29 มิถุนายน 2549 09:20 น.
อัสสุ
............................
ลมยังพัดโรยทั่วแผ่นฟ้า
พสุธายังรองรับความหนักหนา
น้ำยังอ่อนไหวเช่นเดิม ๆ ๆ
....................................อ่อนไหว
.................ฉัน...............
.................เธอ...............
ไม่น่าจะรู้จักกันเลย
เรารู้จักกัน
ระยะหนึ่ง แต่หลายสิ่งหลายอย่าง
เกิดขึ้นมากว่าช่วงเวลานั้น
เธอหายไปเฉย ๆ ๆ
ฉันเศร้ากับเวลาที่สร้างมา
เสียดายทุกอย่าง
ฉันปลอบใจตัวเอง
เธอคงไปดีแล้ว เธอคิดดีแล้ว
แต่ไม่วายที่จะเสียใจ อ่อนไหว
............................................ระทม
เธอจบแล้ว แต่ฉันเพิ่งเริ่มต้น
ฉันยังคิดว่าเธอแค่ล้อเล่น
เธอยังมีใจ
..............................................เพ้อ
บางที เธอทักฉันก่อน
แต่ฉัน ทำทีไม่สนใจ
เพื่อจะลบความรู้สึกต่าง ๆๆ
ให้มันจบเหมือนเธอบ้าง
.............................................ลืม
" ฉันผิดใช่ไหมที่เป็นเช่นนี้ "
หลบหน้าเธอหลายทีไม่อยากเห็น
เธอคงไม่รู้ใจจริงที่ฉันเป็น
" เจ็บปวดยากเข็ญมากเพียงใด "
27 มิถุนายน 2549 09:16 น.
อัสสุ
พอทราบข่าวราวเรื่อง
จะยกเครื่องมาอีสาน
ยกพลคาราวาน
สู่ถิ่นฐานที่ราบสูง
ชาวอีสานขานรับ
ยินดีกับผู้หมายมุ่ง
เยือนแดนที่ราบสูง
ณ ท้องทุ่งพุทธธรรม
ลำบากบ้างหนทาง
ในบางถิ่นหากเยือนย่ำ
เพราะเกษตรกรรม
จึงชำรุดทรุดโทรมไป
ถึงหนทางจะร้าง
แต่ทางใจไม่เคยไหว
ยินดีต้อนรับใช้
ไม่ว่าใครจะมาเยือน
มีความจริงใจให้
คอยรอไว้เสมอเหมือน
ญาติพี่น้องมาเยือน
ตระเตรียมเรือนรับรองรอ
ยินดีต้อนรับท่าน
มาอีสานเที่ยวกันหนอ
แล้วจะติดพะนอ
มนต์เสน่ที่ราบสูง
25 มิถุนายน 2549 10:29 น.
อัสสุ
ณ ดินแดนที่ไกลไร้ขอบเขต
สิ่งวิเศษหลากล้วนอันควรค่า
สถิตภพเป็นสวรรค์ชั้นเมืองฟ้า
เวิ้งเวหาไร้ผู้คนค้นพบเจอ
พราวทิพยสมบัติทัดเทียมวาง
เนรมิตสร้างแล้วแต่ใจใฝ่เสนอ
เสพสุขสมภิรมย์ชมบำเรอ
มัวเมาเพ้ออย่างไรไม่ตีบตัน
หากมีใครอยากไปในถิ่นนี้
ให้เพียรหมั่นทำความดีตราบปลิดขันธ์
ละร่างกายได้วิมานสวรรค์พลัน
สมใจมั่นหมายมุ่งหมั่นอดทน
เสมือนภาพแดนดินถิ่นมนุษย์
ร่ำรวยฉุดสิ่งใดได้ผลิผล
เสพสุขได้ดั่งใจจะบันดล
ตราบดอกผลทุนทรัพย์จะอับปาง
แดนสวรรค์ไม่ต่างแม้นแดนมนุษย์
ที่มีจุดละโมบยั่วหลายอย่าง
ยิ่งมีมากยิ่งโลภมากยากปล่อยวาง
ยิ่งอยากสร้างอยากเด่นดีโลภมีมา
เพราะความอยากพาให้ใจอยากเด่น
กลบเกลื่อนเร้นมุ่งมาดปรารถนา
แสวงสวรรค์เก็บเกี่ยวยากเยียวยา
ละโมบหาความเด่นดีหนีความจริง
23 มิถุนายน 2549 22:30 น.
อัสสุ
อยากจากล่าวขานบอก
บ่หลายดอกเว้าสูฟัง
คือประเพณีเก่าก่อนหลัง
คราวแต่ครั้งปูตายาย
จนมาถึงสูมื้อนี่
อีสานตะออนซ้อน
หม่องเที่ยวเป็นตาจร
พักผ่อนได้สบาย.......แท้เด้
อยากซวนมาแนมเบิ่ง
อีสานเทิ่งเหนือใต้
มีแต่แนวถืกใจ
ซมได้บ่เซา.....กะจังว่า
มาแวยามเบิ่งแน
อย่าคึดแต่ว่าสิมา
มากะฮีบมาโลดสา
สละเวลาจักหน่อย
บ่มีทางสิผิดหวัง
คันตั้งโตสิโผมา
ยินดีข่อยคอยถ่า
ยามเจ้าตาวมาเถิง
ภาช์เข่าสิเตรียมไว้
น้ำใจสิเตรียมส่ง
ขอให้เจ้าประสงค์
มุ่งตรงแดนอีสาน.....นางเอ๋ย
22 มิถุนายน 2549 22:23 น.
อัสสุ
ห่างหายไปไม่นานแค่กาลครู่
อยากถามดูโฉมตรูลืมบ้างไหม
ลืมหรือยังคำกล่าวที่ให้ไว้
บอกกันไม่เท่าไหร่ลืมหรือยัง
บอกว่าห่วงคนดีวจีเอ่ย
อกนี้เคยบอกไปให้เจ้าฝัง
อย่าลืมคำสัญญาร้างลาชัง
หัวใจหวังคนดีทุกทีเออ
ถึงตัวห่างใจนี้ไม่แปรเปลี่ยน
เธอยังเวียนวนอยู่อย่างเสมอ
ในหัวใจคนนี้มีแต่เธอ
ไกลสุดเหม่อจะเอื้อมถึงก็ซึ้งกัน
ไกลแต่ตัวหัวใจไม่เคยห่าง
แค่กายต่างหนทางให้ห่างหัน
ไปที่ไหนหัวใจไม่ลืมพลัน
ยังยึดมั่นเธอไว้ไม่เปลี่ยนแปร
รักนี้เหมือนหินกลิ้งทิ้งลงน้ำ
ไม่อาจดำฟูขึ้นลอยแน่แท้
อกนี้ก็ไม่อาจจะผันแปร
เหมือนหินหนาแช่น้ำสุดธารา
รักหมดตัวหัวใจก็ให้ได้
แม้นานไปก็จะรักขออาสา
ยินดีรักภักดีสิ้นชีวา
ขอสัญญาว่าฉันจะรักเธอ