4 ตุลาคม 2549 22:27 น.
อัสสุ
อย่าอ่อนแรงไปเลยสิ่งเคยผ่าน
ไม่ช้านานคงจบไม่พบเห็น
ส่วนอดีตเคยช้ำอย่ารำเค็ญ
เพราะมันเป็นดั่งเงาคงหายไป
มันไม่ใช่จะจบลงครานี้
ถึงเศร้าใจเต็มที่อกสลาย
เจอแบบนี้วันหน้าคงอาลัย
ไม่น้อยไปกว่าเจ็บตอนนี้เลย
เพราะชีวิตชินชาการลาจาก
โดนมามากจากลาอย่างเมินเฉย
ไม่โทษใครรู้ดีที่ง่ายเคย
ชอบเอื้อนเอ่ยเผยใจอย่างง่ายดาย
7 กันยายน 2549 18:51 น.
อัสสุ
เจอเธอทีแรกแปลกใจเก็บไปคิด
รู้สึกผิดปกติใจสั่นสั่น
เหมือนโดนแกล้งจักจี้ที่ทรวงพลัน
ยากจะนิ่งงันอยู่เฉยอย่างเคยเป็น
ก็ติดใจคนดีแรกที่พบ
อยากสนิทและคบสบตาเห็น
อยากอยู่ใกล้เธอไว้นะเนื้อเย็น
พอจะเอ็นดูฉันได้ไหมล่ะเธอ
ก็เพ้อคิดวิตกอกลุ่มร้อน
นอนกอดหมอนนึกไปใจลอยเหม่อ
คิดว่าฉันมีโอกาสได้ใกล้เธอ
เราต่างเก้อเขินอายเมินหลบกัน
หมอนใบนี้เปรียบเหมือนเรือนร่างจริง
ฉันแอบอิงกอดหมอนยามนอนฝัน
หมอนคือเธอฉันอ้อนออดกอดทุกวัน
แค่กอดหมอนแทนเธอนั้นก็พอใจ
ขอกอดหมอนใบนี้ที่กายข้าง
แล้วพลางคิดเพ้อเจ้อกอดเธอไว้
นอนกอดหมอนได้แค่นี้ไม่เป็นไร
ฝันเอาไว้กอดหมอนก่อนเป็นจริง
รู้สึกดีตลอดนอนกอดหมอน
ก็แขนกอดลึกบุ๋มอ่อนนุ่มยิ่ง
นอนกอดหมอนแต่ใจเพ้อกอดเธอจริง
ขอหมอนอิงแนบกายเท่านี้พอ
3 กันยายน 2549 22:43 น.
อัสสุ
ราตรีนี้เหนื่อยนักสำหรับข้า
ผู้อ่อนล้าดวงตาจะทานไหว
จันทร์ก็กล่อมคืนก็ขับให้หลับใน
แต่ภาระน้อยใหญ่รั้งไว้รอ
ต้องสะสร้างเรื่องราวเหล่านั้นก่อน
ค่อยหลับนอนสนิทใจในห้องหอ
ราตรีนี้ไม่คอยใครหากย่อท้อ
เวลาจ่อพรุ่งนี้ชี้เส้นตาย
กำลังมีแต่ใยเริ่มไหวอ่อน
คงจันทร์ทอนกำลังให้สลาย
จึงรู้สึกบอบช้ำกำลังกาย
จะแพ้พ่ายราตรีคืนนี้จริง
แต่โถ่เอ๋ยอุปสรรคยังปักอก
จิตวิตกมากมายหลากหลายสิ่ง
จึงไม่อาจคอพับหลับแอบอิง
นอนแน่นิ่งปลอดภัยไร้กังวล
ดวงตาข้าพร่าพรางอ่อนลางเลือน
เปรียบเสมือนไฟล่าเชื้อเหลือน้อยผล
จะแสกสิ้นครั้นไฟไล่ลามชน
หมดปี้ป่นไม่หลงเหลือสักเชื้อไฟ
ก่อนเข้าถึงนิทราขอข้าสาง
สิ่งคาค้างอุราเสียให้ได้
แล้วค่อยจึงพักผ่อนนอนตามใจ
ปล่อยร่างให้หลับใหลในนิทรา
31 สิงหาคม 2549 23:31 น.
อัสสุ
แต่.........ละวันเวลาล่วงเลย.........ผ่าน
สิ่ง......รอบด้านเข้ามาให้ได้.........เห็น
มี...........ทั้งดีและร้ายหลาก.........ประเด็น
ไม่......วรรคเว้นให้ใจได้พัก........เลย
เรื่อง.....บางเรื่องเก็บไว้ในใจ......นี้
ซ้อน......เอาไว้ดีกว่าจะเปิด..........เผย
หาก......พูดแล้วเจ็บช้ำน้ำใจ........เอย
ก็.............ไม่รู้ว่าจะเอ่ยไป..........ทำไม
หาก.......จะเจ็บก็ขอเจ็บคน.........เดียว
ไม่..อยากให้ใครเกี่ยวเจ็บเสี้ยว...ไหน
รู้...คนเดียวเจ็บคนเดียวไม่เป็น...ไร
ดี....กว่าใครหมองใจเพราะเรา...ทำ
เพราะ......รู้ชัดโลกนี้มีแตก.........ต่าง
จะ........ทุกข์บ้างแต่ไม่เคยไป.....ถลำ
เจ็บ.........ได้ก็หายได้ไม่คิด........จำ
ชะตา....กรรมไม่อาจรู้ได้ก่อน.....ใคร
และ....ไม่เคยเหนื่อยหน่ายใน.....ชีวิต
แม้....โดนฤทธิ์สิ่งเข้ามาให้หวั่น...ไหว
ยัง.....เปิดรับไม่ปิดกั้นพร้อมทำ...ใจ
ทุกข์..ร้ายอย่างไรปล่อยไปตาม.....เวร
แต่........ละวันเวลาล่วงเลย..........ผ่าน
สิ่ง........รอบด้านเข้ามาให้ได้.......เห็น
มี...........ทั้งดีและร้ายหลาก.........ประเด็น
ไม่.......วรรคเว้นให้ใจได้พัก.......เลย
21 สิงหาคม 2549 09:43 น.
อัสสุ
สะบัดโบยบินเหิร
จำเริญเพลินแพรวพราวพริ้ง
จรดลงแน่นิ่ง
เกลียกกลิ้งพสุธา
เจ้าหงส์นภาคต
ไฉนลดองค์ลงมา
เสพสมผู้ด้อยกว่า
ดำต่ำช้าข้าผู้นี้
เบื่อหรือไรเบื้องฟ้า
เมืองค่าจินดามณี
จึงลาฟ้าธานี
ร่อนปักษีสู่แดนดิน
ผลาผลสมหรือ
หนึ่งมื้อแตะเขี้ยวเคี้ยวกิน
หวั่นมิสมถวิล
เจ้าผู้บินจากถิ่นฟ้า
หรือจำใจพำนัก
มารักษาดวงมนา
ห่างหายคงบินลา
สู่เวหาเมฆาแดน
ทอดเนตรจิตเพ่งพิศ
เจ้าหงส์ฤทธิ์เรืองเมืองแมน
ข้ายาจกยากแค้น
มิควรแก่นเนื้อนางหงส์