9 พฤศจิกายน 2552 20:16 น.
อาภาภัส
เสือสองตัวกลัวปัญหา แค่บอกว่าสองคูณสอง
จึงตะโกนเรียกจองจอง จ๋ามจูนจ๋องเป็นเท่าไร
แกล้งพูดหรือพูดแกล้ง ก็แสดงสมองเท่าไห
ฉลาดจริงอาจมากไป ปลาตัวไหนติดเบ็ดตาม
................................
จะเขียนกลอนสนุกสนุก แต่มันกลับเหมือนบุกกลางสนาม
ไม่รู้จะคิดจะเขียนความ รักสยาม ...หรือเรื่องหยาม เอ๊ย หนามรัก
สี่ สองแปด แฝดรุ่นยาย นิ้วเธอผาย หญิงมั่นนัก
อ่านแล้ว แทบฟันหัก หัวเราะหนัก รักคุณยาย
ไร่ผาสุกคงสุกมาก จนลาจาก ฟันหดหาย
วันหนึ่งทกหญิงชาย ต้องไว้ลาย เป็นยายตา
บุรีทองล่องแควน้อย โอดสำออยไห้โหยหา
หญิงมั่นหนึ่งในหล้า คงต้องหาถึงเมืองกาญจน์
5 ตุลาคม 2552 19:16 น.
อาภาภัส
กล้าเอื้อนเอ่ยเคยโดนทุบบ้างไหม กล้ายังไงได้อยู่นานๆหนอ กล้าเป็นต้นต้องทำดีเกินพอ กล้าแตกกอต่อกรละคอนยาว จริงพร้อมกล้าพาตนไปข้างหน้า หรือป่าช้าวัดดอนนอนปนหนาว โอ้ละหน่ายหมายเห็นทางแวววาว ดมมะนาวสลับคั้นดื่มลืมต้นเดิม เมื่อมีจริงย่อมมีเจื่อนเลื่อนเพี้ยนเพี้ยน ตอหลอเปลี่ยนสระแอแลฮึกเหิม เอะอะไวพ่นใส่สีต่อเติม คืการเริ่มเรียนโลกใสใบสีดำ สัจจังเวอมตวาจา กาลเวลาส่งสายสื่อคิดขำ ต้องงุบเงียบง่นแง่นงงงุนนำ จึงจักจำกล้าปลูกต้นตระกูล อย่าคิดมากเขียนเล่นแบบตอกติด ตอกใจปิดสื่งชั่วดีไม่สูญ ความจำเริญพอกเพิ่มทวีพูน บวกแล้วคูณคุณค่ากล้าจึงงาม
23 กรกฎาคม 2552 15:00 น.
อาภาภัส
เพียงช่วงหนึ่งซึ่งฝันวันเลยผ่าน เป็นเศษสานรอยดินทุกถิ่นฐาน
ยามต้องแสงอาจดูวาวตระการ จ้องนับนานแค่เม็ดทรายในสายลม
ปลิวลิ่วล่องลอยเล่นเผ่นตามน้ำ บางทีคล้ำดำด่างอย่างขื่นขม
เหตุด้วยถอยลอยหล่นตรงโคลนตม ผู้นิยมหาไม่เห็นกระเด็นไกล
อยู่ใต้ตีนปีนตลิ่งก็บ่อยบ่อย แต่ยังคอยคิดดีดีได้ไหม
จำต้องทนเกิดเช่นนี้คือเป็นไป เศษละไมใสสว่างทางละมุน
มีจริงอยู่อยู่จริงสิ่งที่ชัด พอนำขัดปัดแต่งแรงเนื่องหนุน
ผสมสีสวยสรรค์กลับเจือจุน ใครมีบุญย่อมคิดออกบอกตรงตรง
เกิดจากไหนไปนอกหรือเนาถิ่น เดินหรือบินอย่างกาหรืออย่างหงส์
ค่าดวงใจใช่ไหมบอกเผ่าพงศ์ เวรเป็นวงคงเวียนเปลี่ยนเพราะตน
อ่านอักษรกลอนหนึ่งซึ้งรสถ้อย จึงแจงจ้อยลอยใจใช่สับสน
สมมุติสิ่งเม็ดทรายที่ปะปน เช่นเชิงคนเชิงคิดติดกลอนกานท์
5 พฤษภาคม 2552 17:30 น.
อาภาภัส
นับเวลาผ่าน ไม่ได้เนิ่นนาน เล่าขานเรียงคิด
เดินกลางดินทราย มุ่งหมายตามติด หวังสานสนิท นิทานแดนไกล
เด็กชายตัวอ้วน ส่งเสียงกวนกวน เผยภาพในใจ
ณ ซาฮาร่า สมิหลาใช่ไหม ป้าต้อยฟังได้ ด้วยความยินดี
กล้าเก่งกลั่นกรอง เนื้อเรื่องเฟื่องสมอง แคล่วคล่องเข้าที
ยุคยังไม่เกิด เลอเลิศล้านปี ที่อยู่หนูนี่ สักขีสงขลา
ฟันแหลมเปลี่ยนผุ เพราะรอยระบุ เจอมัมมี่นา
สู้กันฟันเข่า หนักเข้าน้ำตา ไหลหลั่งล้นหล้า กลายเป็นทะเล
ทะร่อทะแร่ เกือบเกือบจะแย่ โซซัดโซเซ
ไปเจอปลาวาฬ นั่งยานรถเมล์ ทำท่าโก้เก๋ ฮาเฮสนุกเหลือ
เลยต้องขอร้อง ช่วยส่งใส่ซอง พร้อมกล่องเหล่าเกลือ
กลับสู่แดนเดิม ต่อเติมเอื้อเฟื้อ ไม่เชื่อต้องเชื่อ กอเค็มเต็มทราย
เหมียวมาตอนไหน พลบค่ำก็ได้ กลางคืนเดือนหงาย
ตามันวาววาว หางยาวยักย้าย มันมองหานาย ชื่อไนท์กระมัง
บันทึกคึกคิด เดือนเปิดตาปิด ไนท์หลับหรือยัง
ฝันดีมีเงิน ก้าวเดินอย่ายั้ง กว่าโตตัวตั้ง คงกินเบอะบาน
เห็นรูปอวบอ้วน คงมาเชิญชวน เพื่อนเล่านิทาน
อย่าเพิ่งโกรธา มุสาสราญ คล้ายกับตำนาน หลานคงเข้าใจ
จอจบจอจาก เรื่องเล่ามีมาก นิทานเมืองไทย
สงขลาสุขี สวัสดีเพื่อนได้ คิดถึงแม้ไกล ไม่เคยลืมเลือน
10 เมษายน 2552 21:31 น.
อาภาภัส
หนักเอาเบาสู้อยู่อย่างสิงห์ เป็นคนจริงซื่อสัตย์ขยันเสมอ
น้ำใจหนักรักชาติอย่างเลิศเลอ แม้ต้องเจอปัญหาก็ฝ่าไป
คนรุ่นพ่อช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก ท่านจงรักภักดีใจผ่องใส
กว่าสิ้นแรงงานท่วมทั่วเมืองไทย เป็นหมอใจสอนมนุษย์ให้หยุดตรอง
ทำดีแท้ทำถูกปลูกสัจจะ ยึดธรรมะปฎิบัติไม่มัวหมอง
เรารุ่นหลังทำพังแถมลงคลอง แล้วจะร้องเพลงชาติไทยยังไงดี
กราบคารวะด้วยสำนึกพระคุณ ดังร่มบุญปีกกว้างสร้างศักดิ์ศรี
เตือนตนเองเร่งขยายสายวารี ทานพลีเพื่อสุขร่วมรวมรักคง
อยากเอื้อนเอ่ยบอกว่ารักเคารพ แม้ประสบเพียงประวัติดังกับหงส์
เพริดเพราพริ้งพวงแก้วละออพงศ์ บันทึกส่งสู่ท่าน ผ่านไทยโพม