7 กันยายน 2549 18:51 น.
อัสสุ
เจอเธอทีแรกแปลกใจเก็บไปคิด
รู้สึกผิดปกติใจสั่นสั่น
เหมือนโดนแกล้งจักจี้ที่ทรวงพลัน
ยากจะนิ่งงันอยู่เฉยอย่างเคยเป็น
ก็ติดใจคนดีแรกที่พบ
อยากสนิทและคบสบตาเห็น
อยากอยู่ใกล้เธอไว้นะเนื้อเย็น
พอจะเอ็นดูฉันได้ไหมล่ะเธอ
ก็เพ้อคิดวิตกอกลุ่มร้อน
นอนกอดหมอนนึกไปใจลอยเหม่อ
คิดว่าฉันมีโอกาสได้ใกล้เธอ
เราต่างเก้อเขินอายเมินหลบกัน
หมอนใบนี้เปรียบเหมือนเรือนร่างจริง
ฉันแอบอิงกอดหมอนยามนอนฝัน
หมอนคือเธอฉันอ้อนออดกอดทุกวัน
แค่กอดหมอนแทนเธอนั้นก็พอใจ
ขอกอดหมอนใบนี้ที่กายข้าง
แล้วพลางคิดเพ้อเจ้อกอดเธอไว้
นอนกอดหมอนได้แค่นี้ไม่เป็นไร
ฝันเอาไว้กอดหมอนก่อนเป็นจริง
รู้สึกดีตลอดนอนกอดหมอน
ก็แขนกอดลึกบุ๋มอ่อนนุ่มยิ่ง
นอนกอดหมอนแต่ใจเพ้อกอดเธอจริง
ขอหมอนอิงแนบกายเท่านี้พอ
3 กันยายน 2549 22:43 น.
อัสสุ
ราตรีนี้เหนื่อยนักสำหรับข้า
ผู้อ่อนล้าดวงตาจะทานไหว
จันทร์ก็กล่อมคืนก็ขับให้หลับใน
แต่ภาระน้อยใหญ่รั้งไว้รอ
ต้องสะสร้างเรื่องราวเหล่านั้นก่อน
ค่อยหลับนอนสนิทใจในห้องหอ
ราตรีนี้ไม่คอยใครหากย่อท้อ
เวลาจ่อพรุ่งนี้ชี้เส้นตาย
กำลังมีแต่ใยเริ่มไหวอ่อน
คงจันทร์ทอนกำลังให้สลาย
จึงรู้สึกบอบช้ำกำลังกาย
จะแพ้พ่ายราตรีคืนนี้จริง
แต่โถ่เอ๋ยอุปสรรคยังปักอก
จิตวิตกมากมายหลากหลายสิ่ง
จึงไม่อาจคอพับหลับแอบอิง
นอนแน่นิ่งปลอดภัยไร้กังวล
ดวงตาข้าพร่าพรางอ่อนลางเลือน
เปรียบเสมือนไฟล่าเชื้อเหลือน้อยผล
จะแสกสิ้นครั้นไฟไล่ลามชน
หมดปี้ป่นไม่หลงเหลือสักเชื้อไฟ
ก่อนเข้าถึงนิทราขอข้าสาง
สิ่งคาค้างอุราเสียให้ได้
แล้วค่อยจึงพักผ่อนนอนตามใจ
ปล่อยร่างให้หลับใหลในนิทรา