24 มกราคม 2551 10:16 น.

แต่งงานกับสาวไซด์ไลน์ ความท้าทายของผู้ชายรักจริง

อายิจัง

เมื่อแรกรัก น้ำต้มผักก็ว่า "หวาน" ถูกต้องทุกประการ แต่.... "รักแท้ คือ รักที่หัวใจ มิใช่ สิ่งของปรุงแต่งภายนอก" เป็นความถูกต้องที่สุด

          นั่นเพราะ ธรรมชาติของคนเรานั้น เมื่อพบกันครั้งแรก ย่อมต้องประพฤติตัวให้เป็นที่ "ต้องตาต้องใจ" ต่อฝ่ายตรงข้าม ความถูกใจหรือความชอบพอจึงเกิดขึ้นเพียงเพราะความประทับใจครั้งแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป "ตัวตน" ที่แท้จริงของแต่ละฝ่ายย่อมเผยให้เห็น หากแต่ละฝ่ายไม่สามารถยอมรับกับความ "แท้จริง" การเลิกราย่อมเกิดขึ้น แต่หากเข้าใจและยอมรับกับความเป็นจริง นั่นจึงเรียกว่ารักแท้

          เต๋า ช่างภาพหนุ่มอิสระ วัย 28 ปี ยอมเปิดเผยเรื่องราวความรักกับแฟนสาว ที่อดีตเคยหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็น "สาวไซด์ไลน์" ว่า เขารักภรรยาของเขาด้วยใจจริง แม้จะรู้ว่าเธอเคยมีอดีตเป็นเช่นไร

          เจ้าของเรื่องราว เล่าย้อนถึงที่มาที่ไปในความรักของเขาว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เขาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมย่านรามอินทรา กับรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง ซึ่งขณะเดียวกัน แฟนสาวก็ได้อาศัยอยู่คอนโดฯเดียวกัน กับเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งรุ่นพี่และเพื่อนของแฟนได้เกิดอาการ "ปิ๊งกัน" เมื่อตกกลางคืน แต่ละฝ่ายต่างก็ชวนเพื่อนร่วมห้องออกมาหาของกิน 

          เรื่องราวความรักจึงเกิดขึ้น ณ จุดนั้น จากความใกล้ชิดเพราะเพื่อนร่วมห้อง ที่เป็นเหมือน สะพานให้คนทั้งสองได้พบกัน บวกกับความเอาใจใส่ทำให้เต๋า เริ่มใจอ่อน เต๋าตกลงใจคบกันแฟนสาวอย่างจริงจัง และในที่สุดเธอผู้นี้ก็เป็น "ผู้หญิงคนแรก" ของเต๋า 
  
          หลังจาก "ค่ำคืน" แรกของเต๋า เขาบอกด้วยความรู้สึกของ "ผู้ชาย" ว่า "เขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเธอ" ซึ่งแฟนสาวก็ได้ยอมรับความจริงว่า เธอเคยมีสัมพันธ์กับแฟนเก่ามาแล้ว 2 คน ซึ่งเมื่อเต๋ารู้ ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ยึดติดกับเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศของผู้หญิง

          คำ "สารภาพ" ของแฟนสาว มิได้ทำให้เขาหมดรัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมหลายอย่างในตัวแฟนสาวกลับทำให้เขาเริ่ม "สงสัย" 

          "ไม่ได้ทะลึ่งหรือลามกนะครับ แต่ของอย่างนี้ สังเกตได้ หลักฐานบางอย่างมันฟ้อง แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดคือ บ่อยครั้งที่ผมเห็นแฟนนั่งซึม เหมือนมีอะไรเก็บไว้ในใจ แต่ไม่ยอมบอก แล้วหลังจากที่คบกันประมาณ 1 ปี เราเริ่มขัดสนเรื่องเงิน แฟนผมก็จะไป "ขอยืมเงิน" จากพี่ผู้ชายคนหนึ่ง แรกๆ ไม่คิดอะไร แต่ว่าหลังๆ เริ่มไปบ่อย ไปแล้วกลับมาก็จะได้เงินติดมือครั้งละ 1,000-2,000 บาท จนวันหนึ่งตอนออกไปเขาถักเปีย แต่ขากลับปล่อยผมที่ยังแห้งไม่สนิท ผมจึงถามว่าไปไหนมา เมื่อซักมากๆ เข้า เขาก็บอกว่าพี่เขาชวนกินเบียร์ และถูกข่มขืน แล้วก็บอกกับผมแต่เพียงว่า พี่ผู้ชายคนนี้เป็นผู้มีพระคุณ ซึ่งตอนนั้นไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ว่า น่าจะมีความจริงอะไรบางอย่างปิดบังผมอยู่"

          เต๋าอยู่กับความสงสัยได้ 3 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา เริ่มมีการทะเลาะกัน ความไม่เข้าใจก็ยิ่งก่อตัวมากขึ้น จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งหลังจากที่แต่ละคนกลับมาถึงบ้าน เริ่มทะเลาะกันอีกเพราะแฟนสาวไม่อยู่บ้านอีกแล้ว ความอดทนของเต๋ามีจำกัด เขาจึงตัดสินใจพูดคุยกับแฟนสาวอย่างเปิดอก

          "ตอนนั้น ผมไม่รู้นะว่าเขาเป็นอะไร แต่ทนไม่ไหวแล้ว เพราะยิ่งอยู่กันไป ยิ่งไม่เข้าใจ ผมไม่สนใจว่าคำตอบมันจะเป็นยังไง เป็นสิ่งที่ผมกังวลหรือเปล่า แต่ขอให้รู้ก่อน รับได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ผมพูดว่าเลิกกันดีกว่า แฟนผมเลยพูดว่าถ้าจะเลิกจริงๆ เขาจะเล่าสิ่งที่ผมสงสัยมาตลอด แล้วเขาก็บอกว่า เขาเคยขายตัวมาก่อนที่จะคบกับผม และทำเป็นอาชีพหลัก ไม่ได้ทำเล่นๆ เป็นครั้งคราว เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็มๆ"

          แฟนสาวของเต๋า เปิดใจเล่าสิ่งที่เก็บกดไว้ในใจไป ร้องไห้ไป เธอตอบคำถามเต๋าทุกคำถามอย่างตรงไปมา ไม่ว่าจะเป็น สาเหตุที่ตัดสินใจ "ขายตัว" , วิธีการหาลูกค้า, แต่ละวันได้ลูกค้ามากน้อยแค่ไหน, ทำมานานเท่าใดแล้ว รวมทั้ง "ผู้ชายอุปถัมภ์" คนนั้นด้วยว่า เป็นขาประจำของเธอ 

          "ผมรู้ว่าเธอเจ็บปวดมาก เพราะตลอดเวลาเธอร้องไห้ไปเล่าไป ร้องไห้จนตัวโยน สะอึกสะอื้น หูตาแดงไปหมด เพราะเธอบอกว่า นี่เป็นสิ่งที่เธออยากจะลืม แต่ทำยังไงก็ลืมอดีตที่ก้าวพลาดของเธอไม่ได้สักที เธอบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกผิดและอยากจะสารภาพเรื่องนี้กับผม"

          แม้จะมีพื้นฐานความคิดเรื่องความรักที่ไม่สนใจเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกแต่เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็ยอมรับว่า "อึ้ง" ไปเหมือนกัน แต่เต๋ายืนยันว่า เขาไม่มีท่าทีรังเกียจใดๆ

          "ในเมื่อแฟนผมเขากล้าเปิดเผยความจริงขนาดนี้กับผม ผมก็คิดว่า นี่ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุด หากกล้าเล่า ก็คงจะไม่มีอะไรปิดบังหรือโกหกอีก คุยเปิดใจกันชั่วโมงกว่า จากที่ตั้งใจว่าจะเลิก ก็เปลี่ยนใจ เปลี่ยนเป็นขอแต่งงานแทน ซึ่งเขาก็ตกใจเล็กน้อยว่าทำไมผมถึงยังรักเขาทั้งๆ ที่เขามีอดีตที่เลวร้าย"

          คำตอบคือ "ความจริงใจ"  "สิ่งที่ทำให้เปลี่ยนจากเลิกเป็นแต่งงาน คือ ความจริงใจล้วนๆ เพราะผมไม่สามารถตอบได้ว่า ทำไมผมถึงรักแฟนผม เพราะเวลารักใครผมรักด้วยใจ 100% ไม่มีเหตุผลเลย ส่วนเรื่อง "นั้น" ผมไม่คิดมากอยู่แล้ว เพราะสมมุติว่าหากเราอยู่กับแฟนแล้วมีอะไรกันทุกวัน แล้วในช่วงก่อนหน้านั้น เขาก็ไปมีอะไรกับผู้ชายทุกวัน เพียงแต่เปลี่ยนหน้าไป ผมว่ามันก็ไม่ต่าง"

          เต๋าบอกปิดท้ายด้วยว่า นับจากวันที่ได้เปิดใจ 2 ปีแล้ว ทุกวันนี้เขาก็ยังรักกับแฟนสาวเหมือนเดิม มีบ้างที่ทะเลาะกัน แต่เขาไม่เคยนำเรื่องราวในอดีตพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ หรือแสดงท่าทีรังเกียจใดๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญเมื่อได้เปิดใจกันแล้ว ทุกอย่างก็ราบเรียบ มีความสุข สบายใจกันมากขึ้น 

          การใช้ชีวิตคู่ มิใช่แค่ความรักอย่างเดียวจะสามารถประคับประคองให้คนทั้งสองคนเดินทางไปตลอดด้วยความปลอดภัย แต่ความจริงใจและการยอมรับทั้งส่วนดี และส่วนบกพร่องของกันและกัน จะช่วยให้ชีวิตรักเปี่ยมไปด้วยความสุขที่แท้จริง 

ขอบคุณขอความจาก kapook.com ค่ะ				
13 ธันวาคม 2550 14:31 น.

เพื่อน

อายิจัง

ความคิดสมัย ป.1
เพื่อนที่ดีคือคนที่ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนคุณ     แล้วก็จับมือคุณระหว่างเดินผ่านห้องโถงที่น่ากลัว
 
ความคิดสมัย ป.2
เพื่อนที่ดีคือคนที่ทำให้คุณเข้าเรียนคลาสที่ไม่อยากเรียน (มั้ง)
 
ความคิดสมัย ป.3
เพื่อนที่ดีคือคนที่แบ่งอาหารกลางวันให้คุณ  เมื่อคุณลืมกล่องข้าวไว้ที่บ้าน = =?
 
ความคิดสมัย ป.4
เพื่อนที่ดีคือคนที่ยอมเปลี่ยนคู่เต้นในวิชาลีลาศเมื่อคุณไม่อยากจับคู่เต้นอยู่กับนิกจอมลามก
หรือเอ็มกลิ่นแรง
 
ความคิดสมัยป.5
เพื่อนที่ดีคือคนที่เผื่อที่นั่งให้คุณเมื่อถึงมื้อเที่ยง
 
ความคิดสมัย ป.6
เพื่อนที่ดีคือคนที่พาคุณไปหาคนที่คุณตกหลุมรัก  เพื่อขอให้เค้ามาเต้นรำกับคุณ  เผื่อว่าเค้าปฏิเสธคุณจะได้ไม่ต้องอายไง
 
ความคิดสมัย ม.1
เพื่อนที่ดีคือคนที่ให้คุณลอกรายงานสังคม
 
ความคิดสมัย ม.2
เพื่อนที่ดีคือคนที่ช่วยคุณทำรายงานกลุ่มและไม่เคยนินทาคุณลับหลัง
 
ความคิดสมัย ม.3
เพื่อนที่ดีคือคนที่เปนที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้คุณและอินกับคุณในทุกๆอารมณ์
 
ความคิดสมัยม.4 คือ
คนที่ยอมเปลี่ยนวิชาเรียนเพื่อที่คุณจะได้มีเพื่อนนั่งกินข้าว
 
ความคิดสมัย ม.5
เพื่อนที่ดีคือคนที่ยอมให้คุณขับรถใหม่ของเค้า
ช่วยคุยกะพ่อแม่ของคุณเวลาคุณมีปัญหา  แล้วก็คอยปลอบคุณตอนที่คุณเลิกกับแฟน
 
ความคิดตอน ม.6
เพื่อนที่ดีคือคนที่ช่วยคุณเลือกมหาวิทยาลัยที่จะเข้า
แถมยังช่วยคุยกับพ่อแม่ให้ยอมให้คุณไปเรียนมหาลัยนั้นอีกด้วย
ในงานจบการศึกษา เพื่อนที่ดีของคุณ คือคนที่ร้องไห้เงียบๆ ในใจ
แล้วก็แบ่งปันรอยยิ้มกว้างๆ ให้คุณ
 
หน้าร้อนหลังจบ ม.6
เพื่อนที่ดีคือคนที่ช่วยคุณล้างขวดหลังงานปาร์ตี้
ช่วยคุณแอบย่องออกจากบ้านตอนที่คุณตกลงกับพ่อแม่ไม่ได้
ทำให้คุณกับแฟนกลับมาคบกันอีก
ช่วยคุณเก็บของเพื่อย้ายไปมหาลัย
แล้วก็กอดคุณอย่างเงียบๆ
 มองคุณด้วยแววตาที่ขุ่นมัวพร้อมกับความทรงจำ
 
18 ปีที่ผ่านมา...... ให้กำลังใจคุณในทางที่คุณเลือกเดินเหมือน 18ปีที่ผ่านมา
 
และตอนนี้ เพื่อนที่ดี  ....   ยังคงเป็นคนที่ให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ     จับมือของคุณเมื่อคุณกลัว
 
ช่วยคุณต่อสู้กับสิ่งที่พยายามเอาเปรียบคุณ
 
คิดถึงคุณตลอดเวลาที่คุณไม่อยู่ เตือนคุณในสิ่งที่คุณลืม
 
ช่วยคุณผ่านอดีตแต่ก็เข้าใจเมื่อคุณอยากอยู่กับอดีตอีกซักนิด
 
อยู่กับคุณเพื่อให้คุณมีความมั่นใจ หรือไปไกลๆ คุณซักพักเพื่อให้คุณได้มีเวลากับตัวเอง ช่วยคุณแก้ไขความผิดพลาด
 
ช่วยคุณจัดการกับความกดดันทั้งหลาย
 
ยิ้มให้คุณเมื่อยามคุณเศร้า
 
ช่วยให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น และอย่างสำคัญที่สุด คือ คุณส่งความรู้สึกนี้ ให้เพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่
และเพื่อนที่อยู่กับคุณตลอด (ยังไม่ร้องไห้ใช่มั้ย? ยังมีต่ออีกนะ)
 
ขอบคุณสำหรับความเป็นเพื่อน ไม่ว่าเราจะไปถึงจุดไหน   หรือเรากลายเป็นอะไร
จะไม่มีวันลืมคนที่ช่วยให้เราไปถึงจุดนั้น   ไม่มีการผิดเวลาที่จะโทรศัพท์  หรือส่งข้อความ
 
เพื่อบอกเพื่อนของคุณว่า คุณคิดถึงพวกเค้าขนาดไหน หรือว่าคุณรักพวกเค้าขนาดไหน
คุณรู้ว่าคุณเป็นใคร
 ส่งความรู้สึกนี้ไปให้คนบางคนที่คุณอยากจะนึกถึง
ดังนั้น ส่งเมล์นี้ให้เพื่อนคุณทุกๆ คน  และรอคอยให้เค้าส่งกลับ
 
ถ้าคุณรักใครซักคน ก็บอกเค้าซะ
 
จำไว้เสมอเลยนะว่าพูดสิ่งที่คุณคิด    สิ่งที่คุณหมายถึง
 
อย่ากลัวที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเอง
 
ใช้โอกาสนี้ในการบอกใครซักคนที่มีความหมายกับคุณ
 
คว้าเอาไว้แล้วจะไม่เสียใจ
 
สิ่งสำคัญที่สุด อยู่ใกล้ๆ   กับเพื่อนและครอบครัว
 
สำหรับการที่พวกเค้านั้นทำให้คุณกลายมาเป็นคุณในวันนี้  บอกความรู้สึกซะ
ให้เกิดความแตกต่างขึ้นในวันของคุณและเค้า
 
ความแตกต่างระหว่างการแสดงความรัก และการเสียใจ คือ  การเสียใจอาจจะอยู่ตลอดไป				
6 พฤศจิกายน 2550 21:28 น.

บันทึกความทรงจำของเด็กหญิงน้ำฝน ตอนที่ 2

อายิจัง

เด็กหญิงน้ำฝนรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้มาเรียนโรงเรียนใหม่ มันช่างใหญ่โต ได้พบเพื่อนใหม่ๆ ชุดนักเรียนใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด ตื่นเต้น ตื่นเต้น อยากเรียนหนังสือ ชอบเรียนหนังสือที่สูด เด็กหญิงน้ำฝนเธอไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไร เรียนพอใช้เอง แต่เธอเป็นคนขยันเรียน วันเปิดเทอมเด็กหญิงน้ำฝนอยู่ห้อง ม.1/3 มีการแนะนำตัวว่าชื่ออะไร จบจากที่ไหนมา ปกติก็เป็นคนขี้อาย ขี้อายมากๆ อยู่แล้ว สั้นด้วย คิดซะว่าเอาน้าแป๊บเดียว มันก็ผ่านไปด้วยดีถอนใจสักหนึ่งครั้ง มีวิชาที่ต้องเรียนมากมายต่างจากที่เรียนตอนประถมศึกษา หนังสือก็เล่มโต้โต ตัวก็เล็กติ๊ดเดียวถือประเป๋าใบใหญ่โตไปโรงเรียนทุกวัน ปกติการเดินทางไปโรงเรียนของเธอคือเดินไปที่ท่าเรือ ขึ้นเรือไปอีกฝั่งของบ้าน เพื่อเดินไปที่โรงเรียนก็ไม่ไกลมากนัก รุ่นพี่บอกว่าเวลาเดินมาโรงเรียนระวังไอ้คนที่เขาเรียกันว่าไอ้ยิ้มนะมันชอบจับหน้าอกผู้หญิง แต่เด็กหญิงน้ำฝนไม่เคยโดนไอ้ยิ้มจับเลยนะ สงสัยหน้าอกจะเล็กเกินไปไม่อยู่ในสายตาไอ้ยิ้ม เธอสนุกกับการเรียนและกิจกรรม พอ ม.2 ได้มีการเข้าชมรม เธอเลือกชมรมดนตรีสากล และชอบวิชาศิลปมากที่สูด เธอได้เขามาอยู่ในวงโยธวาธิศของโรงเรียนในตำแหน่งกลองแต๊ก ได้ออกงานหลายงานมากทุกเช้าก็ต้องมาบรรเลงเพลงชาติ และเพลงให้นักเรียนเดินเข้าห้องเรียนทุกวัน ช่วงน้นมีกิจกรรมมากที่เดียว กิจกรรมลูกเสือที่ไปโดนหอ  ประกวดสิ่งประดิษฐ์ได้รางวัลที่ 2 ของโรงเรียน เป็นนักเรียนดีเด่นด้านบำเพ็ญประโยชน์ของโรงเรียน ถึงแม้ชีวิตในโรงเรียนเธอจะแสนสนุก แต่พอกลับบ้านก็เจอแต่ปัญหาเดิมๆ ไม่อบอุ่นเหมือนครอบครัวอื่นๆ ไม่ใครให้ค่อยปรึกษา ไม่มีใครสอนการบ้าน ทำเองตลอด  แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเด็กหญิงน้ำฝนที่อยากที่จะมีอนาคตที่ดี พอช่วง ม.3  เธอเริ่มมีความรัก กับนักเรียน
ดุรยางค์ทหารบกซึ่งมาสอนชมรมของเธอเล่นดนตรี รู้สึกพี่เขามาจีบ อายและเขินมากเลย แต่ก็ความรักของเด็กๆ นะ เขาและเธอติดต่อกันทางจดหมายหรือโทรเลข เพราะยังไม่มีโทรศัพท์ ทุกครั้งที่มาเจอกันเขาจะมีของขวัญให้เธอเสมอ ซึ่งก็น่ารักและซึ้งดีนะ เธอรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่เห็นเขา ก็ติดต่อกันโดยไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่นัก เด็กหญิงน้ำฝนก็มีเพื่อนที่สนิทซึ่งนั้งโต๊ะติดกัน เป็นชายเป็นคนน่ารักช่วยกันเรียน เขาเป็นคนเรียนเก่ง รู้สึกขอบคุณเขาตลอดที่ช่วยสอนการบ้าน คอยให้ลอกการบ้าน หรืองานเวลาเด็กหญิงน้ำฝนไม่ได้เข้าเรียนเพราะติกกิจกรรมของโรงเรียน  ขอบคุณมาก  มีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างที่เรียนมัธยมมีทั้งดีและเศร้า มิตรภาพของเพื่อนที่ดี อยู่ในใจเสมอมาพอจบ ม. 3 ต้องหาที่เรียนที่ใหม่แล้วหละ  จะเรียนที่ไหนดีหละ แต่ตอนนี้เธออายุ 15 แล้วนะทำบัตรประชาชนครั้งแรกแล้ว เป็นนางสาว อ้าเป็นสาวแล้วหรือเนี้ย ไม่น่าเชื่อ เธอคิดว่าจะไปเรียนสายอาชีพคิดว่าน่าจะดีกว่ากับการที่จะทำงานต่อไป เธอจึงเรียนสายอาชีพในโรงเรียนพาณิชแห่งหนึ่ง ติดตามช่วงเวลาที่เธอเข้าไปเรียนโรงเรียนพาณิชย์นะจะ				
5 พฤศจิกายน 2550 19:45 น.

บันทึกความทรงจำของเด็กหญิงน้ำฝน ตอนที่1

อายิจัง

เด็กหญิงน้ำฝนมีพี่น้อง 4 คน มีพี่ชาย 2  น้องชาย 1 คน เด็กหญิงน้ำฝนเป็นลูกคนที่ 3  เกิดในครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำ พ่อแม่ทำงานรับจ้าง ครอบครัวเธอช่างวุ่นวาย ครอบครัวย้ายบ้านบ่อยมาก พ่อแม่เธอติดเหล้าเธอไม่ชอบให้พ่อแม่เธอกินเหล้าเธอร้องให้ทุกครั้งที่พ่อแม่กินเหล้า พ่อแม่ทะเลาะกันทุกครั้ง ทำลายข้าวของ เธอเป็นเด็กที่ดูเก็บตัวในบ้างครั้ง เก็บกด บ้างครั้งก็ร่าเริ่งแจ่มใสดูน่ารัก เธอเหมือนเด็กคิดมากเจ้าทุกในหัวเธอมีแต่เรื่องที่ต้องคิดมากมายอยู่ในหัว ที่สิ่งที่เธอชอบคือศิลป งานฝีมือ ซึ่งเธอมีความถนัดในด้านนี้พอสมควร  ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนเสมอหากมีการประกวดอะไรก็ตาม และมักจะได้รางวัลติดมือมาเสมอ ไม่รางวัลใดก็รางวัลหนึ่ง การเรียนของเธอก็ดี มาเสมอสอบได้ที่ 1  ที่ 2  ไม่ก็ที่ 3  ตลอด  เป็นเด็กขยันแต่ไม่ช่างพูด เป็นที่ชื่นชอบของคุณครู อ้อลืมบอกไปเธอเรียนโรงเรียนประถมที่โรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง  เธอได้เป็น ผนส. ดีเด่นด้วยนะ ผนส. ย่อมาจากอะไรนะจำไม่ได้เหมือนกัน ชีวิตสมัยประถมของเธอมีเรื่องมากมายเธอเหมือนเด็กที่ครอบครัวมีปัญหา ไม่ใช่เหมื่อนซิแต่ใช่เลย พี่ชายทั้งสองคนของเธอเป็นเด็กเกเร ที่ทราบมาว่าพี่ชายเธอโดยครูตีและให้แก้ผ้าเดินรอบโรงเรียนดัดนิ้วให้งอจนถึงหลังมือตั้งแต่วันนั้นพี่ชายเธอก็ไม่ไปโรงเรียนอีกเลย ต่อมาน้องชายเธอก็เป็นอีกรายที่ไม่ยอมมาโรงเรียนเพราะครูคนเดิมทำโทษก็เลยไม่ยอมมาโรงเรียน บ้างวันเด็กหญิงน้ำฝนต้องจูงน้องไปโรงเรียนแต่พ่อใกล้โรงเรียนน้องก็พยายามหนี้แล้วเธอก็ดึงน้องไว้น้องกัดแขนเธอจนเป็นรอย เธอก็จำเป็นต้องปล่อยน้องไป เดินเข้าโรงเรียนก็ร้องไห้ไปด้วย ครูๆ ก็ถามเป็นไร น้องหนีเรียนตามเคย จนครูต้องประกาศหากใครเห็นเด็กชายที่หนี้โรงเรียนให้แจ้งที่โรงเรียนด้วย ครูทุกคนต่างเห็นใจเด็กหญิงน้ำฝนกันทุกคน ครูทุกคนมักจะส่งเสริมเธอเห็นใจเธอมอบทุนการศึกษาให้เธอเป็นประจำทุกปี เธอเป็นเด็กที่มุ้งมั้นในการเรียนขยัน เธอมุ่งมั้นไม่อยากมีชีวิตที่เหมือนพ่อและแม่เธอ ที่เรียนน้อยต้องทำงานหนัก เธออยากมีอนาคตที่ดี และที่สำคัญเธออยากให้พ่อแม่เธอสบาย เธอไม่อยากอยู่ในสังคมที่มีแต่คนเกเร ยาเสพติด พี่ชายทั้งสองคนของเธอเกเร ไม่ยอมไปเรียน แถมยังไปติดยาเสพติด ก่อเรื่องให้พ่อแม่ได้ปวดหัวตลอด ส่วนเด็กหญิงน้ำฝนพ่อแม่ห่วงเธอมากมีเธอคนเดียวที่จะเป็นหน้าเป็นตาและนำความภูมิใจมาให้พ่อแม่ได้ ตอนเรียนจบประถม 6 เธอได้ทุนไปเรียนมัธยมแห่งหนึ่งด้วย แต่เธอก็สอบได้ที่ 3 ของโรงเรียน ทำให้พ่อแม่ของเธอดีใจมากแล้วภูมิใจมากได้เรียนในห้องต้นๆ ได้พบอะไรใหม่ เพื่อนใหม่ ตอนต่อไปคอยดูกันว่าเธอจะมีอะไรจะเล่าในช่วงชีวิตมัธยมนะจ๊ะ				
31 ตุลาคม 2550 11:16 น.

Chatty Cop

อายิจัง

เธอกับเขาพบกันผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์
ก่อเกิดเป็นความผูกพันซึ่งค่อยๆ  ถักทอเส้นใยอันเหนียวแน่น
ร้อยรัดหัวใจสองดวงให้อยู่เคียงกัน
หากเมื่อวันหนึ่งทั้งสองตัดสินใจจะก้าวผ่านความสัมพันธ์
ทางหน้าจอออกมาสู่โลกของความเป็นจริง
เรื่องราวต่างๆ กลับไม่เป็นอย่างที่คิดหวังเอาไว้
เธอจะเชื่อใจเขาได้หรือไม่  ที่แท้แล้วเขาเป็นแค่คนเจ้าเล่ห์
ที่วางแผนหลอกเธอครั้งแล้วครั้งเล่าใช่หรือเปล่า
....................................................................................
นางเอกทำงานบริษัท   พระเอกทำงานเป็นตำรวจสายลับ  เรื่องนี้สนุกมากเลย  น่ารักด้วย ได้อ่านแล้ววางไม่ลงเลนนะ  ติดตามหาอ่านกันนะคะ  ของสำนักพิมพ์แจ่มใส  มีความยาว 274 หน้า				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอายิจัง
Lovings  อายิจัง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอายิจัง
Lovings  อายิจัง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอายิจัง
Lovings  อายิจัง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอายิจัง