17 เมษายน 2548 22:11 น.

เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์(9)

อาชา

ในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2547  เป็นวันที่ทางรถไฟของหัวใจฉันได้เดินทางมาชนกันโดยบังเอิญ 

          วันนี้ฉันต้องออกไปเดินถือป้ายรณรงค์เรื่องยาเสพติดที่ถนนรอบๆโรงเรียน  ซึ่งจริงๆแล้วฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกอยากเดินเหมือนเพื่อนบางคนที่ขี้เกียจเรียน  แต่ป้ายรณรงค์ของห้องเนี่ยฉันเป็นคนทำมิสประจำชั้นก็เลยส่งฉันเข้าไปร่วมเดินขบวนด้วยเท่านั้นเอง  เมื่อใกล้เวลาเดินขบวนก็มีเสียงประกาศให้ลงไปรวมกันที่สนามหน้าโรงเรียน  ฉันจึงขึ้นไปเอาป้ายที่วางอยู่บนห้องและในขณะที่ฉันกำลังจะเข้าห้องฉันก็หันไปเห็นเขาซึ่งเพิ่งจะสอน ม.2 ห้องข้างๆฉันเสร็จเข้าพอดี

          -อ้าว..

          เขาทักฉัน 

          +เฮ๊ย! หวัดดีค่ะ

          ว่าแต่ฉันจะดีใจถึงขนาดเฮ๊ยตอบใส่มาสเซอร์ผู้เป็นครูทำไมกันล่ะเนี่ย..

          พอถึงคาบชมรมซึ่งเขาเป็นผู้สอนฉันก็นั่งทำงานไปตามปกติ  แต่เพื่อนข้างๆฉันดันมาแกล้งถามฉันว่าอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของมาสเซอร์ใช่มั๊ยล่ะ  ฉันเองก็เผลอหลุดปากออกไปว่า เออ  แต่พอเพื่อนของฉันไปบอกกับมาสเซอร์ว่าฉันอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของเขา..เขากลับไม่เชื่อ  สงสัยจริงๆว่าทำไมกันคงเป็นเพราะหน้าตาของฉันดูเหมือนกับเด็กเรียนจนเกินไปล่ะมั๊ง

          และแล้วฉันก็เกิดปัญหาขึ้นกับเจ้าสีอะคริลิกที่ระบายอยู่บนเฟรมเลยต้องบอกให้เขาช่วยแก้ให้ตอนว่างๆ  จากนั้นฉันก็ออกไปล้างแก้วน้ำล้างสีที่ห้องน้ำ  แต่พอกลับมาฉันกลับเห็นเขาอยู่ในห้องคนเดียวเท่านั้นทั้งๆที่เมื่อกี๊ยังมีนักเรียนอยู่ตั้งเยอะแยะ  ฉันจึงเดินไปคุยกับเขาเรื่องเฟรมและเขาก็บอกว่าให้ฝากไว้กับเขาก่อน(ปกติไม่มีนักเรียนคนไหนฝาก)  ฉันก็ตกลงเพราะยังไงซะฉันก็แก้งานเองไม่ได้อยู่ดี  ฉันที่ถือของเต็มมืออยู่จึงเดินตามเขาออกไปและเขาก็ปิดประตูห้องให้ฉัน  พอเดินไปถึงห้องศิลปะเขาก็เปิดประตูห้องแล้วบอกให้ฉันเดินเข้าไปก่อนจากนั้นเขาจึงเดินเข้ามาและปิดประตูให้(อีกแล้ว)  ฉันเดินไปเก็บเฟรมแล้วก็รีบกลับไปเรียนต่อที่ห้องของตัวเองเพราะตัวเขาเองก็มีคาบสอนต่อเหมือนกัน  

          หลังเลิกเรียนฉันแวะไปหยิบของที่ห้องศิลปะแต่ไม่ได้เจอเขา  จากนั้นฉันก็แวะขึ้นไปที่ห้องแนะแนวเพื่อเอางานคืนจากมิสท่านหนึ่ง  และบังเอิญจริงๆที่เธอก็นั่งอยู่ในห้องด้วยทั้งๆที่ปกติแล้วไม่ค่อยจะอยู่สักเท่าไหร่  เธอพูดคุยอยู่กับนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่เป็นเพื่อนของฉัน  แล้วอยู่ดีๆเธอก็หันมาถามฉันว่า  ชอบทุกสีแล้วแต่อารมณ์ - ใช่มั๊ยล่ะชนาธิป เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเจอกันเลย  พูดเสร็จเธอก็ยังมายิ้มให้ฉันอีกทำเอาฉันได้แต่ยืนงงตอบคำถามไม่ถูก  จนต้องรีบเดินออกจากห้องไป

          เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์				
28 มีนาคม 2548 20:37 น.

เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์(8)

อาชา

ในวันอังคารที่ 15 มิถุนายน - วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2547  เป็นวันที่ปาฏิหาริย์เล็กๆได้เล่นตลกกับฉันอีกวันหนึ่ง

          15 มิ.ย. 47
          ในตอนเช้าก่อนเข้าเรียนฉันได้เดินขึ้นไปทำเวรประจำวันที่ห้องพยาบาลตามปกติเหมือนทุกๆวันอังคารที่ผ่านมา  และตำแหน่งของห้องพยาบาลนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 3  ข้างห้องศิลปะที่ เขา นั่งทำงานอยู่พอดี  ระหว่างที่เดินผ่านหน้าห้องศิลปะฉันก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองเขาที่นั่งทำงานอยู่ในห้อง  และในวันนี้ฉันก็เห็นเขาอยู่ในห้องอีกเช่นเคย

          โดยปกติแล้วทุกๆเย็นหลังเลิกเรียนฉันจะต้องเข้าไปนั่งทำงานที่ค้างอยู่ตั้งแต่ซัมเมอร์ในห้องศิลปะกับเขาซึ่งเป็นครูของฉัน  แต่บังเอิญว่าวันนี้ฉันติดงานเล็กๆน้อยๆกับมิสท่านหนึ่งกว่าจะเดินมาถึงห้องศิลปะก็ใกล้เวลากลับบ้านของฉันแล้ว  พอเดินมาถึงใกล้ๆหน้าห้องศิลปะและกำลังเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องอยู่ดีๆฉันก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้ว..ยังจะเข้าไปทำงานอีกเหรอ  แต่ฉันก็อุตส่าห์เดินมาถึงหน้าห้องแล้วนะก็เลยลองแอบมองผ่านประตูกระจกอย่างเงียบๆ  และฉันก็เห็นเขานั่งระบายสีตัวอักษรบนแผ่นโฟมอยู่กับมิสสอนนาฎศิลป์ท่านหนึ่ง  จริงๆแล้วการที่ครูกับครูจะมานั่งทำงานอยู่ด้วยกันมันก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน  เพียงแต่ว่าการนั่งเก้าอี้ที่มันใกล้ๆกันอย่างนั้นมันก็ทำให้ฉันรู้สึกว่า...  ฉันจึงตัดสินใจกลับบ้านไป

          16 มิ.ย. 47
          ในที่สุดฉันก็ไม่สบายจนได้แต่คงจะอาการดีกว่านี้ถ้าเมื่อวานฉันตัดสินใจไม่เดินไปที่ห้องศิลปะและไปยืนมองอะไรแบบนั้น..  แถมวันนี้ยังมีคาบศิลปะที่เขาสอนอีกด้วยเมื่อหมดคาบฉันจึงรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น(และเตรียมปั้นหน้าให้เป็นปกติ)  พอกลับมาที่ห้องเขาก็เข้ามาเดินดูงานนักเรียนอยู่ในห้องแล้ว  ฉันจึงเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตนเองพร้อมกับนั่งระบายสีงานที่วางค้างไว้อยู่บนโต๊ะต่อ  และเพื่อนข้างๆฉันก็บอกกับฉันว่า เฮ๊ย..เมื่อกี้มาสเซอร์ชมของแกว่าสวยด้วยแหละแต่เค้าบอกว่าเทวดาน้อยไปหน่อย  ฉันก็นั่งระบายสีต่อไปพลางนึกในใจว่าก็งานชิ้นนี้ฉันเพิ่งจะเริ่มทำเมื่อคืนมันจะไปสมบูรณ์แบบได้อย่างไรกัน  ว่าแต่ว่าเขาชมงานเราว่าสวยจริงละเปล่าเนี่ยอยากรู้จัง  ฉันเร่งมือระบายสีจนเสร็จแล้วเดินเอางานไปส่งที่โต๊ะหน้าห้องที่เขากำลังนั่งดูงานอยู่  ฉันแค่เอางานวางบนโต๊ะแต่อยู่ดีๆเขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากถามฉันขึ้นมาก่อนว่า

          -แล้วเย็นเมื่อวานน่ะไปด้อมมองอะไรเฮอะ...

          ฉันที่กำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะก็ได้แต่ยืนนิ่ง..พลางคิดหาคำพูดที่ดูมีเหตุผลมากลบเกลื่อนความจริงที่ว่า  เขาเห็นตอนที่ฉันไปยืนมองที่หน้าห้องศิลปะเมื่อวาน

          +ก็.....หนูไปอยู่ที่อื่นซะนานพอลงมาก็จะ 5 โมงแล้วก็เลยเปลี่ยนใจเป็นไม่ทำแทนน่ะมาสเซอร์

          ฉันพูดให้ดูน่าเชื่อถือที่สุด(พลางคิดว่าเขาจะเชื่อมั้ยเนี่ย)  แล้วก็รีบหันหลังเดินกลับไปที่โต๊ะของตนเอง..

          เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์				
21 มีนาคม 2548 16:56 น.

เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์(7)

อาชา

ในวันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2547  ซึ่งเป็นวันหลังจากที่ฉันเริ่ม ชอบ เขามาได้ 1 วัน  ฉันก็ต้องรับบทหนักในการตีหน้าซื่อและเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้ทั้งต่อหน้าคนอื่นรวมทั้งตัวเขาเองด้วย..

          วันนี้เป็นวันที่โรงเรียนของฉันมีการเลือกชมรมที่ต้องเรียนสัปดาห์ละคาบกัน  ชมรมที่โรงเรียนมีให้เลือกนั้นมีประมาณ 20 ชมรมได้  แต่ว่าในแต่ละห้องนั้นจะบังคับจำนวนนักเรียนต่อชมรมหนึ่งแค่ประมาณ 2 คนเท่านั้นเพื่อเป็นการกระจายนักเรียน  

          ฉันในฐานะนักเรียนคนหนึ่งก็มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกชมรมเช่นกัน  หลังจากที่ไล่ดูรายการของแต่ละชมรมแล้วฉันก็เลือกที่จะเข้าชมรม จิตรกร ซึ่งมี..เขาเป็นผู้สอน  และชมรมนี้จากนักเรียนในห้องจำนวน 54 คนจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้เข้า..  ฉันก็นั่งเภาวนาขออย่าให้มีคนมาเข้าเลยเพราะชมรมนี้เป็นชมรมเดียวที่ฉันจะได้เจอเขา  มิสท่านหนึ่งเริ่มให้นักเรียนยกมือเลือกชมรมทีละอย่างจนกระทั่งมาถึงชมรมจิตรกร..ฉันยกมือขึ้น  และผลก็ปรากฎว่าฉันเป็นนักเรียนคนเดียวที่ยกมือและก็ได้เข้าเรียนในชมรมนี้ตามที่ได้คาดหวังไว้

          หลังเลิกเรียนในเวลา 15.40 น.  ฉันก็รีบโทรศัพท์หาแม่ให้มารับฉันในตอน 5 โมงและบอกคนขับรถโรงเรียนว่าวันนี้ไม่กลับด้วย  หลังจากนั้นฉันก็รีบขึ้นไปนั่งทำงานประกวดที่ห้องศิลปะกับเขาต่อ  ระหว่างที่ฉันนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะข้างๆโต๊ะของเขา  เขาก็เดินมาดูงานที่ฉันทำเป็นครั้งคราวตามประสาครูกับศิษย์  แต่ทว่าหัวใจของศิษย์คนนี้มันสั่นไหวเหลือเกิน

          ตอนนี้เย็นมากแล้วแต่ฉันก็ยังคงนั่งทำงานอยู่  ส่วนเขาก็เดินหายไปจากห้องศิลปะแต่สักพักก็กลับมาพร้อมกับถุงน้ำอัดลม 1 ถุง กับหลอด 2 หลอด  และเขาก็ยื่นถุงน้ำอัดลมที่มีหลอดเสียบอยู่ให้แก่ฉัน 
 
          -อ่ะกินซะ

          +ไม่เป็นไรค่ะมาสเซอร์ (ฉันตอบไปด้วยความเกรงใจ) 

          -กินไปเหอะหน่า

          เขายื่นถุงน้ำอัดลมมาใกล้หน้าฉันมากขึ้น  ฉันก็เลยรับมากินเสียโดยดี..โอ้ยย ใจละลายแล้ววว  หลังจากนั้นฉันก็มุ่งมั่นทำงานต่อและงานชิ้นนี้ที่ฉันทำมันจะไม่สมบูรณ์หากขาดรูปคน  ซึ่งฉันก็บอกเขาไปตามตรงว่าคนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบเพียงน้อยนิดที่ฉันไม่สามารถวาดได้  เขาก็เลยไปหาหนังสือแบบคนมาให้ฉันเลือกรวมทั้งตัวเขาเองก็ช่วยเลือกด้วย  หลังจากนั้นเขาก็อุตส่าห์เอาหนังสือลงไปซีร็อกส์รูปให้ฉันที่ชั้นล่างแล้วเขาก็ยังช่วยลอกลายใส่กระดาษให้ฉันอีกรอบเชียวนะเนี่ย  ฉันเองก็เกรงใจอยู่ลึกๆแต่ที่ลึกกว่านั้นก็แอบดีใจอยู่นิดๆเหมือนกันนะ  จน 5 โมงเศษฉันก็ขอลาเขาเอางานกลับไปทำต่อที่บ้านเอง

          เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์				
11 มีนาคม 2548 14:33 น.

เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์(6)

อาชา

ในชีวิตของคนเราจะมีสักกี่ครั้งกันที่เราจะรู้จักเปิดใจยอมรับในทุกๆสิ่ง  ทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเพราะความแน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่นอน  ปาฏิหาริย์จึงเกิดขึ้นได้เสมอ  และก็เป็นหนึ่งในเรื่องเหลือเชื่อสำหรับคนอย่างฉันที่ปิดประตูหัวใจไปแล้ว  นับตั้งแต่วันที่ย้ายโรงเรียนประถมจากสีลมมายังโรงเรียนมัธยมในเจริญกรุง

          และฉันก็ได้พบกับ เธอ ซึ่งเป็นคนที่สามารถเปิดประตูหัวใจของฉันได้อีกครั้งหนึ่ง  เธอซึ่งเป็นคนที่ทำให้ฉันมีความสุขได้เพียงแค่ยืนมองอยู่ห่างๆ  เธอซึ่งเป็นคนที่เกือบจะทำให้ชีวิตของฉันต้องเจอกับสารพัดความวุ่นวายโดยไม่ได้ตั้งใจ  และเธอคือคนที่ฉัน เคย รู้สึกดีด้วยมากที่สุด  เพียงแต่เดี๋ยวนี้ เธอ เริ่มเหินห่างออกไปจากชีวิตของฉันทีละนิดๆ  ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าฉันรู้จักกับเธอในบทบาทของความเป็นครูที่เมื่อจบปีการศึกษาหนึ่งก็ย่อมต้องจากลากันไปเป็นเรื่องธรรมดา

          จนในที่สุด ปาฏิหาริย์ ครั้งใหม่ก็ได้เกิดขึ้นกับชีวิตของฉัน  เมื่อ เขา ได้เข้ามาในชีวิตที่พัวพันอยู่กับศิลปะของฉันแทน  ในบทบาทของความเป็นครูสอนศิลปะซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องเข้าไปเกี่ยวพันด้วย

           ฉันรู้จักกับเขาครั้งแรกในตอนเรียนกิจกรรมภาคบ่ายช่วงเดือนเมษายนที่โรงเรียน  เขาเป็นครูสอนสีอะคริลิกของฉันในระยะเวลา 19 วัน วันละ 2 ชั่วโมง  ซึ่งในตอนนั้นฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย  เพราะเธอคนเดิมยังคอยเข้ามาแวะเวียนอยู่ในชีวิตของฉันเป็นบางครั้งบางคราว

          ในวันจันทร์ที่  17  พฤษภาคม  พ.ศ.2547  เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของฉันในระดับ ม.2  หลังเลิกเรียนในวันนี้ฉันได้เดินไปที่ห้องศิลปะชั้น 3 พร้อมทั้งถือกระบอกใส่งานประกวดหัวข้อ ความสุขของฉัน ของร้านเอสแอนด์พีไปด้วย  ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เขาเข้ามาช่วยเพียงแต่ฉันไม่สามารถทำงานนี้ด้วยตนเองได้  ครูศิลปะจึงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของฉัน  เมื่อฉันไปถึงห้องศิลปะเขากำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะฉันจึงเข้าไปคุยกับเขาเรื่องงานที่จะให้เขาช่วยทำซึ่งเขาก็ตอบตกลง  โดยฉันจะเริ่มทำงานในวันรุ่งขึ้น

          หลังจากนั้นทุกๆวันหลังเลิกเรียนฉันก็จะขึ้นไปทำงานประกวดชิ้นนี้ที่ห้องศิลปะชั้น 3 เป็นประจำ  เขาใช้พู่กันวาดดอกไม้ดอกเล็กๆให้ฉันดูและเริ่มสอนฉันไปเรื่อยๆจนฉันทำได้เองในที่สุด  แต่งานประกวดชิ้นนี้เป็นรูปทุ่งดอกไม้..ซึ่งปริมาณดอกไม้ที่ต้องวาดก็คงไม่ใช่น้อย  ฉันเองก็รีบทำแต่ฝีมืออย่างฉันนี่ก็เนี๊ยบจนได้เรื่องเข้า  เขาซึ่งอาจจะทนฝีมือการแต้มกลีบดอกไม้อันสุดแสนจะบรรจง..และเฉื่อยชาของฉันไม่ไหวจึงต้องเข้ามาร่วมด้วยช่วยทำอยู่เสมอๆ  บางครั้งฉันทำไปได้ไม่มากนักแต่พอวันรุ่งขึ้นมาดูก็พบว่าเขาได้แต้มสีบนกระดาษให้ฉันเยอะทีเดียว  งานประกวดชิ้นนี้หมดเขตส่งสิ้นเดือนทำให้ฉันซึ่งมีความเฉื่อยในการทำงานอยู่ไม่น้อย  ต้องเพิ่มเวลาการทำงานจากทุกๆเย็นหลังเลิกเรียนเป็นทั้งกลางวันและเย็นหลังเลิกเรียน  ทำเอาฉันหายใจเข้า..เป็นห้องศิลปะ  หายใจออก..ก็เป็นห้องศิลปะอีกเช่นกัน  จะว่าไปแล้วฉันเองก็แทบจะรู้สึกว่าห้องศิลปะเนี่ยเป็นบ้านหลังที่ 2 เลยด้วยซ้ำ  บางครั้งในตอนเที่ยงเขาต้องออกไปเฝ้าเวรที่สนามหน้าโรงเรียนเลยเหลือแต่ฉันนั่งทำงานอยู่ในห้องคนเดียว  เมื่อสัญญาณเพลงขึ้นบอกเวลาให้มาเข้าแถวและฉันก็ลงมาเข้าแถวตามระเบียบ  เขายังตามมาถามฉันถึงแถวเลยด้วยซ้ำว่าวันนี้ได้ขึ้นไปทำงานหรือเปล่า  ทำเอาเพื่อนๆฉันที่ยืนเข้าแถวอยู่ด้วยแปลกใจกันเป็นแถวว่า 2 คนนี้มันไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่  แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกกับเขาไปนอกเหนือจากความเป็นครูเลย

          จนกระทั่งในวันพฤหัสบดีที่  27  พฤษภาคม  พ.ศ.2547  ในตอนเย็นหลังเลิกเรียนเป็นวันที่ความรู้สึกนั้น..ได้ปรากฎรูปร่างหน้าตาขึ้นกับตัวฉัน  ในขณะที่ฉันกำลังเดินไปที่ห้องศิลปะเปิดประตูเข้าไปและเจอเขาซึ่งใส่เสื้อสูทสีเทากำลังนั่งทำงานพร้อมๆกับฟังซาวด์เบาท์อยู่ที่โต๊ะ  คือฉันเริ่ม..ชอบเขาเข้าแล้วไง!!!  

          เหตุเกิดเพราะปาฏิหาริย์				
8 มีนาคม 2548 13:40 น.

เหม่อมอง

อาชา

เหม่อมองนอกหน้าต่าง  พลางคอยฟังเสียงของเธอ

                                               บางครั้งฉันก็เผลอ  สบตาเธอเข้าพอดี

                                                    เธอรู้สึกบ้างไหม  ว่าหัวใจฉันดวงนี้

                                               เรียกร้องทุกนาที  แค่มีเธอก็อุ่นใจ

                                                    บ่อยครั้งฉันขอร้อง  ให้เธอมองที่ข้างใน

                                               บ่อยครั้งฉันหวั่นไหว  ยามเธอเดินไปจากฉัน

                                                    เป็นเรื่องธรรมดา  ถ้าเธอจะมีฝัน

                                               กับใครเช่นคนนั้น  ฉันก็คงต้องหลีกทาง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาชา
Lovings  อาชา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาชา
Lovings  อาชา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาชา
Lovings  อาชา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาชา