขุนทองพูดได้ และพูดเก่งมากที่สวนที่บางขุนเทียน เคยมีคนเอามาจำนองแล้วไม่สามารถมาไถ่คืน คุณยายยืดเวลาให้จนเค้าต้องยอมรับว่า ไม่มีเงินมาไถ่คืนได้แล้ว เพราะลูกหลานแกไม่เอาใหน ฉันจำได้ ว่าคุณยายท่านให้เงินเค้าไปก้อนนึง เป็นราคา ซื้อขาย เพราะท่านสงสาร เห็น เจ้าของที่ กราบเท้าคุณยายแล้วร้องไห้ ต่อมา ท่านปลูกเรือนหลังเล้กๆให้อยู่ตรงปลายสวน และให้ดูแล พืชผัก ผลไม้ในสวน อนุญาตให้เอาไปขายเลี้ยงชีพกัน สองคน ผัวเมีย แกชื่อลุงผล กับป้าเนียม ตอนนี้ ฉันก็ยังอนุญาตให้แกอยู่ที่เดิม ไม่ได้ให้แกย้ายไปใหน ลุงผลแกปลูกมะม่วงเก่งมาก มีเป็นสิบๆต้น แกเก็บไปขายที่ตลาดทุกปี แบ่งเอาไว้กินบ้าง เงินที่ขาย มะม่วงเนี่ยะ แกจะเก็บไว้ส่วนนึ่งไว้ทำทุน ค่าใช้จ่ายในสวน และค่ากินอยู่ ของแก กับ ป้าเนียม อีกส่วนแกจะนำมาให้คุณยาย เป็นค่าเช่าสวน พอคุณยายเสีย แกก็เอามาให้แม่ แต่แม่ ให้แกมอบให้ฉัน เพราะฉันเป็นเจ้าของทีสวนที่แกอยู่ ลุงผล กับป้าเนียม ทำกับข้าวอร่อยมาก สามีฉัน จบวิศวกร และ เพิ่งเรียนจบทุน ของรัฐบาลเยอรมัน มีข้อผูกพันกับรํฐบาล สอนที่ คณะวิศว สถาบันใกล้บ้าน ตอนนี้ ฉันมีลูกสองคน คุณร้อยแก้ว ลูกสาว กับ น้องร้อยกรอง ลูกชาย ที่บ้านสวนของฉัน ปลูกเลียบขนาบกับชายน้ำ ที่ใหลเย็นเอื่อยๆ ชาวสวนที่นี่ ใช้เป้น ทางลำเลียงผลไม้ใส่เรือ ออกไปขายที่ตลาด อาจารย์ ธนบัตร สามีของฉัน เธอหลงใหลบรรยากาศแบบไทยมาก เพราะชีวิตส่วนใหญ่ เธอจะเติบโตที่เมืองนอกตรงริมธารชายคลอง เราทำรั้วโปร่งเหล็กดัด สีขาว กั้นเลียบชายคลอง เพื่อรักษาบรรยากาศ และดื่มด่ำกับมัน ยามพระอาทิตย์ขึ้น และตก เหนือยอดมะพร้าว และป้องกัน ไม่ให้ลูกๆวิ่งตกน้ำ