จำได้ไหมม้านั่งนี้ เราเคยนั่ง วาดทางหวัง ระหว่างเรา ใต้ไม้ใหญ่ จากนั้นมา ถึงวันนี้นานเท่าไร แสนหวั่นไหวในทุกครั้ง ที่มาเยือน มาวันนี้ ณวันนี้ ฉันมาอีก เธอคงหลีกหลบหนีหน้า ไม่อยากเห็น ฝนกระหน่ำตกซ้ำๆ พร่ำกระเซ็น หนาวลมเย็นบาดหัวใจ สะท้านทรวง น้ำจากฟ้า คงร่วงหล่นหม่นใจนัก น้ำตารัก จากช้ำใจ ให้แสนปวด เป็นสิบปีที่ ฉันมาแม้ร้าวรวด วันแสนปวด ที่แยกเรายังตราตรึง
ทุกวันนี้ มียัยอ้วนหมูแมว เป็นเพื่อนแก้ว เคล้าคลอ ในยามเหงา วิ่งตามร้องเหมียวๆ อยู่กับเรา เอาอกเอาใจและเอาเชิง รักใคร่ดูแลเพราะผูกพัน อ้วนกับฉัน เรามีกัน เพียงแค่นี้ วันเวลาและทรงจำอันแสนดี แมวตัวนี้ฝากชีวีไว้กับเรา อ้วนขี้เหงา ถ้าฉันไกลเขาจะเศร้า มานั่งเฝ้าประตูบ้านยามพลบค่ำ ร้องเหมียวๆถามอยู่ได้ถามซ้ำๆ สอนไม่จำ สอนให้พูดว่"าม้าม่า" ยังดีใจชีวิตนี้ที่มีเพื่อน ก็ยังเหมือนมิใช่เราจะโดดเดี่ยว ถึงยังไงก็ไม่ใช่ตัวคนเดียว มีเจ้าเหมียวอ้วนพอง เป็นเพื่อนตาย
รักของเรามาจบลงตรงทางแยก ใจก็แหลก รักก็ร้าวคราวขื่นขม ความวิกฤติแห่งสัมพันธ์ผูกเป็นปม ต้องเลิกล้มแห่งสายใยที่เคยมี หากจะเกิดก็ต้องเกิดมิอาจห้าม เพราะไฟลามมันจะลุกตามวิถี ด้วยอย่างน้อยก็เคยให้อย่างหวังดี ฉันคนนี้คงต้องหยุดไม่ขัดใจ
บางครายังคิดว่าเธออยู่ตรงนี้ คนแสนดีที่ฉันนึกถึงเสมอ คนที่ฉันเฝ้าฝันจะเจอะเจอ ยามที่เพ้อแทบขาดใจในบางวัน ที่ตรงนั้น ในทรงจำอันอ่อนไหว ก็เก็บไว้ในลิ้นชักกำมะหยี่ ความทรงจำระหว่างเราช่างแสนดี ทุกครั้งที่นึกถึงมันนั้นสุขเกิน อยากเก็บเอาไว้ในสิ่งที่ดีๆ ทุกครั้งที่นึกถึงกันก็ยิ้มได้ ถึงแม้ว่าจะมีบ้างเรื่องเสียใจ ไม่เป็นไร ฉันอยอมได้ เพราะรักเธอ
หวั่นไหว ทำไม กับความเจ็บ กับหนาวเหน็บ กลัวทำไม ใจเจ้าเอ๋ย ก็รู้ดี รู้อยู่แล้ว ของคุ้นเคย หากจะเอ่ย เคยผ่านมา มันยังตาม จะไปถาม จะไปทัก ทำไมเล่า ก็เพื่อนเก่า คนกันเอง คุ้นเคยอยู่ น้ำตาไหล นองกลบหน้า มันก็รู้ ของเคียงคู่ ชีวีเรา ความเหงาใจ จนป่านนี้ ยังมีหน้า น้อยใจอีก โลกอีกซีก แม้เดินไป ก็ยังเหงา ความเจ็บปวด ความหนาวเหน็บ เป็นของเรา คนเขลา เขลา เช่นเรา ต้องสะใจ...