22 มกราคม 2550 16:27 น.
อัสสุ
ฟ้าสลัวมัวมืดอากาศครึ้ม
จนอึมครึมหม่นหมองท้องฟ้าใหญ่
บรรยากาศทึมเทาคร่าเก่าไป
ทิศทางไหนมีแต่ฟ้าแปรปวน
ความอบอ้าวย่างก้าวเพิ่มเข้ามา
และลมหนาโพยพัดสะบัดป่วน
น้ำฟ้าจึงหลุดล่วงตามลมครวญ
เป็นฝนมวลมากปรี่ปริมาณ
ลมเขย่าฝนบางชะล้างฟ้า
ตกลงมาสระสางชำระผลาญ
สิ่งขุ่นหมองค้างฟ้ามาช้านาน
จึงพ้นผ่านก็เพราะได้ฝนล้างฟ้า
อุปสรรคปัญหามีมาก่อน
จึงสมพรทีหลังดั่งใฝ่หา
การได้เจอความทุกข์บ้างชีวา
ทำให้รู้ตัวว่าอย่าอ่อนแอ
รอเวลาหยุดพักบ้างสักหน่อย
รู้จักคอยไม่ไปตามกระแส
เดี๋ยวปัญหาก็คลายไปเองแล
อย่าท้อแท้อ่อนแอแค่นั้นพอ
สิ่งบางอย่างไม่อาจแก้ไขได้
ต้องอาศัยระยะเวลาหนอ
หลังความทุกข์คือสุขต้องทนรอ
ไม่นานก็ผ่านพ้นเรื่องร้ายเอง
.
19 มกราคม 2550 14:53 น.
อัสสุ
ขออภัยเด้อผู้ข้า.................แวะมาจ่ายผญาเบิ่ง
คันบ่ถืกยังได๋...................ให้อภัยผุ้ข้าบ้าง
บัดตะกี้เคยแต่งกลอน.......แต่ออนซอนผญาเฮา
ได้ยินมาแต่ก่อนเก่า..........ตั้งแต่โตยังเด็กน้อย
เคยหัดแต่งแปลงผญา.......แต่ปัญญาข่อยบ่คือ
ย้อนขี้ดื้อมักหนีเรียน.........ภาษาเขียนผิดตกซ้ำ
วิชาเรียนผู้ข้า........แนวมัก
ศิลปเป็นหลัก........เข้าเรียน สูมื้อ
คันคณิตหน่อยนัก...สินั่ง เรียนเป็น
อกลำเค็ญจริงแท้....คั่นได้ เรียนแมส (คณิต)
พอสินั่งเรียนได้..............ตามใจแมนวาดเขียน
วาดอยู่เบิดค่ำมื้อ.............มืดตื้อกะอยุ่ทน
เคยไปประกวดภาพ........ชนะมากะหลายถิ่น
คนยินดีใจนำ..................ตบมือเป็นเกียรติให้ จังว่าพี่น้อยเอ้ย .
โอ้ เพิ่งเคยแต่ง เถือทีสามเด้อ พี่น้อย
เป็นเด็กน้อยเกิดใหม่ คันผิดตกหม่องได๋
บอกแน่เด้อ