6 มีนาคม 2551 20:48 น.
อาราเล่
...งมงาย เวอร์ชั่น...มณีจันทร์...
วันจะเคลื่อน คล้อยไป ใจยังมั่น
มิเปลี่ยนผัน จากเธอ ยามห่างหาย
คนที่รอ ตามหา มาแนบกาย
คนสุดท้าย ที่ฉัน ฝันละเมอ
ยังรักมั่น แม้เรา จะไกลห่าง
มีอ้างว้าง บางคราว ยามพลั้งเผลอ
ใจยังรัก มั่นคง ตรงแต่เธอ
อยากพบเจอ อีกครั้ง ยังเฝ้ารอ
ไม่รู้เธอ เหมือนฉัน บ้างหรือไม่
ในหัวใจ มีเรา หรือเปล่าหนอ
รักฉันไหม ในใจ ยังเฝ้ารอ
แต่มิท้อ ซักครั้ง ยังคงเดิม
ชั่วฟ้าดิน สลาย ในภพนี้
หากไม่มี ผู้ใด ใคร่ส่งเสริม
จะรักเดียว เกี่ยวใจ ให้เพิ่มเติม
เหมือนคงเดิม แต่ครั้ง ยังผูกพัน
รอตรงนี้ ที่นี่ ไม่มีเปลี่ยน
วันคืนเวียน หมุนผ่าน ไม่ผกผัน
จะรักมั่น คงเดิม เติมให้กัน
สัญญามั่น นิรันดร์..ฉันรักเธอ...
...งมงาย เวอร์ชั่น...ยาแก้ปวด...
เวลานานเนิ่นแล้ว ผ่านมา
โดดเดี่ยวเคล้าน้ำตา อกกลุ้ม
รอคอยร่ำร้องหา คนหนึ่ง
เพียงเพื่อมาโอบอุ้ม รักให้คลายหนาวฯ
ทางอาจยาวไขว่คว้า แสนไกล
สูงสุดเกินหัว ใจ แตะต้อง
คงไม่ผิดใช่ไหม จะรัก
เพราะรักซ่อนคอยฟ้อง อาจเอื้อมไม่ถึงฯ
จะดึงรั้งเหนี่ยวไว้ ทำไม
ปลดปล่อยเขาออกไป สร่างเศร้า
ไม่เหลือสิ่งอะไร ให้ชื่น
ขมขื่นอกปวดร้าว แตกด้วยใจคนฯ
วนเวียนในร่างนี้ งมงาย
ดำดิ่งจมเจียนตาย หมดสิ้น
หัวใจแหลกแตกสลาย คาที่
ร้าวรักอกแทบปลิ้น หม่นไหม้สาบสูญฯ
...งมงาย เวอร์ชั่น...อาราเล่...
แม้เนิ่นนานแค่ไหน..ฉันไม่รู้
ยังคงรอเธออยู่..ไม่ไปไหน
แม้วันนี้..อาจมีที่ห่างไกล
แต่หัวใจ..มั่นคง..ตรงต่อเธอ
เธอยังรักอยู่ไหม..ฉันไม่รู้
แต่ที่รู้..หัวใจฉัน..มั่นเสมอ
ไม่เคยคิดเปลี่ยนใจ..ให้พบเจอ
แม้ไร้เธอ..เพ้อเปลี่ยวหรือเดียวดาย
คงไม่ผิดใช่ไหม..ที่ใจรัก
ยังฟูมฟักหัวใจ..ไม่สลาย
มิยอมให้เวลา..มาทำลาย
แม้ว่าเธอ..จักหายไปแสนไกล
ฉันยังมีหัวใจ...และได้หวัง
เป็นพลังยืนอยู่..ให้สู้ไหว
ยังมั่นคงต่อเธอ..ไม่เปลี่ยนไป
แม้ใครมองงมงาย..มิวายรอ
เธอมีทางเดินใหม่..ไม่เหมือนฉัน
คงห้ามกันไม่ได้..ไม่รั้งขอ
แค่ใจฉันรักเธอ..เท่านั้นพอ
ชีวิตนี้..ฉันขอมีเพียงเธอ
ตราบจนวันสุดท้าย..ในตัวฉัน
จะขอมั่นผูกใจ..ไว้เสมอ
เพียงเกิดมา..แล้วพาให้พบเจอ
ที่พร่ำเพ้อละเมอหา..มาแสนนาน
แล้วรู้ว่า...เธอมีค่ามากเพียงไหน
ไม่เสียใจสักนิด..คิดขับขาน
ไม่เสียใจแม้เป็น..เพียงวันวาน
จะเปรียบปาน..รักเธอเสมอใจ
ฉันจะอยู่ตรงนี้..ถึงที่สุด
จะไม่หยุดรักเธอ..ไม่เผลอไผล
แม้วันนี้..หยุดตรงที่..ไม่มีใคร
ถึงยังไง ฉันก็...จะรักเธอ...
เพลง : งมงาย โดย : ชาคริต แย้มนาม
จากภาพยนต์ : คริตกะจ๋า บ้าสุด...สุด
เนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ที่รอเธอ ฉันจำไม่ได้
ที่จำได้ดีคือฉันมีเพียงเธอ แม้นานสักแค่ไหน
เธออยู่ที่ใด ยังรักกันไหม ฉันไม่รู้
แต่ที่รู้ คือฉันนั้นยังไม่เปลี่ยนใจ
ยังอยู่ตรงนี้ ถึงแม้จะเหงาและเดียวดาย
ไม่ผิดใช่ไหม ที่ฉันจะยังรักเธอ
ไม่ว่าเธอกับฉันวันนี้ จะอยู่แสนไกล
ก็ยังจะรอ อย่างมีความหวัง ยังคงไม่เปลี่ยนไป
ไม่ว่าใครจะมอง ว่าฉันงมงาย ฉันก็ยังเหมือนเดิม
เมื่อเธอมีทางชีวิตไม่เหมือนฉัน ฉันห้ามไม่ได้
แต่ฉันจะมีชีวิต เพื่อรอเธอ แม้วันสุดท้าย
เกิดมาได้เจอ คนที่ตามหา มานานแสนนาน
ทำให้รู้ ว่าเธอมีค่า มากแค่ไหน
จะอยู่ตรงนี้ ถึงแม้ว่าฉัน จะไม่เหลือใคร
...จะรอแค่เธอ ถึงแม้ใครหา ว่างมงาย
ไม่ผิด ใช่ ไหม ที่ฉันจะยัง รักเธอ
ไม่ว่าเธอกับฉันวันนี้ จะอยู่แสนไกล
ก็ยังจะรออย่างมีความหวัง ยังคงไม่เปลี่ยนไป
ไม่ว่านานเท่าไร ยังมีเพียงเธอ
ไม่ว่ายังไง ฉันก็ ยังเหมือนเดิม
ไม่ว่ายังไง ฉันก็ จะรักเธอ
14 กุมภาพันธ์ 2551 14:15 น.
อาราเล่
ในที่สุด เรื่องราว เราต้องจบ
เธอเลือกคบ คนใหม่ ให้แทนฉัน
ในที่สุด เราสอง ต้องแยกกัน
เธอเลือกเขา คนนั้น ฉันเข้าใจ
ยังฝืนยิ้ม ยินดี วันที่จาก
น้ำตาพราก สุดกลั้น ด้วยหวั่นไหว
ไม่อยากตื่น ยืนมอง แลจ้องไป
ทอดอาลัย ในรัก ที่หักลง
แม้ร่ำร้อง เพียงไร เธอใช่อยู่
สิ่งที่รู้ คือใจแหลก แตกเป็นผง
รักแค่ไหน หัวใจ ให้ปลดปลง
เคยยืนยง คงปล่อย ใจลอยไป
นับแต่นี้ เธอคนดี คงมีสุข
และทุกทุก คืนวัน พลันสดใส
อยู่ด้วยรัก พักพิง แอบอิงใจ
กับคนที่ เธอฝันใฝ่ และใคร่รอ
แม้ฉันต้อง เสียใจ ให้กลืนเก็บ
และหนาวเหน็บ เจ็บใจ เกินใคร่ขอ
กับอดีต กรีดซ้ำ ย้ำเกินพอ
ฉันก็ขอ กลืนเก็บ เจ็บฝ่ายเดียว
เพราะอย่างน้อย ยังสุขใจ ที่ได้รัก
เคยฟูมฟัก พักใจ ให้แลเหลียว
เคยทุ่มเท รักใคร่ แม้ฝ่ายเดียว
ได้เก็บเกี่ยว รักนี้ ที่จริงใจ
เคยรักกัน เท่านั้น ฉันว่าคุ้ม
เคยได้ทุ่ม เทมา ว่าอ่อนไหว
ได้เห็นค่า รักแท้ แน่เพียงใด
แม้สุดท้าย ต้องลาไกล ใจก็ยอม
เหมือนชีวิต รักเรา เฝ้าแขวนไว้
บนเส้นด้าย บางบาง อย่างถนอม
กลัวจะขาด ลงไป ให้จำยอม
และตรมตรอม รับชะตา ว่ารวนเร
เมื่อเธอเจอ ทางดี เธอมีใหม่
ฉันต้องหลีก ทางไป ให้หักเห
ยอมกลับหลัง ทั้งทั้ง ที่ลังเล
สุดว้าเหว่ สุดใจ ให้จำทน
นับแต่นี้ ต่อไป ไม่มีเขา
ความเจ็บร้าว แทงใจ ให้สับสน
ดั่งคมมีด กรีดใจ ใคร่ร้อนรน
ดั่งต้องมนต์ จนใจ ไร้หนทาง
จำจากไกล เพื่อให้ เธอได้สุข
จำทนทุกข์ หลีกไป ไม่กีดขวาง
ยังภูมิใจ ในรักนี้ ที่แยกทาง
แม้นเลือนราง ห่างไกล ไม่มีเรา
เพราะอย่างน้อย จากมา ว่าด้วยรัก
และยอมจัก หลีกให้ ไปกับเขา
ถึงแม้ว่า กายห่าง พร่างสองเรา
แต่ใจเฝ้า แนบชิด...นิจนิรันดร์...
29 มกราคม 2551 20:40 น.
อาราเล่
เมื่อเย็นย่ำ ร่ำตะวัน พลันหลบหาย
ฟ้ากลับกลาย เลือนลาง ห่างเห็นแสง
ลมเย็นเย็น พลิ้วไหว ให้เสียดแทง
ฟ้าเคยแจ้ง ตะวันร้อน เริ่มผ่อนคลาย
เหมือนเจ้าร้าง ลาไกล ใคร่พักผ่อน
หลับตานอน อ่อนไหว ใยหลบหาย
โอ้ปลายเอ๋ย ปลายตะวัน พลันเดียวดาย
หรือสลาย ไปแล้วเจ้า ไม่เข้ามา
เคยยินเรียก เพรียกสอน วอนเป็นโคลง
เพื่อจรรโลง บทกวี ที่ครวญหา
เหล่าศิษย์รัก เรียกร้อง มองทุกครา
เมื่อไหร่หนา จึงมา ว่ารำพึง
เหล่าลูกศิษย์ ชิดซ้าย อยู่ปลายแถว
อยู่เป็นแนว โคลงเมา เฝ้าคิดถึง
เละตุ้มเป๊ะ เสียแล้ว แนวตะลึง
ครูต้องอึ้ง แน่แท้ แค่แนวเมา
โอ้ครูจ๋า โผล่หน้า มาเห็นหน่อย
ลูกศิษย์คอย ชะเง้อ เพ้อแสนเหงา
อยากยินเสียง เพรียกสอน วอนขัดเกลา
ช่วยมาเฝ้า สานต่อ ป้อบทกลอน
โอ้ปลายเอ๋ย ปลายตะวัน อย่าพลันห่าง
โปรดกลับมา สู่ทาง ช่วยวางสอน
โปรดอย่าร้าง ไปนาน พานขอวอน
กลับบ้านกลอน เถิดเจ้า เพื่อนเฝ้าคอย
...แด่ คุณปลายตะวัน ปิ๊กบ้านเฮาเต๊อะอ้าย
เจ้าหมู่บ้านกลอนกึ๊ดเติงขนาด อย่าไปเมิน เน้อ!!!
23 มกราคม 2551 20:51 น.
อาราเล่
อาราเ ล่ เห่ระทม ตรมเพราะว่า
โรงน้ำชา เปิดมา ท่าจะเจ๊ง
ด้วยเจ้าหนี้ เฝ้าถาม ตามเพ่งเล็ง
บังคับเคร่ง ให้เปิดบ้าน ร้านคงพัง
จึงข่มใจ ต้อนรับ และขับสู้
แต่ที่รู้ เพื่อนพา มาด้วยหวัง
ให้เรียบราบ เป็นหน้ากลอง แล้วก้องดัง
ร้านตรูพัง แน่แท้ แลระทม
เหมือนมีลาง สังหรณ์ วอนเป็นห่วง
เหมือนมีดวง เงาดำ ทำขื่นขม
พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก แตกระงม
เลยตรอมตรม ข่มใจ ภัยจะมา
จึงจำต้อง ฟาดเคราะห์ สะเดาะโศก
วิปโยก เหลือใจ อาลัยหา
ต้องให้หมอ สืบสรวง ดวงชะตา
คงต้องมา แก้เคล็ด ให้เผ็ดมันส์
จึงเตรียมงาน เปิดบ้าน เป็นการใหญ่
เร่งรี่ไป หาเสบียง เรียงรังสรรค์
ทั้งเหล้ายา โซดาน้ำ ร่ำมากัน
มีเหล้าปั่น มาแจม แหล่มจริงจริง
ก่อนเข้าร้าน งานนี้ มี"บังคับ"
ต้องมาจับ หนึ่งแก้ว แล้วมาสิง
ดื่มเหล้าปั่น ที่จัดให้ ไม่ประวิง
ก่อนจะชิ่ง ทำอะไร ให้ร้านพัง
เลือกก่อนหนา ว่าจะเอา อะไรปั่น
ก่อนเม้นกัน ระบุด้วย ช่วยให้ขลัง
ว่าหยิบแก้ว ปั่นอะไร ให้มากัน
ใครมั่วนั้น ปรับแน่ แม่ไม่ยอม
เลือกเมนู ด้านล่าง อย่าอ้างเหตุ
ปฎิเสธ ไม่ได้ ไม่ถนอม
หากมิใช่ พระ-เจ้า เรามิยอม
อย่าอ้อมค้อม เลือกกัน...ฉันจะริน...
กราบเรียน ท่านแขกผู้มีเกียรติที่เคารพ รัก ยิ่ง
ก่อนอื่น ทางร้านขอชี้แจงให้ทุกท่านทราบว่า
ก่อนที่ท่านจะย่างกรายเข้าร้าน
ด้านหน้าท่านเห็นแก้วอะไรหรือไม่
ถูกแล้ว เหล้าปั่น ซึ่งเป็นสิ่งสมนาคุณจากทางร้าน
เพื่อมอบให้แก่ทุกท่าน ฟรี ต้องกิน
ขอย้ำ ** ต้องกิน**
เหล้าปั่น 7 ชนิด กำลังอวดโฉมรอท่านอยู่ หึหึ
กรุณาหยิบแก้ว ย้ำ **กรุณาหยิบแก้ว**
แล้วเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
***บังคับ***
** ฟรุ๊ตตี้ปั่น**
**ตาหวานปั่น**
** เกี๊ยวซ่าส์ปั่น**
**ทะเลปั่น**
**DEVILปั่น**
**ปั่นนรกปกไพรี**
**ฟ้าพิโรธปั่น**(สำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์)
กรุณาทำตาม กฎ กติกา มารยาทของเจ้าบ้านด้วย
1 เม้น ต่อ 1 แก้ว หากติดใจในรสชาด กรุณากลับมาเม้นใหม่ อีกครั้ง ทางเรายินดี
หากว่าแขกท่านใดเป็นโรคความดัน ตับ หัวใจ โปรดระบุ
ทางร้านจะยินดีจัด "ฟ้าพิโรธปั่น" ให้ท่าน เป็นกรณีพิเศษ
หากท่านมิใช่พระ เจ้า เราไม่ปราณี หึหึ
กรุณาทำตามข้อตกลงด้วย จักขอบคุณยิ่ง
และเพื่อเป็นการยืนยันว่าท่านรับแก้วจริง
***กรุณาชูแก้วในเม้นของท่านด้วย ขอบคุณ***
ขอย้ำ 1 เม้น ต่อ 1 แก้ว มา 5 เม้น ก็ 5 แก้ว
ขอบคุณ ที่ให้เกียรติ และให้ความร่วมมือกับทางร้าน เป็นอย่างดี
กรุณาเลือก 1 เมนู ส่วนผสมมีดังนี้
...ฟรุ๊ตตี้ปั่น...ส่วนผสมคือ
(เหล้าสามนิ้ว,เฮลลบูบอย,เฉาก๊วย,บ๊วยเค็ม,
แอปเปิ้ล,มะละกอ,กล้วย,ส้ม,มะนาว,โซดา)
...DEVILปั่น...ส่วนผสมคือ
(โซดา,เหล้า40ดีกรี,เหล้าแม่โขง,ไวท์แดง,
โค้ก,เบียร์,เยลลี่)
...ตาหวานปั่น...ส่วนผสมคือ
(เหล้าป่า,โค้ก,ไอศกรีม,มะนาว,โซดา,
คอฟฟี่เมต,ไมโล,เฮลบลูบอย,พุทราเชื่อม)
...เกี๊ยวซ่าส์ปั่น...ส่วนผสมคือ
(เหล้าโซจู,เกี๊ยวซ่า,นมเปรี้ยว,นมข้นหวาน,
ซอสโซยุ,โซดา,มะนาว) โซจูคือเหล้าเกาหลี
...ทะเลปั่น...ส่วนผสมคือ
(กุ้ง หอย ปู ปลา หมึก ต้มสุก,เหล้าเซี่ยงชุน,
สับปะรด,ซอสพริกไทย,มะนาว,โซดา,พริกหวาน)
...ปั่นนรกปกไพรี...ส่วนผสมคือ
(กบไชโย,กิ้งกา,ปลิงแห้ง,มดแดง,ทาก,
ใส้เดือนแห้ง,เหล้าขาว,มะพร้าวอ่อน,เห็ดดอง,
เบียร์สด,ก้ามแมงป่อง,ตาเป็ด,เกลือ,มะนาว,
โซดา,ลูกอ๊อดเป็นๆ)
สำหรับท่านที่ ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ ให้เลือกนี่แทน
...ฟ้าพิโรธปั่น...ส่วนผสมคือ
(บรเพ็ด,มะระ,ตะลิงปลิง,มะขามป้อม,
มะขามฝัก,มะนาว,โซดา)
***และทางร้าน ได้จัดยาชุดกับเกลือแร่ไว้ให้สำหรับทุกท่านเรียบร้อยแล้ว ฟรี***
เมื่อทุกท่านพร้อมแล้ว
กรุณาถล่มร้านข้าพเจ้าได้เต็มที่ เชิญ เฮ้อ!!!
16 มกราคม 2551 21:59 น.
อาราเล่
ใครหนึ่งเคยเอ่ยซึ้งซึ่งในรัก
ยิ้มทายทักจากใจให้เสมอ
แต่ทุกสิ่งเลือนหายคล้ายละเมอ
ภาพของเธอเลือนลางห่างทุกที
...คำพูดเคยซึ้งใจให้แนบแน่น
เริ่มขาดแคลนแทนคำพร่ำเมินหนี
รักมากมายเคยบอกหลอกกี่ที
นับจากนี้หมดไปไม่มีเรา
...ใจของเธอเผลอไผลให้ไกลห่าง
เธอเปลี่ยนทางเดินใหม่ไปกับเขา
ถึงแสนรักเพียงไหนคงไร้เงา
ฉันคงเฝ้าทำได้เพียงฝ่ายมอง
...จึงยินยอมน้อมรับกับความเจ็บ
แสนกลืนเก็บเหน็บใจไม่มีสอง
หลั่งรินไหลน้ำใสไร้เธอครอง
ดูเศร้าหมองต้องเผชิญเดินลำพัง
...มิอาจหนีความจริงสิ่งเลวร้าย
ฉันต้องอยู่ให้ได้แม้หมดหวัง
เป็นอดีตของใจให้ชิงชัง
แทบหมดแรงแห่งพลังแทบพลั้งยืน
...ความเจ็บปวดรวดร้าวในคราวนี้
ทุกนาทียากไร้ให้ทนฝืน
ทุกเวลาต้องรักษาพากลับคืน
แม้กล้ำกลืนยาวนานผ่านเพียงไร
...เธอที่เคยสูงค่ากว่าทุกสิ่ง
ที่รักยิ่งกว่าคำพร่ำไหนไหน
ขอขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านไป
ที่เคยให้กับฉันก่อนนั้นมา
...นับแต่นี้ฉันมีเพียงอดีต
ที่ยังกรีดรอยใจให้ครวญหา
อยากเข็มแข็งกว่านี้ที่เป็นมา
คงต้องใช้เวลา ...นานเหมือนกัน...