23 พฤษภาคม 2547 19:23 น.
อาภาภัส
แว่วเสียงเพลง ดวงใจ ไกลตามคลื่น
ลมระรื่น ลำนำ ช่างล้ำเหลือ
ทุกคนมี สิทธิ์รัก แนบใจเจือ
ไอโอบเอื้อ เยื่อไย ให้แก่กัน
บนเส้นทาง อ้างว้าง แห่งชีวิต
ตนลิขิต ตนได้ ในทางฝัน
สร้างความหวาน สานสื่อ คือรักพลัน
แม้เพียงวัน วาวรัก ยังทักใจ
สกุณา ถลาเหิน เผินผกผิน
จากพื้นดิน สู่นภา ท้าลมไหว
บินเริงร่อน ว่อนฟ้า อ่าอำไพ
ดังหัวใจ ใครรัก จักบรรเลง
ไกลแสนไกล ใยใจ ยังเจิดจ้า
แรงรักกล้า สว่าง อย่างเหมาะเหม็ง
ราวพู่กัน ระบาย กระจายเล็ง
ชมพูเปล่ง ปรับสิ ทวีงาม
เพิ่มเติมภาพ ชายหนึ่ง ซึ่งคือใคร
อยู่เมืองไหน มิรู้ กู่ฝากถาม
คำว่ารัก จักมอบ ตอบนงราม
เอ่ยใจความ รักชอบ มอบหญิงไทย
พู่กันจาร เจือลักษณ์ พักตร์นวลหนึ่ง
วาดตาซึ้ง น่าชม คมสวยใส
ยิ้มหวานชื่น ทายทัก รักละไม
เพลงดวงใจใครเอย จบพอดี
เดาเอาเถิด รักเลิศ เกิดไหมหนอ
ฤาเพียงล้อ พ้อคำ อำขานไข
หากพรหมพา ค่ารัก ประจักษ์ใคร
หญิงชายไซร้ คงสมัคร รักละมุน
อะไร..ก็รัก ตอนนี้ เขียนให้คนคุยในคอมค่ะ
ขอให้ทุกคนอบอวลด้วยรักและมีความสุขค่ะ
อรุโณทัย อาภาภัส
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๗
21 พฤษภาคม 2547 07:12 น.
อาภาภัส
ขอหยุดคั่นรายการท่าผู้ชมสักนิดนะคะ มาฟังลำนำคำครวญ ฝนครวญ
กาพย์ยานี
อยากเขียนกลอน อ้อนคำ ด้วยลำนำ คำว่ารัก
เจ้ากรรม ปากกาหัก จึงหาจักร มาจิกทำ
เข็มกร่อนกระดุกดิก ก็กลับพลิกเสียประจำ
เดินเลยเข้าไปนำ สีดำถ่านที่ในครัว
ฝนตกแฉะไปหมด เลยต้องอดใช้ถ่านถัว
มองไปเห็นก้านบัว หยิบมาจักสลักรอย
วางเรียงต่อล้อคำ ไยบัวช้ำดังใจคอย
เวียนวนเจ้าเกลอกลอย อยู่แห่งใดไม่เห็นตน
เลือนลางบนทางเปลี่ยว ซ้ายขวาเลี้ยวทุกแห่งหน
ถนนใจวิ่งเวียนวน ถนนคนวนเวียนใจ
ฝนเอย ฝนฟากฟ้า หยดหยาดมา อ่าอำไพ
ฝนหล่นบนหน้าใส อุราร้าวระรอนแด
หฤทัยในทั้งดวง มีรักห่วงหวงเหลียวแล
ฝ่าฝนหนทางแท้ หวังรักสุขคงสักวัน..
ครึนครางลมฟ้าฝน ดุจกมล จนใจพลัน
สวรรค์เอยขอจงสรร เสกสมสร้างทางรักจริง
ขอให้ทุกท่านสมหวังในรักและมีความสุข
อรุโณทัย อาภาภัส
๒๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗
18 พฤษภาคม 2547 12:04 น.
อาภาภัส
สวัสดีค่ะท่านผู้ชม ก่อนอ่านทำใจไว้ก่อนนะคะ งานเขียนค่ะ ตั้งชื่อไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอะไร...ก็รัก
เชิญติดตาม..และชมได้แล้วค่ะ...
อุลตร้าแมน เหาะเหิน เดินอากาศ
เผ่นผงาด ทั่วแคว้น แดนไหนไหน
ผ่านมาถึง แดนดิน คือถิ่นไทย
ต้องตกใจ ตะลึง อึ้งไปเชียว
โอ้โฮเฮะ เตะตา น่าดูแท้
เมืองเขาแน่ ราบลุ่ม ชอุ่มเขียว
ระดะดื่น พืชผล หลากพรรณเทียว
จึงลดเลี้ยว นั่งลง ตรงต้นตาล
กาพย์ฉบัง ๑๖
พิศเพลินเมืองมนต์งดงาม สมนามสยาม
เด่นล้ำเกินคำกล่าวขาน
สงบเงียบดุจดังวิมาน เทพเทวาสถาน
พิสุทธิ์พิเศษสดใส
เหลียวแลทุกถิ่นทั่วไป งามล้ำอำไพ
สมเป็นแดนทองปฐพี
เหล่าปวงประชาสุขี จิตใจอารี
โอบเอื้อการุณย์คุณธรรม
กอบกิจภาระประจำ แบ่งปันสุขล้ำ
ไป่เกี่ยงไป่โทษถือสา
ถ้อยคำอ่อนหวานเจรจา ท่วงทีกริยา
เคารพนบนอบตอบคุณ
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
ลมเย็นพัดโชย ใบไม้โบกโบย ปลิวโปรยฟากฟ้า
อุลตร้าหุ่นยนต์ โดนมนต์สบตา ด้วยเห็นรจนา นวยนาดแกว่งไกว
ยาวเหยียดท้องทุ่ง ชาวนาต่างมุ่ง หว่านข้าวแรงใจ
ป้องกันผืนนา ไล่กาด้วยหุ่น คล้ายดังสาวรุ่น ดุจมีชีวี
ยืนยะแย้มยิ้ม ตาหวานพราวพริ้ม สดใสสดสี
อุลตร้าทายทัก น่ารักคนดี อยากรู้นารี มีแฟนหรือยัง
เรื่องเหลือเชื่อ เกื้อใจ ให้คนอ่าน หวานสะท้าน ลั่นเลื่อน ด้วยรักใส
ต่างเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ ประหลาดใจ ต่างด้วยวัย วัตถุ อุตุมึน
ระหว่างตรวจ มนตรา พยากรณ์ เห็นหุ่นจร มือจับ หุ่นฟางฝึน
รักหวานแหวว แจ๋วเยี่ยม ละอออึน รักคงครึน ลั่นรบ ก็จบลง
> ขอให้ทุกคนมีความสุข
อรุโณทัย อาภาภัส
๑๘ พฤษภาคม ๒๕๔๗
17 พฤษภาคม 2547 06:03 น.
อาภาภัส
มดแดงเดิน ดุ่มหา โลกเวลา ห้วงฝัน
เห็นมากมายต่างกัน คนต่างวันเปลื่ยนไป
มุ่งต่างให้ได้มา เพื่อรักษา ความเป็นใหญ่
จิตงามสว่างใน เหลืออยู่ไหมในแดนดิน
เดินโดดเดี่ยวลัดเลี้ยว ประเดี๋ยวเบี้ยว ไถลหิน
มันลื่นสูงต้องปีน เหนื่อยจนชินมดแดงครวญ
แต่ค่ามดมีอยู่ โบราณครูสอนจึ่งหวล
นำมาเอ่ยเชิญชวน คิดทบทวน ในถ้อยคำ
ขอความจากนีไป ไม่ได้แต่งเองนะ แต่เคยอ่านมา และท่องจำมาหากมีผิดพลาดขออภัย
มดเอ๋ย มดแดง เล็กๆเรี่ยวแรงแข็งขยัน
ใครกลำกรายทำร้ายถึงรังมัน ก็วิ่งพรูกรูกันมาทันที
สู้ได้หรือมิได้ใจสาหัส ปากกัดขบต่อยไม่ถอยหนี
แม้นใครเกร่งกล้ามาราวี ต้องต่อตีทรหดเหมือนมดเอย
หากมีผิด ขออภัย ช่วยอธิบายแค่ได้ว่าเป็น กลอนดอกสร้อย เพราะจะใช้คำว่า เอ๋ย
และลงท้ายด้วย เอย และใข้แผนผังเดียวกับ กลอนแปด
งานชิ้น อะไร ก็(ไม่)รัก เขีนยกระทันหัน หน้าคอม
คงจะขาดหวานหวานอย่างหวานรัก จะลองเขียนเติมดูนะคะ
มดแดงเดินเพลินพนาก็จ๊ะเอ๋ มดเจ้าเล่ห์ตัวดำน่าขำเหลือ
ตัวใหญ่ใหญ่ใจน้อยลอยในเรือ ใบมะเกลือร่วงเก่าเอามาทำ
เจ้ามดดำทำท่ามาอวดเบ่ง ใช่ถิ่นเอ็งถอยไกลอย่าถลำ
แดนมดเจ้าเข้าไปเรือนเพาะชำ ดอกไม้รำหอมหวานลานวางเรียง
จ้าเข้าใจท่านนายข้าย้ายตัว โอยข้ากลัวปากท่านยามแผดเสียง
วันนี้นะจะหานำหวานเพียง ทางที่เลี่ยงแดนฝันมันคงพอ
มดแดงน้อยกลอยใจเลยไปเยี่ยม แดนดาวเทียมที่วางนำไว้หนอ
นำแดงหวานในแก้วงามละออ ไม่ต้องขอหวานหวานบานตะไท
แล้วฉับพลันทันใดใจสะดุด ตาวาวสุดสายตาหน้าใสใส
เป็นมดแดงแกร่งงานอ่านหัวใจ เลยยิ้มให้ฟังเพลงในสายลม
ฮะฮาฮา มดหนาก็มีรัก ผูกสมัครใจจองจองขนม
ชิ้นหัวใจผูกใจไม่ผูกปม รักจะตรมระงมรักก็เดาเอา
ผู้เขียนเองเกรงอ่านแล้ววาบหวิว มดสยิวพลิ้วไปในความเขลา
ก็อยากเขียนอย่างนี้มันเบาเบา ก็ตัวเราชอบล้อขอลาที
ขอให้ทุกคนมีความสุข
อาภาภัส อรุโณทัย
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๗
12 พฤษภาคม 2547 04:17 น.
อาภาภัส
จากตอนก่อน กามเทพ เสพความเศร้า
ใจหงอยเหงา ศรกุด คุดรักสลาย
จึงล่องลอย ราตรี ลี้เดียวดาย
งานเหนื่อยหน่าย จัดคู่ ให้ดูงาม
แวะนั่งพัก ใต้ร่ม มะยมดก
ใบรกรก เกลื่อนกอง อยู่ล้นหลาม
มองเข้าไป ในบ้าน เห็นนงราม
เอื้อนเอ่ยนาม เปรี้ยวหวาน สานมารวม
อือ..น่ารัก พักตน อยู่หน้าคอม
หาคนตอม ต้องตา หามาสวม
แหวนความรัก สมัครใจ ไม่กำกวม
ล้อกันอ่วม แล้วปิ๊ง อิงนิยาย
กามเทพ จอมซน จึงด้นดั้น
เริ่มสานฝัน พันผูก ปลูกรักหมาย
ให้นวลนาง มีข้าง ไม่ห่างกาย
รักมิคลาย ร่วมอยู่ เป็นคู่ครอง
ฮัลโหล โหล โทรศัพท์ ใครรับอยู่
แล้วมากู่ ถึงใคร นี่ตีสอง
ขอโทษครับ ปากจัด ใครจะจอง
แล้วเกี่ยวดอง ข้างไหน ไยอวดดี
คุณนี่แสบ คารม สมคำลือ
จะให้ถือ สายรอ หรือวางหนี
เดี๋ยวซีครับ รับคำ ถามมากมี
พูดเร็วซี่ ด่วนคำ มันรำคาญ
ทำอะไร ไม่ไป เที่ยวละหรือ
ไม่รู้ชื่อ ใยคุย อย่างฉาดฉาน
ก็สนใจ อ่านดู จากผลงาน
อยู่ที่บ้าน เขียนกลอน ไม่มีใคร
การพักผ่อน ต้องจร ไปเที่ยวบ้าง
คุณคงว่าง มากซี มาจากไหน
ผมหรือครับ ลอยมา จากฟ้าไกล
อ๋อ ..เข้าใจ ฝุ่นปลิว ลิ่วเข้ามา
นี่คนสวย พูดดี มีบ้างไหม
ก็เป็นใคร มืดค่ำ มาโทรหา
เป็นความลับ ห้ามบอก ใครนะนา
นึกระอา ชื่อคุณ ใครอยากจำ
สักนิดนะ จะโทร มาคุยด้วย
ถ้าอยากม้วย เสี่ยงภัย หลงถลำ
ผมอยากคบ พูดคุย เป็นประจำ
เชิญคุณทำ หนึ่งสาม ไปถามดู
โธ่คนงาม ขอเรียก เพรียกหวานหวาน
มาเรียกขาน ไม่อาย หรืออดสู
น่าคนดี พี่นี้ ชอบโฉมตรู
มาขี้ตู่ ตัวตน อยู่หนใด
ใกล้ๆคุณ คุ้นเคย เคยเห็นหน้า
อีตาบ้า แน่จริง มารับไหม
จะไปรับ คุณเธอ ถึงบันได
เชอะ..แน่ใจ ทำได้ โม้ทั้งปี
กามเทพ แอบฟัง อย่างขำขำ
มีงานทำ อำคน เวียนวนหนี
เอ.แล้วไหน..ไม่เห็น..อีกคนซี
ตามดูที ตัวตน คนเป็นเป็น
แล้วลิ่วลอย คล้อยร่าง พะพร่างพลิ้ว
มิเฉื่อยฉิว หาดู ให้รู้เห็น
ถ้ารู้ตัว ศรปัก สลักเอ็น
รักเขม้น เวียนพบ ก็จบลง
กามเทพคงต้องตามหาว่าเป็นใครอีกนานทีเดียว และไม่รู้ว่าจะได้เจอไหม
ฝากไว้ให้อ่านนะคะ
อรุโณทัย อาภาภัส
๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗