30 ตุลาคม 2547 09:52 น.

ช่วย..ท่าน

อาภาภัส

ในคลื่นฟ้าเทวานักยิงใจ       งานมากไซร้ฝนขัดศรเรียวแหลม
แล้วเหาะลิ่วปลิวล่องเพื่อจ่ายแจม  อีกทั้งแถมมากล้นคนต้องการ

คิดดูนะช่วยแล้วยังโดนเว้า          ว่ายุ่งเจ้าจางรักทั้งหักหาญ
ที่จะรักไม่รักยังเดือดดาล             หาว่างานเทพบิดผิดกระบวน

อันความรักถักสายคล้ายแกว่งเบ็ด    เหยื่อสะเด็ดหรือหวิวลองคิดหวล
อยู่ที่ตนก่นใจก่อรัญจวน                  คุยเชิญชวนยิ้มชื่นรื่นละไม

ปลาติดข้องจ้องจิตมิดีดหาย               รักมิคลายครอบรักหมักเป็นไห
สุขเรียงร้อยเริงฝันรวมกันไป            แล้วเยื่อไยรักหวานสะท้านทรวง

อันวาจาละมุนก็อุ่นรส                        ความเบี้ยวคดคลอนหายคลายหึงหวง
รักรู้สึกกึกก้องต้องตามดวง                รักจะลวงฤาคงบ่งตามใจ

คำสัญญากล้าต่อก็พานพบ                 ยอมสยบน้อมตนเนารักไฉน
จากแจ้งกล่ำกลืนมืดมิเลือนไกล         ฟ้าวันใหม่รักอยู่กู่ก้องฟ้า   


 อาภาภัส   30  ต.ค  2547				
17 ตุลาคม 2547 08:02 น.

ระฆังใจ

อาภาภัส



               กรุ๊งกรุ๊งกริ๊งแกว่งลิ่วระรัวเสียง         ดังดาวเรียงละอ่อนอ้อนเวหา
             วายุเผยพะพลิ้วหวิววู่มา                      หมุนไกวท้าคลื่นลมระรื่นงาม

             กรีดกังวานหว่านแทรกฝ่าฟ้าฟ่อง       หวานแซ่ซ้องก้องก่อทอใจหวาม
            รัดตราตรึงซึ้งใสให้รักคราม                 ส่องสยามสุขล้นบนทรวงไทร  

            สร้างรวงฝันสัญญาทุกดวงแด              ดรุณแน่ดำเนินดัง วาดไหว
            กระพริบพรับระรินเริงฤทัย                  สลักไล้ใส่ศรอักษรา

            เสกมนต์ศิลป์สั่งสมพรมพร่างทั่ว         ไร้ขลาดกลัวก้าวไปด้วยหรรษา
           กระชับจิตเจียรจาร รจนา                             ลุลีลาล่วงร่อนลู่ลำนำ

            ระฆังใจไร่รักดารดาษ                           เพราพิลาศอุษาคารมขำ
           ผลิรากเพิ่มเติมไต่ต่อคมคำ                     สุขกระหน่ำล้ำค่าราคาคน

           ดั่งอัญเชิญพรหมโลกเยือนสดับ             คนธรรพ์ขับประโคมกมลผล
           ราวน้ำทิพย์รดร่วงธราดล                       ยามยินยลไพเราะเสนาะเพลิน

           รุ้งเลื่อมลายหลากสีระวีเริ่ม                      ประจงเจิมจรัสมิขัดเขิน
           เพียรผนึกเยี่ยงอย่างท่านดำเนิน            คุรุเกริ่นกรุยฟ้าเพื่อหล้าไทย

          แม้ดวงใจสายรักมิมาต้อง                      ยังกรุ่นก่องวะวาวเลือนหวั่นไหว
         วาระรู้อยู่ได้ด้วยตนใน                          ระฆังใจเกียรติ์กึกคึกครื้นเครง
            
                                    อาภาภัส   17 ต.ค 2547 











				
16 ตุลาคม 2547 12:11 น.

ใจจำแลง

อาภาภัส




       แหวกกรีดคว้านควานแงะแทะเนื้ออ่อน    กลางสมรภูมิทรวงมนุษย์หนา
       เจอแต่แสงแดงสวยอวยเอื้อตา                  พ่อสั่งว่าอย่ากระหน่ำทำเป็นเมิน
      
      ไหวระริกพลิกหายแล้วกลายกลับ              นำมารับรู้ใหม่ใส่ไฟเขิน
       ละอายพูดเพียงนิดอย่ากล่าวเกิน               วางใจเดินกรุณาหาทางดี

      งานสำคัญปั้นหลักที่เยี่ยมก่อน                   แล้วจึงผ่อนค่อยล่วงมิเหหนี
     ฟังให้มากอ่านเพิ่มในทุกปี                         เงินต้องมีมิเกลียดทิ่มเสียดแทง

      ดำรงค์รักษ์ผองเพื่อนเอื้อนโอนอ่อน          คำเป็นพรมอบพรมมิหน่ายแหนง
     เก่าฤาใหม่ใจกอบกู้ด้วยแรง                         อย่าเช่นแสงรดลาคราฟ้ามัว

     รสชิวหาปร่าลิ้นก็สิ้นซด                             ใจกำสรดเสริมสุขให้รื่นหวัว
     ต้องยอมตนผจญภัยใจอย่ากลัว                   สิ่งใดชั่วรู้ทันให้มั่นคง

     ปลอมเพียงนอกงามในใจเรารู้                     ตนต้องสู้ตนได้ใช่วนหลง
     จวนใกล้วอดจอดแก่แย่แล้วปลง                   นั่นคือธงโบกชัดซัดตราบลา


.......................................................................................

         อ่านที่ใครคนหนึ่งส่งมาว่า ตามพ่อสอน ทางอี เมล์  ก็สรุป แป็บๆได้เท่านี้ก่อน
      16  ต.ค  2547   
         อาภาภัส










				
16 ตุลาคม 2547 09:10 น.

ล่องฟ้า ฟ้า ฟ้า

อาภาภัส



  ฟ้า วันนี้  ท่าจะต้องพาเทวดาไปหาหมอเป็นแน่  
 ลองล่านกันดู  ส่งหลายครั้งแล้วนะ 
 เขียนไว้เมื่อวาน แล้วก็วันนี้  ด้วย 

            สวรรค์หลั่งสั่งพรรษา          จงโปรยพสุธาหฤหรรษ์
       ทุกชีวิตเติมวัน                          ด้วยแรงฝันแห่งดวงใจ
       อรุณรุ่งวันนี้จรัส                      ปิติมนัสสวยใส
       เห็นโลกกว้างทางไกล              ฉลาดได้ด้วยกรุณา
       งามใดเลยกระจ่าง                    ทุกสิ่งสร้างเทียมได้หนา
        จิตตระการแกร่งกล้า               คือนาวาสง่าอำไพ
        วิชาประดุจทรัพย์                   ระยิบยับวะวาวไฉน
        ดั้นด้นช้าอยู่ไย                        รีบ เร่งไปคว้ามาครอง
        หมั่นเพิ่มงอกออกผล              ประดุจยลตะวันฉลอง
         สาดส่องฟ้าเรืองรอง              วิบูลย์ก่องล่องอินทรีย์
        ปลูกรดน้ำคำหวาน                 สมสมานเสริมศักดิ์ศรี
        วจีพรมพร่างพลี                      สิริฉวี บรรเจิดแจรง
         เอื้อหทัยพิสุทธิ์                       เปรียบประดุจบุษบันแขนง
        กระจายกลิ่นแสดง                  ตนมิแล้งความปราณี
        นบนอบขอบคุณฟ้า                รักมีตาแห่งดิถี
        อุ่นไอด้วยไมตรี                      ขอพึงมีสุขสถาพร
     
                            อาภาภัส   15  ตุลาคม  2547
                                          พระประแดง
เด็กหญิงลำไย      เดินดุ่มมุ่งไป   บนสายสีรุ้ง
   ทอดยาวจากสรวง   มีดวงดาวพุ่ง  มีประกายรุ่ง    กระตุกใจชม

      ค่อยแวะแกะร่อง   เปิดฟ้าเมียงมอง  แล้วลองสั่งสม
  ดีดีเยอะจัง  สวรรค์หวังอารมณ์   น้อมใจไร้ตรม    ยิ้มฝันพรายตา

     เอียงคออีกนิด   เก็บดาวไปติด   ชิดใจดีกว่า
 ฝากคนทั้งโลก     ไม่โศกอุรา     หัวใจกรุณา   ช่วยเอื้อเจือจุน

     อัศจรรย์พลันเกิด  มือสวรรค์เอื้อมเปิด   ก้าวล้ำเขาขุน
เสียงการเวก       โงกเงกง่วงงุน   ต้องติดตามลุ้น  หนูตื่นพอดี   

       16  ต.ค 2547
      อาภาภัส






				
14 ตุลาคม 2547 17:25 น.

บ้านรัก..เรือนใจ

อาภาภัส



..                         บ้านรัก   เรือนใจ..   
                                            ประพันธ์เนื้อร้องและทำนอง  โดย   อาภาภัส  

     สุขหนักหนาเมื่อมาถึงแดนฝัน            ใต้แสงจันทร์สองเราสบตาหวาน
     รักเพียงนิด ชื่นจิตกรุ่นดวงมาลย์         ดังทิพย์ธารชโลมใจให้เปรมปรีดิ์

     สุขเพียงสองครองรักอวลอบอุ่น           นุ่มละมุนซึ้งชวนไม่หน่ายหนี
     ล้อมบ้านรัก เรือนใจในวจี                   ล้วนยินดีทวีเจิดเลิศลาวัลย์

        เสียงนกร้องก้องดังกังวานเสนาะ      งามไพเราะเรือนรักถักทอฝัน
     ใจสองดวงคล้องใจรักร่วมกัน               คือคำมั่น สัญญา  แรงรักปอง

     ในบ้านรัก เรือนใจวิไลเลิศ                 พราวบรรเจิด กว่าแดนใดในทั้งผอง
    ชื่นชีวาคงคู่รักเคียงครอง                     กอดตระกองก่อตำนานบ้านเรือนรัก

จากกลอนข้างบนนี้ ลองแต่งเพื่อจะให้เป็นเพลง  ประสาตัวเองคิดสนุกๆ 
ช่วยมองข้ามความซ้ำซ้อนในเชิงกลอนไปนิดนะคะ
    
เรือนรักพักตรงนี้         ที่คนดีมีมากเหลือ
ต่างโอบและอวยเอื้อ     เพื่อก่อเกื้อภาษาไทย

วรรณศิลปิ์นิลจรัส        ทวีวัฒน์ลัดไปไกล
กลแบบอาจมีใหม่        ฤาคงไว้ล้วนควรมอง

ล่องคำด้วยคารม          ควรนิยมด้วยใจปอง
ปลาศฤามัวหมอง         มิมาต้องผองพสุธา

นาวาคราน้ำเปี่ยม       หวังใจเรียมอยู่ใกล้ตา
ลอยรักลิ่วมาหา            เอมอุราอิ่มอารมณ์

เย็นลงองค์จอมขวัญ    จิตสุขสันต์แสนสุขสม
ดังนกลิ่วฉิวลม             ฝากชนชมคมหัวใจ


  อาภาภัส  ...






				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส