29 พฤษภาคม 2550 11:04 น.
อัสสุ
ความรู้สึกนึกคิดจิตมนุษย์
เป็นหนึ่งจุดสำคัญดำเนินชีพ
เหมือนถนนหนทางกรอบกลีบ
กำหนดจีบมุ่งหมายไปทิศใด
ทิฐิความเห็นจึงสำคัญยิ่ง
คอยเป็นสิ่งตัดสินทิศทางใฝ่
กำกับแผนครรลองของจิตใจ
ให้เป็นไปตามจิตทิฐิวาง
จะกล่าวในที่นี้ทิฐิสอง
เห็นถูกต้องตามธรรมดำเนินอย่าง
เรียกสัมมาทิฐิวิธีทาง
เห็นชอบอ้างแน่นหนักในหลักธรรม
สองมิจฉาทิฐิเห็นผิดมรรค
ปฏิเสธหลักเหตุผลอย่างถลำ
สิ่งเกิดขึ้นเห็นว่าหาใช่กรรม
ไร้เหตุนำประกอบขอบข่ายแนว
หากวางหลักทิฐิไว้ไม่ดี
เหมือนหลงทางวิธีที่เสียแล้ว
จะไปถึงเป้าหมายอาจสิ้นแวว
ไม่ใช่แนวทางสามารถให้ไปถึง
.
26 พฤษภาคม 2550 22:07 น.
อัสสุ
คนละรุ่นกันล่ะโทรศัพท์
แต่ส่งรับกันได้ดั่งใจหมาย
เธอใช้เครื่องแบรนเนมแพงมิวาย
ฉันใช้ง่ายเครื่องโหลโหลพอโทรคุย
สัญญาณส่งก็ต่างบริษัท
มันดังชัดไม่ใช่แค่จะฉลุย
จะเดินโทรนั่งโทรแล้วแต่คุย
ยังชัดจุ๋ยสื่อสารกันได้ดี
แค่จูนปรับสัญญาณสื่อสารหน่อย
ให้ตรงรอยกับช่องร่องความถี่
ก็ได้ยินชัดเจนล่ะทีนี้
ไม่ได้เกี่ยวกับยี่ห้อดีดีเลย
เช่นเดียวกันสองเราแค่เข้าใจ
อย่างอื่นไม่สำคัญจำต้องเอ่ย
อาจจะคนละรุ่นอายุเอย
มันแค่ตัวเลขเฉยเฉยธรรมดา
แค่ปรับความรู้สึกนึกคิดหน่อย
ให้สอดคล้องถ้อยทีที่ค้นหา
รู้จักหนักบ้างบางเวลา
อ่อนทีท่าออมชอมยอมรับกัน
สิ่งอื่นมีมากมายแค่ภายนอก
ไม่คงทนได้หรอกจะจริงมั่น
ความเข้าใจกันดีที่สำคัญ
จะผูกพันกันได้ไปยาวนาน
.
13 พฤษภาคม 2550 20:53 น.
อัสสุ
ภาพใหญ่
http://media.twango.com/m1/original/0056/2c98040875ab45c8940baf7f161bc796.jpg
วิธีอ่าน
1..........................
1..........................
1..........................
1..........................
1.......................... 2............................. 3...........................
1.......................... 2............................. 3...........................
1.......................... 2............................. 3...........................
1.......................... 2............................. 3...........................
3..........................
3..........................
3..........................
3..........................
ปล.แจ้งผลการรับรู้ด้วยครับ กลัวว่าจะไม่เห็นภาพครับ
ปล.ผมแต่งกลบทกลอนแบบนี้ เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรก
เป็นกลบทกลอนชื่อ สองปาง ทางใจ เนื้อความจะซ้อนกันอยู่
คือแนวตั้ง จะมีความหมายหนึ่ง แนวนอนจะอีกความหมายหนึ่ง
และกลบทกลอนนี้ ก็เช่นเดียวกัน ผมได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์จริง
จากคนที่รู้จัก สองคน ซึ่งคนหนึ่งแม่เลี้ยงตั้งแต่เด็กจนโตมีกิจการของเอง
แต่ยังอยู่กับแม่ พอกิจการล้ม จึงไม่อาจยับยั้งใจได้ ไม่ทำอะไร นอกจากเฉยชา
ประหนึ่งว่า มีชีวิตแต่ไร้หัวใจ และอีกคนเขาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่รู้ความ พอกิจการ
ล้ม เขากลับสำรวจข้อผิดพลาด พยายามตั้งตัวใหม่
.
6 พฤษภาคม 2550 21:27 น.
อัสสุ
.............................กี่วันวานผันผ่านนานเท่าไร
.............................ลับห่างไกลออกไปจากใฝ่ฝัน
.............................การเดินทางจากวันนี้ถึงวันนั้น
.............................ไม่รู้มันยากง่ายหรือร้ายดี
.............................เราต่างพบสบเจอมากมายสิ่ง
.............................ยากหยุดนิ่งอารมณ์ข่มวิถี
.............................ให้แน่นหนักคงมั่นเช่นวันนี้
.............................ดูเข้าทีตลอดทอดยาวนาน
.............................ฝากคำมั่นสัญญาเมื่อล้าอ่อน
.............................ยามใจคลอนอย่ายื้อเปลี่ยนสื่อสาร
.............................อย่าหลงตามภาพลวงถ่วงดวงมาน
.............................แค่แผ่วผ่านวุบวับลับเลือนตา
.............................วอนสัญญาอ้างอิงที่จริงมั่น
.............................ช่วยผูกพันใจเธอไว้เถิดหนา
.............................ปกป้องสิ่งรุมเร้าเข้าอุรา
.............................คอยรักษาหัวใจให้คงเดิม
.............................แม้จะมีสิ่งใดไหวกระทบ
.............................วอนสัญญานั่นจบส่งแรงเสริม
.............................เป็นกำแพงรั้วกั้นห้อมล้อมเติม
.............................มาพูนเพิ่มคอยปักรักษาใจ
.............................ให้แน่นหนักปักใจเช่นวันนี้
.............................ดวงฤดีมิอ้อยอิงตามสิ่งไหน
.............................เชื่อใจกันมั่นคงเช่นนี้ไว้
.............................ตลอดไปสายใยของใจเรา
.................................................
เพลงประกอบ วอนลมเกี่ยวใจ ของสลา คุณวุฒิ
ภาพประกอบโดย http://photos.jibble.org/latest_images.php
.
5 พฤษภาคม 2550 08:43 น.
อัสสุ
.............................ทนลงแรงเอาจริงสิ่งที่ทำ
.............................ยึดมั่นจำแค่ว่าอย่าหวั่นไหว
.............................ยามเจอสิ่งกระทบรบกวนใจ
.............................จำหลักไว้เตือนตนฝืนทนเอา
.............................แม้จะมีอุปสรรคหนักเท่าไหร่
.............................รุมเร้าใจราวีกี่คราเล่า
.............................สิ่งที่หวังยังต้องทำของเรา
.............................สำเร็จเข้าให้ได้ตามตั้งใจ
.............................มันอาจยากลำบากหากคิดทำ
.............................เหนื่อยอยู่ร่ำหนักใจเป็นไหนไหน
.............................กว่าจะสำเร็จเสร็จผลอย่างตั้งใจ
.............................เหน็ดเหนื่อยไปไม่น้อยลำบากกาย
.............................ขอแค่ได้ทำอย่างหวังตั้งใจคิด
.............................แม้ไร้สิทธิ์ไม่เห็นผลที่หมาย
.............................ในบางครั้งรู้สึกนึกเสียดาย
.............................ปรากฏกลายให้เห็นไม่สมแรง
.............................เปรียบเหมือนรอยตราไว้น่าสลด
.............................ลงแรงกดหวังให้เกิดรอยแฝง
.............................แต่ผลลัพธ์กลับไร้สิ่งแสดง
.............................ไม่สมแกร่งเหน็ดเหนื่อยเมื่อยกำลัง
.............................อย่างน้อยได้ชื่อว่าลงมือแล้ว
.............................ใช่หมดแววไร้ในประโยชน์หวัง
.............................เสียแรงบ้างใช้งานในบางครั้ง
.............................ดีกว่านั่งเฉยชาไร้ค่าที่มีแรง
................................เพลงประกอบ อย่ายอมแพ้ ของอ้อม..สุนิสา สุขบุญสังข์
ภาพประกอบโดย Mr.Pookie
http://www.taklong.com/landscape/s-la.php?No=14219
.