4 ธันวาคม 2556 16:53 น.
อาบูไซยาบ
ลำแสงแรก สาดส่อง ดั่งทองทา
ประหนึ่งว่า เวหา พลิกเปลี่ยนสี
พสุธา ทั้งพฤกษา แล นที
ยากจะมี ถ้อยวจี ที่เปรียบเปรย
พร่ำคร่ำครวญ ให้จิต คิดวิตก
อยากหยิบยก คำแถลง ให้เฉลย
จริงๆแล้ว ยังฝันใฝ่ ในทรามเชย
แต่ไม่กล้า จะเอื้อนเอ่ย มันออกไป
จึงพาลลม พาลฟ้า ผ่านนที
จากลำคลอง แห่งนี้ ที่รินไหล
แสงเรืองรอง ของเช้าแรก ที่ส่องไป
หวังเพียงให้ เธอได้ รับรู้มัน...
4 ธันวาคม 2556 16:50 น.
อาบูไซยาบ
ช่วงเปลี่ยนผ่าน กาลเวลา ยามย่ำรุ่ง
แสงอาทิตย์ สาดพุ่ง เกินทานไหว
ความมืดบอด ลาดเลื่อน ค่อยเคลื่อนไป
ความสว่าง ที่ไสว ค่อยกลับมา
ประหนึ่งว่า ช่วงเวลา ทนทุกช์เศร้า
เวลาเหงา ก็ไม่นาน นักหรอกหนา
เพียงข้ามคืน เช่นเมฆหมอก มาหลอกตา
เมื่อข้ามผ่าน กาลเวลา ก็จางไป....
4 ธันวาคม 2556 16:41 น.
อาบูไซยาบ
เสียงกระซิบแผ่วเบาผ่านม่านฝน
ที่ฝากไว้ให้บางคนตามค้นหา
ยังคลุมเครือเลอะเลือนแต่เปื้อนตา
ไม่ชัดว่าเสียงที่ดัง ภาพที่เห็นเป็นไร
ฝนสาดเทลมเพพัดสะบัดสาด
ยังมิอาดคาดการณ์ความเคลื่อนไหว
ฝนที่ตกคนที่เคว้ง-เคว้งเรื่อยไป
ไม่รู้นาน-นานเท่าใดใจจะเจอ...(เธอคนนั้น....ฉันรอเธออยู่น่ะ)
4 ธันวาคม 2556 16:38 น.
อาบูไซยาบ
ลมเย็นๆ พัดพา ห่าเม็ดฝน
โพยพัดจนร่างไร้ใจพริ้วปริวไหว
ดั่งตอกย้ำ คำลวงที่ เคยหลวมใจ
ที่เคยโดน พายุใหญ่ โถมพรากเอา
เคยเจ็บหนัก ช้ำชอก โดนหลอนหลอก
ใครต่อใคร พร่ำบอก ไม่เชื่อเขา
ยิ่งทุ่มเท ยิ่งเสียมาก ยามจากเรา
ลมพัดโพย โชยยิ่งเศร้า สะท้อนทรวง....
4 ธันวาคม 2556 16:33 น.
อาบูไซยาบ
เหมือน...เป็นเพียง แค่หัวใจ ใครคนหนึ่ง
ที่คอยเฝ้า เคล้าคิดถึง คนึงหา
เหมือน...เป็นเพียง แค่หมอกบาง อำพลางตา
ที่คอยท่า แสงตะวัน สองเรืองรอง
เหมือน...เป็นเพียง แค่ความรัก จากคนหนึ่ง
ที่เป็นได้ ไม่ถึงครึ่ง จึงหม่นหมอง
เหมือน...เป็นแค่ คนรัก คนสำรอง
ที่เป็นได้ แค่ที่สอง ตลอดกาล