12 ตุลาคม 2547 06:20 น.
อาภาภัส
คำสัญญา
สุดหัวใจจำได้หรือเปล่าหนอ เคยเอ่ยขอเปิดธารทางสร้างสรรค์
อยู่หนใดใยเฉยแลเงียบงัน ผ่านคืนวันฝันเรียบเย็นเฉียบใจ
ทั้งร้อยรัดมัดคำพิสวาท ยังคลาคลาดเลือนเหเร่ไฉน
สุดสิ้นดินผินฟ้าต้องลาไกล โอ้อาลัยหวลหาตั้งตาคอย
อีกนานนักจักเห็นอย่างวันนี้ ชื่นฤดีมีตนใยจึงถอย
ไม่ส่งเสียงไม่สนว่าเกลอกลอย ใจจะพลอยโศกศัลย์ทั้งวันคืน
วาดชีวาบนหล้าแทรกเพลงเศร้า หวังตัวเจ้ารู้อยู่กู่ทนฝืน
อสนีบาตฟาดสายเสียงครันครึน ทะเลตื่นโต้ลมข่มทะเล
เสียงคลื่นซัดชัดซ่าราวสะอื้น ข้ากล้ำกลืนกลบเตือนความห่างเห
ใช่ลอยเรือร้างรักราวเกเร สิ้นเสน่ห์เฉไกลใจห่างเลือน
เจ้าคนดีดวงไฟในใจข้า จงรู้ว่าสัญญานั้นเสมือน
ใจมอบมั่นตะวันจะเฝ้าเตือน ความเป็นเพื่อนแห่งใจไม่ร้างลา
โอ้อนาถขาดฝันพลันดวงจิต เชลงพิษเพลิงร้อนไร้หรรษา
ใต้ดาวเดือนอยู่เรือนมองหมดฟ้า ไม่เห็นหน้าของเจ้าข้าเศร้าตรม
เจ้าพระยาไหลรินสินธูทิพย์ วะวับวิบพลุ่งพล่านปานทับถม
สายน้ำคำย้ำไว้ใจเชยชม เพลิงอารมณ์ขมอยู่เพียงผู้เดียว
เจ้ากลอยใจเหตุไฉนทิ้งคำมั่น ทั้งชีวันวางตนมิแลเหลียว
พระพายพรูหนาวเหน็บเจ็บดังเคียว สับคมเรียวลึกล้นบนกลางทรวง
คลื่นแปรปรวนป่วนปั่นสนั่นโสต ฤาเจ้าโกรธเกลียดแค้นแลห่วงหวง
ฝนสร่างฟ้าราวว่าเจ้าลาล่วง เจ้าลืมดวงใจจำ คำสัญญา
อาภาภัส 12 ต.ค 2547 บ้านพระประแดง
10 ตุลาคม 2547 23:22 น.
อาภาภัส
จุดกลางใจ
วาดวงรีตรงที่ว่าง หาตรงกลางให้เจอะเจอ
เรียววนปลายเสมอ แปลกจริงเออเป็นรูปใจ
อยู่ในทุกตัวคน ชังฉ้อฉลปนดีใส
เกิดก่อจากอะไร ฤาเปลี่ยนไปเพราะโลภา
หลากหลายสายความคิด ผู้พิชิตยังลับลา
ความแน่ไม่มีตา เมื่อถึงคราหลับทุกคน
ยังอยู่ณ...วันนี้ คิดสิ่งดีทวีผล
มาลัยฤทัยมน ร้อยเรียงสนบนรอยวัน
พรมพร่างด้วยเครื่องหอม ปรุงรสพร้อมล้อมอำพัน
ใจเอื้อเพื่อแบ่งปัน สุขแดนฝันฝากชนชม
ฝนฟ้ากลั่นน้ำทิพย์ ดาวระยิบกระซิบลม
พลิ้วไหวประกายคม หวังให้สมงามราตรี
ชรอยบุญใดร่วมสร้าง ฟากฟ้ากว้างธารความดี
จากใจข้าดวงนี้ ขอมอบพลีแผ่อาณา
ขจรเจิดจรัส จิตประภัสสร์ในภาษา
ภัยผองอย่าบีทา รับพรมาจากบุราณ
ศรีสิทธ์พิศาลภพ มารสยบกลบรอยพาล
ผดุงเมืองเฟื่องกลอนกานท์ ชาติตระหง่านลานใจเมือง
อาภาภัส 10 ตุลาคม 2547 บ้านพระประแดง
7 ตุลาคม 2547 20:24 น.
อาภาภัส
ขอเขียนเป็นแบบละครร้อง (ร้องเพลง)
เวลา 19.08 ที่ทำงาน
.........................
พระเอกไร้ชื่อ.. (1) สวัสดีครับรับสายผมสักนิด
คนใช้ประจำบ้าน(2) ค่ะโทรติดบ้านสวนชวนชมฝัน
(1) จะพูดสายกับยายไม้จิ้มฟัน
(2) ที่ไหนกันบ้านนี้ไม่มีใคร
(1) แล้วใครพูดอยู่นั่นว่าไงครับ
(2) คนคอยรับสับคนให้งงไหม
(1) ดุจังนะจะทำได้อย่างไร
(2) ไม่ยากไงสับหมู..คนน้ำแกง
(1) โอ้โล่งใจไปได้คงพอลุ้น
(2) เอ.ไม่คุ้นความจำทำหน่ายแหนง
(1) อยากจะถามความรักราคาแพง
(2) อ๋อต้องแสดงห่วงหวงคู่ควงตน
(1) อธิบายกลนัยให้หน่อยสิ
(2) ไม่ยากนิกะทะตะหลิวหลน
(1) ทำปลาร้าหรือว่ากะปิปน
(2) นั่นแหละคน..หนึ่งแผนก..แปลกรักนาน
(1) อยู่คู่กันตีกันสนั่นเมือง
(2) รักเมลืองมลังดังสร้างศาล
(1) หมายความว่าบูชาวางบนพาน
(2) ต้องใช้งานคู่กันงั้นอดกิน (กะทะ.ตะหลิว)
(1) แพงหรือพังยังฉงนฉงายนะ
(2) ไม่รู้ล่ะพระใยอยู่ในหิน
(1) มีด้วยหรือเพิ่งเคยจะได้ยิน
(2) คำเล่นลิ้นพระใย ภัยะ .เดน
(1) คุยตั้งนานหวานรัก.กันดีกว่า
(2) ใจมีค่าใช่เกลือกับพิมเสน
(1) รักคงมั่นมิคิดจะโอนเอน
(2) ว๊ายตาเถร ..ลืมแกง ..บนเตาไฟ
(1) รอประเดี๋ยวเกี้ยวไว้ ..ให้ตอบหน่อย
(2) งั้นคุณคอยถือสายจะได้ไหม
(1) หากสายรักต้องรอนานเท่าไร
หมดหัวใจผมให้..ไว้อุ่นอิง
อาภาภัส 7 ต.ค 2547 ส.ร.ธ