30 มีนาคม 2547 09:02 น.
อาภาภัส
หวานนำคำ คงมั่น มิจำพราก
เพียงลมปาก ปวดแปลบ แสบสงสัย
สร้างเสกสม สะดุด กระเด็นไกล
แกร่งฤทัย เทียมเท่า ภูผาชัน
ชายมาชิด คิดชม คมคลาดชิด
ชังบังมิด เมินมอง มิปองขวัญ
เข็นใจค้น เคร่งหา องค์เทวัญ
วลีลั่น ลงรากลึก ระทึกทรวง
แทรกรักใส ไสรัก ซึ้งจากจิต
จารลิขิต เขียนกานท์ สานอักษร
เสียงสนุก คลุกสนาน ผ่านมาวอน
เว้าหวานอ่อน วอนเร้า ว่ารักเอย
28 มีนาคม 2547 23:01 น.
อาภาภัส
กาพย์สุรางคนางค์
มาแล้วจ๊ะจ๋า ฉันพายนาวา ปลาเป็นมาลง
ปลาใหญ่ปลาน้อย ซื้อร้อยแถมกรง เก็บนกกลางดง เอาไว้เลี้ยงดู
เร่เร่เข้ามา เร็วเร็วอย่าช้า ซื้อปลาแถมปู
คนละนิดหน่อย แล้วค่อยร้องฮู ซื้อเนื้อแถมหมู มันยังไม่ตาย
เรือฉันไม่ใหญ่ แต่มันใส่ไก่ กุ๊กดกุ๊กหลากหลาย
หรือจะเอากบ อ๊บอ๊บผ่อนคลาย ร้องขายแทบวาย เรือดันวิ่งวน
ล่มลงในนำ ด่างดำดูชำ กลิ่นอวลสับสน
โอ้หนอกระไร ดุจไฟลวงคน ไม่เชื่อตัวตน อาจตายทั้งเป็น
28 มีนาคม 2547 14:47 น.
อาภาภัส
แป ปี๊ แป เริ่มละเลงเพลงมาใหม่
ออ อี๊ ไอ่ ใช่วับ พระเอกหนอ
มาแวบๆโดดวับไปนอนรอ
ฉับชิ้งฉับอาบังจ้อออกโรงแทน
มง ทึ่ง มง สงสัย ใคร่จะถาม
เด็กเดินตามตอเต่าไม่ผิดแผน
ยามกินมั่วมันรีบมั่วยึดดินแดน
กลิ่นเหลือแสนแค้นใจใครได้ดม
ตุเลง เลง ม้าย่องเร่งมาออกบท
ให้กำสรดเศร้าทรวงหน่วงหนักถม
ขับนางเอกสะอิ้งน้อยมาตามลม
ยามระทมถึงจำถึงนางเจียว
สะอื้นฮักก็ควักเธอมากก
พอปลงตกหมกเธอไม่แลเหลียว
ลิเกเร เฉชำระกำเดียว
เชิญเดาเทียวทั้งบท สดสดกลอน
เขียนคำตอบเติมมาว่าอะหยัง
ถามของบังแบบนางเอกใช่คำสอน
เป็นของใช้ยามโศกโลกละคร
เลยแต่งกลอนกลับกลิ้งให้ งิงงง
28 มีนาคม 2547 08:22 น.
อาภาภัส
โคลงสี่สุภาพ
คำคนครวญใคร่รู้ รังรอง
เพียงเอ่ยวจีตรอง แต่งแต้ม
ลิขิตป่นปนปอง ประหนึ่ง ตนเทอญ
จักก่อจิตงามแฉล้ม ฉำหล้าหวามหวาน
28 มีนาคม 2547 08:04 น.
อาภาภัส
เก็บภาพจากใจนางเรียงร้อยวจี
เลิศรัตนกวีมากล้วนชวนมาฝัน
มือน้อยน้อยคล้อยเคลื่อนไคลคลาพลัน
เก็บกอบจันทร์โรยดวงดาวให้พราวฟ้า