27 ธันวาคม 2549 23:01 น.

เก่าไป...ใหม่มา

อัสสุ

27xwj357.jpg
                              นึกไว้แล้วมันต้องมีวันนี้
                              การเปลี่ยนแปลงแทนที่มีมาใหม่
                              เข้าใจดีแต่รู้สึกว่าเร็วไป
                              ต้องตัดใจลืมในสิ่งเดิมเดิม

                              อยากขออยู่อย่างนี้อีกสักพัก
                              ต่อไปจักไม่เห็นแม้ผิวเผิน
                              ได้ชื่อว่าจากก็ไม่อยากกลับมาเมิน
                              เป็นสิ่งหมองเก้อเขินเกินพอดี

                              สิ่งเก่าเก่าคงไม่มีใครเขาอยาก
                              ฝืนลำบากเก็บไว้รุงรังที่
                              หมดราคาจะโปรดประโยชน์มี
                              เสาะหาดีเหมือนครั้งยังแรกเจอ

                              อะไรที่เคยเกิดเจิดจรัส
                              มันเกินวัดสูงค่าครานั้นเหรอ
                              ในวันนี้ไม่มีดีหรือไรเออ
                              จึงดูเหม่อไร้ค่าไม่สนใจ

                              มองดูใครมีแต่แคร์พรุ่งนี้
                              นับนาทีถอยหลังครื้นเครงใหญ่
                              คงเบื่อแล้วสิ่งเก่าเคยเร้าใจ
                              จึงหันไปเปลี่ยนใหม่ตั้งหน้ารอ

                              ได้เวลาเก่าไปใหม่มาถึง
                              แทนที่ซึ่งเคยมั่นสำคัญหนอ
                              หมดเวลาสรรสร้างทุกอย่างพอ
                              ใหม่มาจ่อย่ำรอตำแหน่งครอง

 .				
26 ธันวาคม 2549 22:49 น.

ในคืนหนาว

อัสสุ

26rbt076.jpg

                                  ลมเดือนหนาวพราวพร่างย่างมาเยือน
                                  ธันวาเดือนสุดท้ายปลายราศี
                                  หนาวหน้าลมธนูฤดูนี้
                                  ช่างพัดวีโลมกายให้หนาวตรม

                                  ยามฟ้าลึกดึกดื่นค่ำคืนหนาว
                                  อกบางคราวสั่นร้าวจนขื่นขม
                                  กอดหมอนข้างซ้อนทับห่มผ้าพรม
                                  ยังสั่นทมระริกรัวหนาวทั่วกาย

                                  เขาว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง
                                  หนาวกายองค์ห่มผ้าไม่อาจหาย
                                  หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาวได้
                                  กายกอดกายห่มไว้จึงหายดี

                                  ถ้าหากว่ามีคนเอาไว้กอด
                                  จนตลอดหมดหนาวแปรเปลี่ยนหนี
                                  ให้อุ่นในใจกายคงจะดี
                                  แบบกอดฟรีทั้งคืนจนตื่นนอน

                                  มันหนาวนะกลางคืนยามดื่นดึก
                                  ผจญศึกแบบนี้ขอปรี่ถอน
                                  ในคืนหนาวอาจขาดชีพจร
                                  ถ้ายังนอนคนเดียวเปล่าเปลี่ยวตัว

                                  ลมหนาวซาพัดมาอีกคราหน
                                  หนาวกายจนทวีเพิ่มสั่นเทิ้มทั่ว
                                  ต้องหนาวตายแน่เลยนึกตัวกลัว
                                  หากยังมัวนอนไร้ไออุ่นอิง
 
.  				
25 ธันวาคม 2549 09:44 น.

ลำเอียง

อัสสุ


                                   ทำต่อหน้าหรือว่าจะลับหลัง
                                   เธอก็ยังแชเชือนเหมือนไม่เห็น
                                   โกรธเคืองอะไรกันที่ฉันเป็น
                                   บอกมาเน้นเน้นประเด็นเรื่องอะไร

                                   ฉันปริ่มยิ้มสุขใจเมื่อได้เจอ
                                   คอยเสนอไม่ว่าจะแบบไหน
                                   โปรดจงรู้ที่ตื้อคือเอาใจ
                                   อยากถามให้เข้าใจรู้ไหมเธอ

                                   ทีคนอื่นเธอยังฟังเขาบ้าง
                                   แต่กับฉันอ้างดีโทษทีเผลอ
                                   กับคนอื่นไม่เห็นเผลอเลยเธอ
                                   ตั้งใจเหม่อเผลอฉันหรือคนดี

                                   ลองนิ่งเฉยดูบ้างการวางตัว
                                   เธอคงมัวเบื่อคนคอยจู้จี้
                                   แต่เฉยแล้วยังเป็นเช่นเดิมที
                                   ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างเลย

                                   เป็นเพราะฉันหรือเปล่าต้นราวเรื่อง
                                   ทำให้เคืองจึงย้อนทำงอนเฉย
                                   บอกฉันหน่อยอะไรที่ละเลย
                                   อาจจะเคยบางครั้งผิดพลั้งไป

                                   ทำไมต้องปิดกั้นกันเสมอ
                                   คนอื่นเจอเธอยังดูสดใส
                                   แต่ฉันทำอะไรไม่เห็นพอใจ
                                   ลำเอียงไปมากไหมหัวใจเธอ
                               
                                    ลำเอียง 
.				
23 ธันวาคม 2549 10:40 น.

สุพรรณทัศนมาลา

อัสสุ

07zyn276.jpg 


     รุ่งอรุณดวงใหม่วันท้ายเดือน........จะลับเลื่อนเคลื่อนไปเปลี่ยนราศี
หมุนเวียนไปสุดท้ายเดือนปลายปี......ครบตามที่ราศีมีจัดวาง
วันท้ายเดือนมีนัดแต่ผลัดเช้า............เลยต้องง้าวตื่นตาแต่ฟ้าสาง
ผุดลุกมาอาทิตย์ยังปิดปาง.................มิสว่างลำแสงแสดงโชว์
รีบทำกิจส่วนตัวสลัวแสง....................อาบน้ำแต่งแปลงตัวให้สดใส
หาจัดวางสิ่งของที่ต้องใช้....................เดินทางไกลไปสุพรรณบุรี
สามสิบปลายเดือนนัดกันหลายวัน......รู้สึกมันเร็วไวถึงวันนี่
หรือว่าเราทำกิจอื่นที่มี......................ถึงวันนี้เลยรู้สึกไม่อะไร
แต่ใช่ว่าใจเราไม่สนุก......................ยิ้มแย้มสุขแม้ยังมิไปไหน
รอเจ้าภาพคนพามารับไป.................เที่ยวสมใจทุกเรื่องเมืองสุพรรณ
ได้เวลาหมายปองสองโมงกว่า...........ออกจากลาที่อยู่อู่นอนฝัน
ต้องไปแรมถิ่นอื่นค่ำคืนวัน..............เที่ยวตะบันสุพรรณทั่วบุรี

                        20060615jiaotong2.jpg

กว่าจะออกจากคุ้งในกรุงเทพ.............ผจญเสพรถติดยาววิถี
ได้โอกาสพาดขึ้นทางด่วนที................ไปได้ดีไม่ติดเป็นพิษทาง
ฝ่าวงล้อมบากบ่าจราจร......................หลบนครสองวันจากกันห่าง
มุ่งตรงสู่ถนนรวยสวยลาดยาง............สุพรรณทางดีนักประจักษ์ตา

    pict0362.jpg 

สมระเบียบเรียบร้อยดั่งถ้อยคำ...........คนเขาพร่ำลำลือสื่อภาษา
ในสุพรรณถนนดีทุกที่พา...................เที่ยวบากหน้าไปไหนก็ดีครบ
สุพรรณห่างกรุงเทพเจ็ดสิบกว่า..........ขับรถมาไม่นานจะเมื่อยขบ
ก็ถึงครันสุพรรณเมืองนักรบ..............แดนบรรจบสิ่งของที่ต้องการ
ได้ชื่อว่าสุพรรณนั้นเดิมมา................เป็นเมืองค้าเมืองขายถิ่นสถาน
มีทุกสิ่งเครื่องของหากต้องการ............ไม่เสียเที่ยวแวะวานใครผ่านมา

                        tueapril2006143818_p002.jpg     	

เพราะความที่เป็นเมืองรุ่งเรืองมาก.....คนจึงอยากเดินทางหวังสร้างค่า
แลกซื้อขายสินค้าต่างนานา................เหตุนั้นมาเรียกว่าสุวรรณภูมิ
เมืองอุดมสมบูรณ์มากคูณทรัพย์.........เป็นแดนทองรองรับลงทุนทุ่ม
แผ่นดินทองกองเงินคนประชุม.........การค้ากลุ่มเมืองใหญ่กำไรดี
สุวรรณสุพรรณอันเดียวกัน...............ความหมายนั้นทองคำล้ำเลิศศรี
ภูมิแปลว่าแผ่นดินถิ่นธรณี................สุวรรณภูมินี้คือแผ่นดินทอง
ได้มาเยือนชมช่วงเมืองหลวงเก่า.......สุพรรณเขาร่ำรวยน้ำเต็มหนอง
ทั้งซ้ายขวามีแต่น้ำลำเลืองมอง...........เป็นแดนร่องรองรับน้ำไว้ได้ดี

   %E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0% 

ธรรมดาที่ลุ่มแหล่งชุมนุม...................ทุกฝ่ายกลุ่มย่อมไหลลงใต้ที่
ความสมบูรณ์ก็มีไว้ในที่นี้..................สายที่จึงมารวมท่วมสุพรรณ
เปรียบได้เหมือนใจคนหากใฝ่ต่ำ.......อันบาปกรรมย่อมทับใจให้อาศัลย์
ฉะนั้นคนทำจิตให้สูงกัน.....................มิให้หวั่นสั่นคลอนใจอ่อนเบา
มาถึงตัวจังหวัดพลัดจะเที่ยง...............เลยต้องเบี่ยงรถไปหาพี่น้องเขา
แวะเลี้ยงเที่ยงร้านอาหารดาวัลย์เอา...อิ่มเต็มเปาค่อยจรเที่ยวร่อนไป
ยิ้มพร้อมหน้าอุ่นตามาคอยรับ.............ต่างคำนับมือไว้กันยกใหญ่
นานนานทีเจอกันสุพรรณไทย...........พูดจาปราศรัยเหน่อเหน่อฟังเก้อกัง
ยิ่งสมัยเก่าก่อนค่อยฟังยาก................แต่ถ้าหากเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนหลัง
จะพูดออกสำเนียงเสียงน่าฟัง............ไม่เหน่อหนังเหมือนครั้งแต่ก่อนมา

pict0369.jpg 

อาหารเที่ยงจัดวางจวนพลางเสร็จ...ปลาถอดเกล็ดทอดเหลืองเครื่องยำข่า
ส้มตำไทยตำลาวเรียงยาวมา..............ซุปหนอไม้น้ำยาขนมจีน
ไข่ตุ๋นนุ่มผัดกุ้งคุ้งคะน้า.....................ก็ดูพาน่ากินอยากถวิล
จัดว่างเสร็จจำแลงแต่งประทิน...........นั่งหน้าผินกินแบบไม่อายใคร

 pict0372.jpg 

บ่ายโมงเศษเฉดออกเที่ยวร่อนต่อ.....ที่แรกก็เข้าวัดเก่าสมัย
ชื่ออาวาสว่าวัดป่าเลไลย์.....................คดีไทยสอนไว้มาช้านาน
มีหญิงงามสองใจหทัยจิต....................แรกชื่อพิมพ์น่าพินิจจิตอ่อนหวาน
ได้รักกับขุนแผนแสนสะท้าน.............แต่ไม่นานขุนช้างได้นางครอง
เพราะขุนแผนไปรบสู้ศรัตรู...............ห่างยอดชู้อยู่ไกลนางเป็นสอง
ขุนช้างได้โอกาสปาดเข้าจอง...............กุมนางน้องพิมพ์พิลาไลสมใจตน
พ่อขุนแผนรูปหล่อก็ใช่ย่อย................ได้เนื้อกลอยคราวรบคบอีกหน
จึงได้นามขุนแผนแสนกมล................เจ้าชู้กลหลายจิตพินิจนาง

pict0385.jpg 

พิมพ์พิลาเปลี่ยนชื่อฉายาใหม่...........เป็นวันทองคลองใจขุนช้างบ้าง
คนจึงขานวันทองสองใจวาง...............ผัวจากข้างมิได้มีใหม่ชม
วรรณคดีไทยสมัยเก่า..................สอนให้เราประพฤติงามตามเหมาะสม
รู้จักอาวุโสไม่โอ้อม............................ทำอวดข่มท่านมีค่าต่ำกว่าตน
เสร็จจากชมอาวาสป่าเลไลย์..............มุ่งหน้าไปหอบรรหารวิมานหน

                       tower04.jpg 

อยู่ใจกลางสุพรรณน่าบันดล...............ตระหง่านยนต์สูงลิบยันจิบเมฆ
ต่อจากนั้นไปไหว้วัดพระนอน............ปางบัญชรหงายองค์เอกเขนก
ไม่เหมือนองค์ทั่วไปไสยาสน์เอก........บรรทมเฉกเอียงขวาพระสรีรา

rfish.jpg 

ให้อาหารเลี้ยงปลามัจฉาวัง................อยู่ข้างหลังท้ายวัดถัดโปสถ์หนา
อันเป็นแม่น้ำท่าจีนลำนาวา...............สองฝังฝาอาศัยใช้ทำการ
กลัวจะค่ำจึงย้ำด่วนเร็วรี่....................ต่อไปที่ดอนเจดีย์ศรีสถาน
ราชานุสรณ์ชนะศึกรบราน................กู้เอกราชบ้านเมืองกลับเฟื่องฟู

                          don02.jpg 

จึงเรียกขานเรศวรมหาราช...............ปรีชาอาจสามารถรบบทบู้
ดังเพลงชาติไทยร้องก้องหนาหู...........จะทนสู้เพื่อชาติไทยแม้วายพลี
ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด...........เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
สละเลือดทุกหลายเพื่อชาติพลี............เถลิงประเทศไทยทวีมีชัย ชโย
เลือดล้างเลือดหยาดเหงื่อเพื่อชาติไทย.ชนสมัยก่อนย้อนไปหลายโข
มิยอมให้ชาติใดมาวางโต...................รุกรานโอ่ย่างเหยียบเอาเปรียบตน
ทุกวันนี้ฆ่าฟันกันเสียงเอง.................คิดว่าเก่งทำตามใจอื่นไม่สน
ตัวเองดีคนอื่นช่างกมล.......................แล้วแต่ทนฝืนไม่ได้ก็พ่ายไป
ตะวันล้าแสงอ่อยค่อยค่อยลับ..............อาทิตย์ดับที่นี้แล้วไปอยู่ไหน
จมลงดินหรือหับหายหลุบหลุมใด.........ดวงโตใหญ่จึงมิดสนิทตา
มนุษย์เกิดขึ้นมาอาศัยโลก.................ยามเศร้าโศกตายไปอยู่ไหนหนา
จมลงดินหรือหับหายสิ่งใดพา..............ซ้อนลับตาไม่ให้เห็นบ้างเลย


 
2jds5.jpg

     มาดูตะวันตกดินถิ่นอุดม..........เมืองรื่นรมย์ประวัติศาตร์มากมายเอ่ย
ทราวดีอู่ทองสุพรรณเอย...................ล้วนต่างเคยรุ่งเรืองถิ่นเมืองนี้
แรมคืนแรกแปลกถิ่นดินแดนทอง...เหนื่อยล้าหมองทั้งวันบากบั่นที่
พเนจรหยุดก่อนในวันนี้..................ล้าเต็มที่อ่อนแรงคิดแผลงจร
ตะวันอ่อนแสงแรงคนอ่อนล้า............เหนื่อยกายาได้เวลานอนพักผ่อน
คงอำเภออู่ทองรับรองนอน................ชื่อนครเก่าแก่ตั้งแต่นาน
สมัยก่อนแถวนี้คงที่รบ.....................รู้สึกพบรอยหมองของสถาน
สนามรบจบศึกยังนึกการ..................ขลาดดวงมานน่ากลัวหัวลุกโกรน
พอรุ่งเช้าสายัณห์วันที่สอง.................เก็บข้าวของไปอีกไกลโน่น
หลายโปรแกรมคาดหมายโยกย้ายโอน.เที่ยวโชกโชนเต็มอิ่มให้จุใจ

    pict0414.jpg 

ไปที่แรกวัดเขาดีสลัก........................มิไกลนักพอที่จะไปได้
มีรอยพุทธบาทจำจองไว้....................ให้นบไหว้สักการบูชาคุณ
ประทักษิณเวียนขวาสามวาระ............กราบองค์พระประธานวางเรียงรุ่น
ของดีแม้นอยุ่ไหนไกลลับพุน.............คนก็จูนไปล่าค้นหาเจอ
ตรงชั้นบนมีขอดลานจอดรถ..............วิวงามงดสาดส่องยามมองเหม่อ
ทัศนียภาพฉากงามเออ.....................สุพรรณเลอสวยจริงยิ่งกว่าจินต์

pict0422.jpg 

สูดอากาศสดชื่นแล้วบึ่นต่อ................ที่สองก็พิพิธภัณฑ์ศิลป์	
จัดแสดงศิลปะหลายหลากชิ้น.............ขุดในถิ่นเมืองหลวงของอู่ทอง
เพียงที่เดียวขุดพบเกือบครบหมด......บอกเล่าเรื่องภาพพจน์ของไทยผอง
ทั้งการค้าสื่อสารการปกครอง..............ทุกชิ้นฟ้องประเภทบอกเหตุการณ์
เดินเวียนชมหลายหนจนเกือบเที่ยง..เลยขอเบี่ยงกินเที่ยงร้านอาหาร
จอดรถพักแถวที่ศรีสะอ้าน.................สั่งหลายจานอาหารทานหนำใจ

       pict0427.jpg 

เที่ยงเศษเศษเฉดออกไปนอกเขต....ดูประเภทศรัตรูพืชอาศัย	
เลี้ยงหนอนไว้กินหนอนงานวิจัย........ไม่ให้ใช้เคมีกำจัดตาย

 pict0446.jpg

ต่อกันเป็นพืชพันธุ์กรมเกษตร.......แวะทอดเนตรไม้ดอกงามหลากหลาย
เขาใช้ถ่านแทนดินเพาะกล้าไม้.........เพื่อไม่ให้รากชื้นฝืนเน่าช้ำ

 pict0478.jpg

สักระยะคิดถึงบึงฉวาก..................หนองน้ำหลากกว้างไกลใหญ่กระหนำ
มีสวนสัตว์รีสอร์ทตลอดประจำ............ไว้พักค่ำต่างที่หนีวุ่นวาย

                          buffalo01.jpg

ที่สุดท้ายเป้าหมายบ้านควายไทย..........ชมวิถีอาศัยไทยสืบสาย
จัดแสดงความสามารถเจ้าทุยควาย.......ไม่ด้อยค่าน่าอายสัตว์อื่นใด
ตะวันผ่อนอ่อนแสงแหล่งเมืองทอง........คงจำต้องลาแล้วแถวถิ่นไหน
ลาก่อนดินแดนวรรณดดีไทย............กลับเมืองหลวงกรุงใหม่ของไทยเอย
                             
                               ........................................................				
8 ธันวาคม 2549 12:46 น.

บ่อเกิดน้ำตา

อัสสุ

05yla815.jpg
                                มองเวลาล่วงเลยที่เคยผ่าน
                                ความยาวนานชีวิตพิชิตไหว
                                บางคราครั้งสิ้นหวังกำลังใจ
                                แต่ยังใฝ่มาได้ถึงทุกวัน

                                ปลอบตัวเองยามใจมีภัยทุกข์
                                ใช่จะสุขรื่นเลอเสมอมั่น
                                อาจมีสิ่งเข้ามาบางคราวัน
                                เกี่ยวพัวพันตัวเองให้วุ่นวาย

                                ไม่คบเขาเขาเองดันมาพบ
                                อยู่สงบปัญหายังหลากหลาย
                                ไม่ทำเขาเขากลับประทับร้าย
                                เบื่อและหน่ายมนุษย์สุดเล่กล

                                ความคิดคนอาจแปลกมีแตกต่าง
                                ก็เพื่อสร้างทางสุขคือเหตุผล
                                พวกเลวเลวคิดร้ายหรือสุขตน
                                จึงคิดค้นจมดิ่งแต่สิ่งเลว

                                เหนื่อยและล้าอย่างไรยังใฝ่สู้
                                หมองหดหูแต่ใจไม่ล้มเหลว
                                ไปเลื่อยเลื่อยจนต้องกองไฟเปลว
                                ละลายเหลวหมดสิ้นทั่วอินทรีย์

                                ไม่อยากเจอความจริงทุกสิ่งสรรพ
                                แต่ยังลับไม่ได้แม้ห่างหนี
                                ไม่เจอนี่ยังเจอนั้นมันอยู่ดี
                                ทำหน้าที่ตัวเองมีดีกว่าเออ
.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัสสุ
Lovings  อัสสุ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัสสุ
Lovings  อัสสุ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัสสุ
Lovings  อัสสุ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัสสุ