16 ตุลาคม 2547 09:10 น.

ล่องฟ้า ฟ้า ฟ้า

อาภาภัส



  ฟ้า วันนี้  ท่าจะต้องพาเทวดาไปหาหมอเป็นแน่  
 ลองล่านกันดู  ส่งหลายครั้งแล้วนะ 
 เขียนไว้เมื่อวาน แล้วก็วันนี้  ด้วย 

            สวรรค์หลั่งสั่งพรรษา          จงโปรยพสุธาหฤหรรษ์
       ทุกชีวิตเติมวัน                          ด้วยแรงฝันแห่งดวงใจ
       อรุณรุ่งวันนี้จรัส                      ปิติมนัสสวยใส
       เห็นโลกกว้างทางไกล              ฉลาดได้ด้วยกรุณา
       งามใดเลยกระจ่าง                    ทุกสิ่งสร้างเทียมได้หนา
        จิตตระการแกร่งกล้า               คือนาวาสง่าอำไพ
        วิชาประดุจทรัพย์                   ระยิบยับวะวาวไฉน
        ดั้นด้นช้าอยู่ไย                        รีบ เร่งไปคว้ามาครอง
        หมั่นเพิ่มงอกออกผล              ประดุจยลตะวันฉลอง
         สาดส่องฟ้าเรืองรอง              วิบูลย์ก่องล่องอินทรีย์
        ปลูกรดน้ำคำหวาน                 สมสมานเสริมศักดิ์ศรี
        วจีพรมพร่างพลี                      สิริฉวี บรรเจิดแจรง
         เอื้อหทัยพิสุทธิ์                       เปรียบประดุจบุษบันแขนง
        กระจายกลิ่นแสดง                  ตนมิแล้งความปราณี
        นบนอบขอบคุณฟ้า                รักมีตาแห่งดิถี
        อุ่นไอด้วยไมตรี                      ขอพึงมีสุขสถาพร
     
                            อาภาภัส   15  ตุลาคม  2547
                                          พระประแดง
เด็กหญิงลำไย      เดินดุ่มมุ่งไป   บนสายสีรุ้ง
   ทอดยาวจากสรวง   มีดวงดาวพุ่ง  มีประกายรุ่ง    กระตุกใจชม

      ค่อยแวะแกะร่อง   เปิดฟ้าเมียงมอง  แล้วลองสั่งสม
  ดีดีเยอะจัง  สวรรค์หวังอารมณ์   น้อมใจไร้ตรม    ยิ้มฝันพรายตา

     เอียงคออีกนิด   เก็บดาวไปติด   ชิดใจดีกว่า
 ฝากคนทั้งโลก     ไม่โศกอุรา     หัวใจกรุณา   ช่วยเอื้อเจือจุน

     อัศจรรย์พลันเกิด  มือสวรรค์เอื้อมเปิด   ก้าวล้ำเขาขุน
เสียงการเวก       โงกเงกง่วงงุน   ต้องติดตามลุ้น  หนูตื่นพอดี   

       16  ต.ค 2547
      อาภาภัส






				
14 ตุลาคม 2547 17:25 น.

บ้านรัก..เรือนใจ

อาภาภัส



..                         บ้านรัก   เรือนใจ..   
                                            ประพันธ์เนื้อร้องและทำนอง  โดย   อาภาภัส  

     สุขหนักหนาเมื่อมาถึงแดนฝัน            ใต้แสงจันทร์สองเราสบตาหวาน
     รักเพียงนิด ชื่นจิตกรุ่นดวงมาลย์         ดังทิพย์ธารชโลมใจให้เปรมปรีดิ์

     สุขเพียงสองครองรักอวลอบอุ่น           นุ่มละมุนซึ้งชวนไม่หน่ายหนี
     ล้อมบ้านรัก เรือนใจในวจี                   ล้วนยินดีทวีเจิดเลิศลาวัลย์

        เสียงนกร้องก้องดังกังวานเสนาะ      งามไพเราะเรือนรักถักทอฝัน
     ใจสองดวงคล้องใจรักร่วมกัน               คือคำมั่น สัญญา  แรงรักปอง

     ในบ้านรัก เรือนใจวิไลเลิศ                 พราวบรรเจิด กว่าแดนใดในทั้งผอง
    ชื่นชีวาคงคู่รักเคียงครอง                     กอดตระกองก่อตำนานบ้านเรือนรัก

จากกลอนข้างบนนี้ ลองแต่งเพื่อจะให้เป็นเพลง  ประสาตัวเองคิดสนุกๆ 
ช่วยมองข้ามความซ้ำซ้อนในเชิงกลอนไปนิดนะคะ
    
เรือนรักพักตรงนี้         ที่คนดีมีมากเหลือ
ต่างโอบและอวยเอื้อ     เพื่อก่อเกื้อภาษาไทย

วรรณศิลปิ์นิลจรัส        ทวีวัฒน์ลัดไปไกล
กลแบบอาจมีใหม่        ฤาคงไว้ล้วนควรมอง

ล่องคำด้วยคารม          ควรนิยมด้วยใจปอง
ปลาศฤามัวหมอง         มิมาต้องผองพสุธา

นาวาคราน้ำเปี่ยม       หวังใจเรียมอยู่ใกล้ตา
ลอยรักลิ่วมาหา            เอมอุราอิ่มอารมณ์

เย็นลงองค์จอมขวัญ    จิตสุขสันต์แสนสุขสม
ดังนกลิ่วฉิวลม             ฝากชนชมคมหัวใจ


  อาภาภัส  ...






				
12 ตุลาคม 2547 06:20 น.

คำสัญญา

อาภาภัส



                                                    คำสัญญา

              สุดหัวใจจำได้หรือเปล่าหนอ           เคยเอ่ยขอเปิดธารทางสร้างสรรค์
         อยู่หนใดใยเฉยแลเงียบงัน                   ผ่านคืนวันฝันเรียบเย็นเฉียบใจ

           ทั้งร้อยรัดมัดคำพิสวาท                        ยังคลาคลาดเลือนเหเร่ไฉน
           สุดสิ้นดินผินฟ้าต้องลาไกล                 โอ้อาลัยหวลหาตั้งตาคอย

          อีกนานนักจักเห็นอย่างวันนี้                  ชื่นฤดีมีตนใยจึงถอย
          ไม่ส่งเสียงไม่สนว่าเกลอกลอย              ใจจะพลอยโศกศัลย์ทั้งวันคืน

          วาดชีวาบนหล้าแทรกเพลงเศร้า              หวังตัวเจ้ารู้อยู่กู่ทนฝืน
          อสนีบาตฟาดสายเสียงครันครึน             ทะเลตื่นโต้ลมข่มทะเล

         เสียงคลื่นซัดชัดซ่าราวสะอื้น                  ข้ากล้ำกลืนกลบเตือนความห่างเห
        ใช่ลอยเรือร้างรักราวเกเร                          สิ้นเสน่ห์เฉไกลใจห่างเลือน

        เจ้าคนดีดวงไฟในใจข้า                            จงรู้ว่าสัญญานั้นเสมือน
        ใจมอบมั่นตะวันจะเฝ้าเตือน                    ความเป็นเพื่อนแห่งใจไม่ร้างลา

        โอ้อนาถขาดฝันพลันดวงจิต                    เชลงพิษเพลิงร้อนไร้หรรษา
         ใต้ดาวเดือนอยู่เรือนมองหมดฟ้า             ไม่เห็นหน้าของเจ้าข้าเศร้าตรม

         เจ้าพระยาไหลรินสินธูทิพย์                   วะวับวิบพลุ่งพล่านปานทับถม
   สายน้ำคำย้ำไว้ใจเชยชม                          เพลิงอารมณ์ขมอยู่เพียงผู้เดียว

       เจ้ากลอยใจเหตุไฉนทิ้งคำมั่น                   ทั้งชีวันวางตนมิแลเหลียว
  พระพายพรูหนาวเหน็บเจ็บดังเคียว         สับคมเรียวลึกล้นบนกลางทรวง

     คลื่นแปรปรวนป่วนปั่นสนั่นโสต             ฤาเจ้าโกรธเกลียดแค้นแลห่วงหวง
     ฝนสร่างฟ้าราวว่าเจ้าลาล่วง                         เจ้าลืมดวงใจจำ  คำสัญญา

                            อาภาภัส  12  ต.ค 2547  บ้านพระประแดง
      





				
10 ตุลาคม 2547 23:22 น.

จุดกลางใจ

อาภาภัส



                            จุดกลางใจ
 
                      วาดวงรีตรงที่ว่าง           หาตรงกลางให้เจอะเจอ
                เรียววนปลายเสมอ               แปลกจริงเออเป็นรูปใจ

               อยู่ในทุกตัวคน                      ชังฉ้อฉลปนดีใส
               เกิดก่อจากอะไร                     ฤาเปลี่ยนไปเพราะโลภา

              หลากหลายสายความคิด          ผู้พิชิตยังลับลา
              ความแน่ไม่มีตา                      เมื่อถึงคราหลับทุกคน

              ยังอยู่ณ...วันนี้                         คิดสิ่งดีทวีผล
             มาลัยฤทัยมน                           ร้อยเรียงสนบนรอยวัน

            พรมพร่างด้วยเครื่องหอม          ปรุงรสพร้อมล้อมอำพัน
            ใจเอื้อเพื่อแบ่งปัน                      สุขแดนฝันฝากชนชม

            ฝนฟ้ากลั่นน้ำทิพย์                     ดาวระยิบกระซิบลม
           พลิ้วไหวประกายคม                   หวังให้สมงามราตรี

           ชรอยบุญใดร่วมสร้าง                 ฟากฟ้ากว้างธารความดี
           จากใจข้าดวงนี้                            ขอมอบพลีแผ่อาณา

           ขจรเจิดจรัส                                 จิตประภัสสร์ในภาษา
           ภัยผองอย่าบีทา                            รับพรมาจากบุราณ

          ศรีสิทธ์พิศาลภพ                           มารสยบกลบรอยพาล
          ผดุงเมืองเฟื่องกลอนกานท์           ชาติตระหง่านลานใจเมือง
                                          
                                           อาภาภัส     10 ตุลาคม  2547   บ้านพระประแดง
          







				
7 ตุลาคม 2547 20:24 น.

รัก ...กะ..เปรี้ยว

อาภาภัส




    ขอเขียนเป็นแบบละครร้อง  (ร้องเพลง)
   เวลา  19.08   ที่ทำงาน
.........................

 พระเอกไร้ชื่อ.. (1)           สวัสดีครับรับสายผมสักนิด
คนใช้ประจำบ้าน(2)          ค่ะโทรติดบ้านสวนชวนชมฝัน
(1)                                จะพูดสายกับยายไม้จิ้มฟัน
(2)                               ที่ไหนกันบ้านนี้ไม่มีใคร
(1)                               แล้วใครพูดอยู่นั่นว่าไงครับ
(2)                              คนคอยรับสับคนให้งงไหม
(1)                              ดุจังนะจะทำได้อย่างไร
(2)                             ไม่ยากไงสับหมู..คนน้ำแกง
(1)                              โอ้โล่งใจไปได้คงพอลุ้น
(2)                              เอ.ไม่คุ้นความจำทำหน่ายแหนง
(1)                              อยากจะถามความรักราคาแพง
(2)                              อ๋อต้องแสดงห่วงหวงคู่ควงตน
(1)                              อธิบายกลนัยให้หน่อยสิ
(2)                              ไม่ยากนิกะทะตะหลิวหลน
(1)                              ทำปลาร้าหรือว่ากะปิปน
(2)                              นั่นแหละคน..หนึ่งแผนก..แปลกรักนาน
(1)                              อยู่คู่กันตีกันสนั่นเมือง
(2)                              รักเมลืองมลังดังสร้างศาล
(1)                              หมายความว่าบูชาวางบนพาน
(2)                              ต้องใช้งานคู่กันงั้นอดกิน   (กะทะ.ตะหลิว)
(1)                              แพงหรือพังยังฉงนฉงายนะ
(2)                             ไม่รู้ล่ะพระใยอยู่ในหิน
(1)                              มีด้วยหรือเพิ่งเคยจะได้ยิน
(2)                             คำเล่นลิ้นพระใย   ภัยะ .เดน
(1)                             คุยตั้งนานหวานรัก.กันดีกว่า
(2)                            ใจมีค่าใช่เกลือกับพิมเสน
(1)                            รักคงมั่นมิคิดจะโอนเอน
(2)                            ว๊ายตาเถร ..ลืมแกง  ..บนเตาไฟ
(1)                            รอประเดี๋ยวเกี้ยวไว้ ..ให้ตอบหน่อย
(2)                            งั้นคุณคอยถือสายจะได้ไหม
(1)                            หากสายรักต้องรอนานเท่าไร
                                หมดหัวใจผมให้..ไว้อุ่นอิง    


            อาภาภัส   7  ต.ค 2547     ส.ร.ธ










				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส