4 สิงหาคม 2547 17:22 น.

ท่ามกลางความเป็นไปและ‘สนามเด็กเล่นของหนูจะมีกับระเบิดไหมหนอ?’

อัลมิตรา

 ท่ามกลางความเป็นไป  ( อัลมิตรา )

 หลายเดือนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าไม่สามารถค้นพบคำตอบสำหรับสาเหตุของความโศกสลดที่ซ่อนลึกอยู่ในใจ จากสถานการณ์โดยรวมและท่ามกลางบรรยากาศที่คุกรุ่น  ได้ก่อให้เกิดความปวดร้าวอย่างแสนสาหัส ข้าพเจ้าเฝ้าถามย้ำกับตัวเองเสมอว่า ..จะไม่มีหนทางใดเชียวหรือ ที่ข้าพเจ้าจะสามารถปลดเปลื้องทุกข์ภายในใจของข้าพเจ้าให้เบาบางลงได้.. จนกระทั่งวันนี้ข้าพเจ้าลงมือเขียนบทความชุดนี้ขึ้นมา ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่สามารถยืนยันกับตนเองได้ว่า  รอยแผลแห่งจิตวิญญานของข้าพเจ้า และความเจ็บปวดต่างๆ จะค่อยๆจางหายไป .. ไม่เลย ข้าพเจ้าคงไม่บังอาจคิดเช่นนั้น 

ข้าพเจ้าได้ตั้งจิตกับตัวเองว่า ต่อให้สังคมเกิดจลาจล มีความขัดแย้งกันในด้านความคิดเช่นไร ข้าพเจ้าก็จะไม่ก่อการขบถต่อจิตใต้สำนึกของข้าพเจ้า กรงปราการใดๆก็หาได้สามารถหยุดยั้งข้าพเจ้ามิให้หยุดเขียนได้ และด้วยแรงปรารถนาอันแรงกล้านี้ ข้าพเจ้าขอกระทำตัวเยี่ยงขบถต่อสังคม ดั่งที่ข้าพเจ้าตั้งปณิธานไว้

แม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ถนัดในงานเขียนประเภทบทความ เนื่องจากข้าพเจ้าเหมือนคนที่ไร้แก่นสารไปวัน ๆ ข้าพเจ้าหมั่นเขียนบทร้อยกรองต่างๆ โดยที่ข้าพเจ้ามิเคยตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตของเลยว่า  จะต้องเอาดีเอาเด่นบนเส้นทางวรรณศิลป์นี้ ทั้งนี้เนื่องจากความสุขจากการเขียนร้อยกรองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อถึง ความรัก ความเศร้าโศก หรือธรรมชาติอันงดงาม ข้าพเจ้าทำเพื่อตนเองทั้งสิ้น  เสพย์สุขกับการได้เขียน เพื่อบำบัดความโหยหาเสรีภาพแห่งจิตวิญญาณ อักษรทุกตัวที่ปรากฏอยู่ในงานเขียน ต่างล้วนมีความเป็นตัวตนของข้าพเจ้าสอดแทรกอยู่ทุกชิ้นงาน  และแน่นอน ..ข้าพเจ้าสำเหนียกได้ดี 

บางครั้งข้าพเจ้าเองก็อาจจะดูเหมือนมนุษย์ไร้ใจและจ่อมจมอยู่ในสภาวะจำยอมต่อกระบวนการของสังคม   มันคงจะดำเนินไปเช่นนั้นตลอดไป   จนกระทั่งข้าพเจ้าทราบเรื่องการประกวดหนังสือทำมือ และยิ่งกว่านั้นหนังสือเล่มหนึ่งที่บทกวีเคยผ่านสายตาของข้าพเจ้าบ่อยๆ ด้วยความที่ผู้เขียนหนังสือเล่มนั้น เป็นสหายของข้าพเจ้า รวมบทกวี 'สนามเด็กเล่นของหนูจะมีกับระเบิดไหมหนอ?'  ได้รับรางวัลชมเชยของการประกวดหนังสือทำมือ--MBK INDY BOOK AWARDS  อันที่จริงแล้วทั้งข้าพเจ้าและสหายผู้นี้ต่างก็ถือกำเนิดมาจากคนละขั้ว สภาพแวดล้อมแตกต่างกันโดนสิ้นเชิง หากแต่ข้าพเจ้าและสหายมีจุดร่วมเดียวกัน คือต้องการให้โลกบังเกิดความสันติสุข  ถึงแม้ว่าจุดหมายนั้นมันไกลเกินฝัน เกินกำลังที่มนุษย์ผู้ต่ำต้อยเยี่ยงข้าพเจ้าจะแบกรับภาระนั้นได้  ข้าพเจ้าก็ยังหวังไว้ว่า อย่างน้อย เบื้องลึกในหัวใจของข้าพเจ้าก็ได้ลิ้มรสสิ่งที่เรียกว่าจิตต์เปรม แล้ว 

สองร้อยกว่าวันที่ผ่านมา สิ่งที่ถาโถมเข้ามากระทบจิตใจมีมากมายนัก.. เกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะตั้งตัวรับสภาพนั้นได้  ในสภาพการณ์รอบข้าง ข้าพเจ้าต้องฝ่าด่านอารมณ์อันเกรี้ยวกราดและความขัดแย้งของผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคม  ข้าพเจ้านิ่งงันพร้อมกับจำยอม ข้าพเจ้าจะทำเช่นไรดี จะปฏิบัติเช่นไร ข้าพเจ้าเหมือนคนที่ลอยคว้างเพียงลำพังท่ามกลางทะเลคลั่ง  ก็ไม่รู้ว่า..วันใดข้าพเจ้าจะล้ากำลังลงพร้อมกับปลดพันธะของตนเองโดยยอมจมดิ่งสู่เบื้องใต้ทะเลลึกนั่น

บทสนทนาระหว่างข้าพเจ้าและบรรดาสหายต่างศาสนา หลายครั้งหลายหนที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ และทุกครั้งการปิดข้อสนทนานั้น มิได้ก่อให้สิ่งที่เป็นไป ดีขึ้นกว่าเดิมเลย ด้วยความที่ข้าพเจ้าเป็นพุทธศาสนิกชน ข้าพเจ้าย่อมเจ็บปวดเมื่อรับรู้ถึงข่าวสลด พระสงฆ์ถูกไล่ฆ่า วัดถูกก่อกวน ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นคนไทย เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ข้าพเจ้าก็มิอาจวางใจให้นิ่งเฉยอยู่ได้ เมื่อสถานการณ์นั้นบังเกิดผลเสียต่อโดยรวม และในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าโศกเศร้ายิ่งนักที่เห็นชะตากรรมของเพื่อนร่วมโลกเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้ามิอาจทำใจให้ว่างเปล่าประดุจเป็นเพียงผู้ดู ภาพต่างๆยังติดตา เสียงคร่ำครวญยังแว่วอยู่เสมอ ข้าพเจ้าไร้ความสามารถที่จะสลัดความรวดร้าวดังกล่าวทิ้ง

ข้าพเจ้าเริ่มรู้สึกกังวลและสับสน การเรียนภาษาอรับของข้าพเจ้าหยุดชะงักเนื่องจากข้าพเจ้ามิได้มีแก่ใจเล่าเรียน ทันทีที่เข้าสู่ชั่วโมงการเรียน ทั้งที่แบบเรียนภาษาอรับที่กางอยู่ตรงหน้า ทว่า.. ข้าพเจ้ากลับพกพาปัญหาต่างๆที่ข้าพเจ้ามิได้เป็นผู้ก่อ แต่ข้าพเจ้าได้รับผลบาดเจ็บของกรณีพิพาทนั้น คำบริบทต่างๆที่เคยได้เรียนรู้มาในอดีต กลับกลายเป็นคำถามที่วนเวียนไม่สิ้นสุด  หัวใจของข้าพเจ้า นับวันก็เหมือนยิ่งเพิ่มบาดแผลฝังรากลึกลงไปทุก ๆ ที ข้าพเจ้าเหมือนผู้ทรยศต่อครูผู้สอนภาษาอรับ คำสอนของครูไม่ได้ลื่นไหลเข้าสู่สมองของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้แต่มองหน้าครู และอยากจะสอบถามบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวกับวิกฤติการณ์ภาคใต้ แต่ข้าพเจ้าก็ต้องนิ่ง ปล่อยให้สมองกลวง ๆ ของข้าพเจ้า บรรจุผงฝุ่นที่ไร้ค่าต่อไป ความเป็นมาในอดีตของภูมิภาคนั้น มันยวนใจให้ข้าพเจ้าใคร่ที่จะรู้มากกว่าตำราเรียนเบื้องหน้านี้

ข้าพเจ้าเพียรค้นคว้าจากสื่อต่าง ๆ ต้นตอของความขัดแย้งทั้งมวล  ทว่าบางอย่างก็ดูเหมือนเป็นเพียงตำนานแห่งความบอบช้ำทางท้องถิ่น และบางอย่างก็ถูกบิดเบือนจากความเป็นจริง ข้าพเจ้ามิอาจล่วงรู้ไปได้ว่า รากเหง้าทั้งหมดเกิดจากปัญหาอะไร และการกระทำที่อุกอาจนั้นทำไปเพื่อสิ่งใดกันแน่ ท่ามกลางที่สภาพการณ์ร้อนระอุขึ้นทุก ๆวัน ข้าพเจ้ามองสหายของข้าพเจ้า เหมือนเรายิ่งไกลกันออกไปทุก ๆ ที ข้าพเจ้าไม่เคยสุขใจเลยสักครั้งที่ต้องทนรับฟังหรืออ่านข้อความที่บาดใจจากสื่อต่าง ๆ หรือแม้แต่ในวงสนทนาในกลุ่มสหาย คำเหน็บแนมต่าง ๆ ที่ฝากถ้อยกันไปมาระหว่างสหายต่างศาสน์ ทำให้ข้าพเจ้าอึ้ง ! ด้วยความที่ข้าพเจ้าไม่เคยแบ่งแยกความเป็นเชื้อชาติ ศาสนา และฐานันดรใด .. ครั้งนี้ข้าพเจ้าพยายามอย่างยิ่ง ที่จะรักษาภราดรภาพนั้นตราบนานเท่านาน

ก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานสักแค่ไหน สถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดี หรือจะเลวร้ายไปยิ่งกว่าเดิม และท่ามกลางความเป็นไปนี้ อีกกี่ชีวิตที่จะต้องกลายเป็นผู้ถูกสังเวยต่อการกระทำที่โหดร้าย ความหวังที่ประดุจลม ๆ แล้งๆ จะเป็นจริง หรือค่อย ๆ เลือนหายไปพร้อมกับตัวตนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็มิอาจตอบคำถามให้กับตนเองเช่นกัน แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าพยายามกระทำอยู่นั้น ซึ่งดูเหมือนยากยิ่งกว่ากอบทรายจากทั่วระแหงโลก นำไปวางรวมเป็นทะเลทรายอันกว้างไพศาล เพียงสองมือกับหนึ่งใจที่อ่อนล้า ข้าพเจ้าก็พร้อมแล้วที่จะเผชิญยถากรรมนั้น

ข้าพเจ้าหวังว่า ..ท่ามกลางความเป็นไปนี้ หากมีเพียงสักผู้หนึ่งรับรู้และเข้าใจถึงความเจ็บปวดในหัวใจของข้าพเจ้า เพียงหนึ่งคน,หนึ่งใจ ทบทวีคูณไปเรื่อย ๆ  ขยายออกไปยังมวลประชาชาติต่าง ๆ สันติสุขก็จะบังเกิดขึ้นบนผืนโลก  แม้นจะเป็นความฝันที่ไกลเกินตัว ข้าพเจ้าก็ยังจะฝันเช่นนี้ต่อไป และตราบใดที่ข้าพเจ้ายังติดปีกให้แก่ความฝัน ข้าพเจ้าก็จะไม่ยอมให้ความฝันของข้าพเจ้ามันเจ่าจุกจนตายไปเช่นกัน.. 				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา