7 พฤศจิกายน 2547 18:58 น.

.ริมทะเล..

อาภาภัส

ชายม่านพลิ้วปลิวคว้างกลางกระแส
            ลมปรวนแปรเปลี่ยนวนค้นคำถาม
            ฝนจะตกฤาเพียงส่งเสียงตาม
            คลื่นครวญยามฟ้าเหงาเคล้าคราเย็น

            เสียงวู่วู้กู่ให้ใจย้อนฝัน
            คิดถึงวันเยาว์วัยได้เคยเห็น
           ทรายริมหาดขาวอ่อนร่อนกระเซ็น
           เมื่อโกยเล่นกอบก่อต่อใส่มือ
 
          
            น้ำซัดฉ่าซ่าซู่ชูชีวิต
            ปลาตัวนิดกุ้งปูหามาถือ
             วิ่งติดตามค้นหาอย่างอลอื้อ
             เพื่อนตามตื้อยื้อด้วยช่วยกันไป

             เฮเฮฮาประสาเด็กต่างถิ่น
            ได้ร่วมกินพักเพลินสนุกใส
            ในถิ่นใต้ คือสวรรค์ที่ไม่ไกล
             ฝังจ่อใจจำเสมอมิเคยลืม

            ณ  ยามเย็นริมน้ำสุขล้ำเหลือ
            ดินแดนเกื้อหนูแมวเกาะเคร่งขรืม
            อยากฝากใจสั่งใจ ฤาให้ยืม
            ความปลาบปลื้มเปล่งสว่างเป็นทางเวียน

           ลมเย็นแรงแซงเสียดใบไม้สะบัด
           ปลิดสลัดก้านแกว่งอยู่เหนือเศียร
           ดังเสียงสนแซ่ซ้องร่องทรายเนียน
           กาลจำเนียรผนึกนิ่งสิงใจเรา

           ฟ้าเดียวกันพันผูกปลูกสายคำ
           ผ่านลมล้ำถึงเพื่อนอย่าหงอยเหงา
           แม้วันนี้เราอยู่ใจยังเนา
          สมิหราเหย้าย้ำเตือนมิเลือนคลาย


               อาภาภัส  7  พ.ย 2547				
5 พฤศจิกายน 2547 11:27 น.

...สายสัมพันธ์

อาภาภัส

ในวิมานสานฝันอันแก่กล้า                       ใจนำหน้าเดินจ้ำล้ำถึงไหน
  ต้องติดตามเด็กหญิงเปรี้ยวหวานไป               เธอจ้องใส่ท้องฟ้ายามราตรี

 ค่อยๆแกะเก็บดาวเอากาวแปะ                       เรียงจัดแตะด้วยหวังรั้งวิถี
 ทางสว่างมากมิตรชิดความดี                           อักษรศรีวาดต่อก่อคำกลอน

 กอบเมฆน้อยค่อยไต่ไล่เลียงเรื่อง            เติมสีเหลืองกลมพลันพระจันทร์หลอน
 มีกระต่ายสีขาวยิ้มริมดอน                                บ้านตายายรั้วอ่อนกระถินงาม

 โค้งวงกลมชมจันทร์กระชั้นชิด                           รังสีฤทธิ์โรยหลัวราวไถ่ถาม
สยามนี้มีใครร่วมลงนาม                        ประกาศความเชื้อเดียวเกลียวรักไทย

  ชาติเผ่าไหนใจเราเราต้องรู้                        ว่ากอบกู้แกร่งเกื้อเลือดหลั่งไหล
  บรรพชนรวมเหย้าเพื่อเผ่าไทย                            แขกจีนไซร้ไทยนี้พี่น้องกัน

  มาเถิดมาวางมือกระชับมั่น                                สร้างสัมพันธ์ผูกถักรักสุขสันต์
 ถึงอย่างไรก็คือไทยอนันต์                               ร่วมใจปันโอบเอื้อเพื่อชาติคง 




 สลักรอยเรียงดาวพราวเจิดจ้า                            ห้อยระย้าสายใจไยรูปหงส์
  คุณต้องรู้ชูค่าเกียรติ์ทะนง                                 ต้องต่อตรงสายสลุตยุติธรร    เพียรแต้มเติมเพิ่มนิดจิตเหนื่อยอ่อน                    หลับตานอนแนบไปใจคมข   หวังวาดฝันฟ้านั้นไร้สีดำ                                     สุขกระหน่ำราวฝนหล่นลงดิน   นรชาติชนเอยเคยล่วงรู้                            รวมกันอยู่สงบเสียงเคียงทรัพย์สินธุ์
 กว่าสิ้นลมพรมดีเป็นอาจิณ                                 หลั่งวารินใจจรัสมนัสเปรม
                    
 อาภาภัส       5  พ.ย  2547				
30 ตุลาคม 2547 09:52 น.

ช่วย..ท่าน

อาภาภัส

ในคลื่นฟ้าเทวานักยิงใจ       งานมากไซร้ฝนขัดศรเรียวแหลม
แล้วเหาะลิ่วปลิวล่องเพื่อจ่ายแจม  อีกทั้งแถมมากล้นคนต้องการ

คิดดูนะช่วยแล้วยังโดนเว้า          ว่ายุ่งเจ้าจางรักทั้งหักหาญ
ที่จะรักไม่รักยังเดือดดาล             หาว่างานเทพบิดผิดกระบวน

อันความรักถักสายคล้ายแกว่งเบ็ด    เหยื่อสะเด็ดหรือหวิวลองคิดหวล
อยู่ที่ตนก่นใจก่อรัญจวน                  คุยเชิญชวนยิ้มชื่นรื่นละไม

ปลาติดข้องจ้องจิตมิดีดหาย               รักมิคลายครอบรักหมักเป็นไห
สุขเรียงร้อยเริงฝันรวมกันไป            แล้วเยื่อไยรักหวานสะท้านทรวง

อันวาจาละมุนก็อุ่นรส                        ความเบี้ยวคดคลอนหายคลายหึงหวง
รักรู้สึกกึกก้องต้องตามดวง                รักจะลวงฤาคงบ่งตามใจ

คำสัญญากล้าต่อก็พานพบ                 ยอมสยบน้อมตนเนารักไฉน
จากแจ้งกล่ำกลืนมืดมิเลือนไกล         ฟ้าวันใหม่รักอยู่กู่ก้องฟ้า   


 อาภาภัส   30  ต.ค  2547				
17 ตุลาคม 2547 08:02 น.

ระฆังใจ

อาภาภัส



               กรุ๊งกรุ๊งกริ๊งแกว่งลิ่วระรัวเสียง         ดังดาวเรียงละอ่อนอ้อนเวหา
             วายุเผยพะพลิ้วหวิววู่มา                      หมุนไกวท้าคลื่นลมระรื่นงาม

             กรีดกังวานหว่านแทรกฝ่าฟ้าฟ่อง       หวานแซ่ซ้องก้องก่อทอใจหวาม
            รัดตราตรึงซึ้งใสให้รักคราม                 ส่องสยามสุขล้นบนทรวงไทร  

            สร้างรวงฝันสัญญาทุกดวงแด              ดรุณแน่ดำเนินดัง วาดไหว
            กระพริบพรับระรินเริงฤทัย                  สลักไล้ใส่ศรอักษรา

            เสกมนต์ศิลป์สั่งสมพรมพร่างทั่ว         ไร้ขลาดกลัวก้าวไปด้วยหรรษา
           กระชับจิตเจียรจาร รจนา                             ลุลีลาล่วงร่อนลู่ลำนำ

            ระฆังใจไร่รักดารดาษ                           เพราพิลาศอุษาคารมขำ
           ผลิรากเพิ่มเติมไต่ต่อคมคำ                     สุขกระหน่ำล้ำค่าราคาคน

           ดั่งอัญเชิญพรหมโลกเยือนสดับ             คนธรรพ์ขับประโคมกมลผล
           ราวน้ำทิพย์รดร่วงธราดล                       ยามยินยลไพเราะเสนาะเพลิน

           รุ้งเลื่อมลายหลากสีระวีเริ่ม                      ประจงเจิมจรัสมิขัดเขิน
           เพียรผนึกเยี่ยงอย่างท่านดำเนิน            คุรุเกริ่นกรุยฟ้าเพื่อหล้าไทย

          แม้ดวงใจสายรักมิมาต้อง                      ยังกรุ่นก่องวะวาวเลือนหวั่นไหว
         วาระรู้อยู่ได้ด้วยตนใน                          ระฆังใจเกียรติ์กึกคึกครื้นเครง
            
                                    อาภาภัส   17 ต.ค 2547 











				
16 ตุลาคม 2547 12:11 น.

ใจจำแลง

อาภาภัส




       แหวกกรีดคว้านควานแงะแทะเนื้ออ่อน    กลางสมรภูมิทรวงมนุษย์หนา
       เจอแต่แสงแดงสวยอวยเอื้อตา                  พ่อสั่งว่าอย่ากระหน่ำทำเป็นเมิน
      
      ไหวระริกพลิกหายแล้วกลายกลับ              นำมารับรู้ใหม่ใส่ไฟเขิน
       ละอายพูดเพียงนิดอย่ากล่าวเกิน               วางใจเดินกรุณาหาทางดี

      งานสำคัญปั้นหลักที่เยี่ยมก่อน                   แล้วจึงผ่อนค่อยล่วงมิเหหนี
     ฟังให้มากอ่านเพิ่มในทุกปี                         เงินต้องมีมิเกลียดทิ่มเสียดแทง

      ดำรงค์รักษ์ผองเพื่อนเอื้อนโอนอ่อน          คำเป็นพรมอบพรมมิหน่ายแหนง
     เก่าฤาใหม่ใจกอบกู้ด้วยแรง                         อย่าเช่นแสงรดลาคราฟ้ามัว

     รสชิวหาปร่าลิ้นก็สิ้นซด                             ใจกำสรดเสริมสุขให้รื่นหวัว
     ต้องยอมตนผจญภัยใจอย่ากลัว                   สิ่งใดชั่วรู้ทันให้มั่นคง

     ปลอมเพียงนอกงามในใจเรารู้                     ตนต้องสู้ตนได้ใช่วนหลง
     จวนใกล้วอดจอดแก่แย่แล้วปลง                   นั่นคือธงโบกชัดซัดตราบลา


.......................................................................................

         อ่านที่ใครคนหนึ่งส่งมาว่า ตามพ่อสอน ทางอี เมล์  ก็สรุป แป็บๆได้เท่านี้ก่อน
      16  ต.ค  2547   
         อาภาภัส










				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส