3 ตุลาคม 2548 11:01 น.

ห่อของขวัญของบางใคร

อัลมิตรา


ของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสาสีแดงพร้อมเชือกควั่นสีเหลือง ยังคงอยู่สภาพเดิม ..
ตั้งแต่วันที่ได้รับมอบมาจนถึงวันนี้ ฉันยังไม่ได้เปิดออกดู ..
ไม่ใช่ว่า จะไม่รู้ว่า อะไรอยู่ในห่อ ..
เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่า ฉันจะรู้สึกอย่างไรเมื่อฉันได้เปิด ..

 รู้มั๊ยว่า ผมเตรียมของขวัญอะไรไว้ให้คุณ  
 คุณเตรียมอะไร หรือคะ 
 ลองทายสิครับ 
 ต้องเป็นงานประดิษฐ์จากฝีมือของคุณแน่เลย 
 เก่งจัง แต่ลองเดาอีกนิดนะครับ ว่างานประดิษฐ์อะไร 
 ว้า ! ไม่รู้จะเดาอะไร เฉลยได้ไหมคะ 
 ผมแกะลายกระจกให้คุณ 
 หืม ! กระจกแกะลาย 
 ใช่ครับ เป็นรูปผู้หญิงสวย และรูปของหนุมาน 
 นางสุพรรณมัจฉาและหนุมานหรือคะ 
 ไม่ใช่นางสุพรรณมัจฉาครับ เพราะไม่มีหางเป็นปลา 
 คุณทำเสร็จหรือยังคะ อยากเห็นจังค่ะ 
 ตอนนี้ยังไม่เสร็จครับ แต่ทันวันเกิดของคุณแน่นอน ผมตั้งใจทำให้คุณนะ 

ดูเหมือนบทสนทนาดังกล่าวเพิ่งผ่านพ้นมาไม่นาน 
แต่ละวันที่งานประดิษฐ์ของเขาคืบหน้า เขาก็จะโทรมาเล่าให้ฟังเสมอ

 คุณ .. เหนื่อยไหมคะ 
 ผมมีความสุขนะ ที่ทำอะไรบางอย่างให้คนที่ผมรัก 

ฉันรู้ว่า งานชิ้นนี้เขาต้องใช้เวลาหลายวันทีเดียว ต้องระมัดระวังในการแกะลาย 
ซึ่งเขาเลือกลายค่อนข้างยาก ที่สำคัญบอกว่า..
เขามีความสุขที่ได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อฉัน ..  

 เดี๋ยวเราไปตรงโน้นกัน เผื่อมีกรอบรูปสวย ๆ จะได้เอามาใส่กระจกแกะลาย 
 ใกล้เสร็จแล้วหรือคะ 
 ซื้อเตรียมไว้ก่อนครับ คุณจะได้เลือกลายกรอบให้ถูกใจคุณด้วยไง  

ทุกอย่างเหมือนหมุนวนอยู่ในความทรงจำ ... 
ความทรงจำที่ฉันไม่น่าใจว่า ฉันควรตัดสินใจลืม ดีหรือไม่ 

 ผมไปบ้านแม่ เอาผ้าไหมสีทองของแม่มาด้วย ไว้ทำเป็นฉากหลังของกระจกให้คุณ 
 ตกลงผมเลือกกรอบได้แล้วครับ ทำด้วยไม้สีน้ำตาลแล้วนะครับ ดูขรึมดี 
 ผมจะใช้กระดาษสาสีแดง ห่อเป็นของขวัญให้นะ  

จนกระทั่งวันนี้ ฉันยังไม่ได้เปิดห่อของขวัญนั้น แต่ฉันก็พอจะเดาได้ว่าข้างในเป็นเช่นไร
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่แน่ใจ ..
หัวใจของเขาจะยืนยันกับคำพูดที่เคยบอกฉันว่า ..

 ผมมีความสุขนะ ที่ทำอะไรบางอย่างให้คนที่ผมรัก  

ได้สักแค่ไหน ?

				
25 กันยายน 2548 21:47 น.

บรรยากาศในมิตติ้ง thaipoem party volume I

อัลมิตรา

จากวันที่ thaipoem ได้เกิดขึ้นมาจวบจนกระทั่งถึงวันนี้ เป็นปีที่หก
 จากบทกลอนที่มีความหมายแด่ใครสักคน จนมาถึงสัมพันธภาพวันพบปะสังสรรค์ 
๒๓ กันยายน ๒๕๔๘ .. วันที่มิตรภาพแบ่งบาน ภายใต้ร่มเงาของบ้านกลอนไทย



 รำลึกร้อยสลักมนต์อักษร
ทุกบทกลอนงามตระการแต้มลานฝัน
ต่างที่มาแต่มีไมตรีกัน
สร้างสัมพันธ์จุนเจือทอเยื่อใย

เชื่อมดวงจิตมิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
ยี่สิบสามกันยาวันฟ้าใส
ครบหกปีสืบสานบ้านกลอนไทย
หลอมดวงใจซาบซึ้งเป็นหนึ่งเดียว

				
23 กันยายน 2548 10:28 น.

“ - ตัวตน - ”

อัลมิตรา


เสียงนุ่มเนิบเบา ๆ ของวิทยากร แต่ฉันได้ยินอย่างชัดเจน 
 ..ขอให้.. พวกเราทุกคน.. ทบทวนอะไรบางอย่าง..
ผมอยากจะเชื้อเชิญให้ทุกคน.. เปิดใจ.. และค้นหาตัวตนของตนเอง..
จากนั้น.. ก็ให้เข้ากลุ่มตามทิศเลยครับ..

เป็นเรื่องที่ต้องขบคิด
ตัวตนของฉันจะจัดอยู่ในหมวดทิศใด ?  				
12 กันยายน 2548 09:04 น.

ฉันทำความทรงจำที่งดงามหล่นหาย

อัลมิตรา


 คุณ ดูผอมไปนะครับ ทานข้าวบ้างหรือเปล่า  เขาทักเป็นคำแรก เมื่อฉันเดินเข้าไปหา
 อืม..  ฉันขานอย่างรับทราบ แต่ก็ไม่มีประโยคคำตอบ
 ดูเหมือนเราห่างกัน คุณเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น วันที่.. 
 อืม..   ความห่างอาจจะไม่ได้เกิดจากระยะทาง ทว่า ใกล้กันเพียงนี้ ฉันกลับรู้สึกว่าห่าง เช่นกัน
 เรายังเหมือนเดิมใช่ไหมครับ  เหมือนว่าเขาจะรอคำตอบ

ฉันจำต้องหันหน้าไปทางอื่น และรีบเช็ดน้ำใส ๆ ที่กำลังจะเอ่อออกมาจากสองตา
วันนั้น วันที่ฉันอยากลบความทรงจำทั้งหมดของฉันที่มีอยู่ ทิ้งไป ..
ฉันควรจะทำเช่นไรต่อไป  ฉันเองก็ไม่รู้ เท่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ฉันสลัดไปไม่ได้เสียที
 ไม่ค่ะ เราจะไม่เหมือนเดิม  ฉันตอบโดยที่ไม่หันหน้ามา
 ผมอยากบอกคุณว่า ผมขอโทษ  เขาตอบเบา ๆ
 ลืมกันเสียเถิด ป่วยการที่จะพร่ำแต่คำว่าขอโทษ ไม่มีผู้ใดผิดหรอกค่ะ 
 คุณ .. ผมรักคุณ 
 เราไม่ควรรักกัน .. ตั้งแต่วันแรก จรดวันนี้ และวันต่อ ๆ ไป เราจะไม่รักกันค่ะ 

เราต่างก็นิ่งเงียบ ปล่อยให้เวลาค่อย ๆ คืบคลานไปอย่างช้า ๆ ถึงเวลานี้แล้ว ยังจะมีคำพูดใดที่ดีต่อเรา
ฉันเงยหน้ามองท้องฟ้า ฟ้าครึ้มมาก เมฆลอยต่ำ .. ฝนเริ่มปรอย 
 ฝนตกแล้วครับ เราเดินไปตรงนั้นกันเถิด  
 ค่ะ ฝนตก.. 
เขายื่นมือมาให้เหมือนเคย ฉันเองก็เกือบจะส่งมือให้เขาจูง .. ทว่า ฉันไม่ทำ
ดูเขาชะงักเล็กน้อย แต่ก็เดินนำ โดยที่มีฉันเดินตามหลังอยู่ห่าง ๆ  .. ฝนเริ่มหนักเม็ดขึ้นทุกที
 คุณ เดี๋ยวเปียก เร่งหน่อยครับ 
 ฉันชอบฝน 

เขาหยุดเดินทันทีและหันกลับมา ซึ่งฉันเองก็ไม่ทันระวัง เกือบเดินชนเขา
อย่างรวดเร็ว .. เขากอดฉันไว้ ฉันพยายามผลักอกเขาออก แต่อ้อมแขนของเขาแข็งแกร่งเหลือเกิน
 ปล่อยค่ะ คุณ  ฉันบอกเขาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
 ผมไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้ 
 เราไม่เหลือทางเลือกต่างหากค่ะ 

นานเท่าใดไม่รู้ ที่ฉันและเขายืนตากฝนอยู่ตรงนั้น
ฉันเปียกฝนจนหนาวสั่น .. และทั้งที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา  ฉันกลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเหมือนอย่างเคย
ฉันชอบฝน .. ความทรงจำที่งดงามตอนฝนตก ฉันชอบฝน .. แต่ฉันทำความทรงจำเหล่านั้นหายไป

 เราไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเก่า คุณควรเข้าใจนะคะ  ถึงแม้ว่าฉันจะปวดร้าว แต่นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด ที่ฉันต้องบอกเขา
 ผมไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้ ผมขอโทษ ผมได้แต่บอกคุณว่าขอโทษ เพราะผมไม่รู้จะแก้ตัวกับคุณอย่างไร 
 ไม่มีสิ่งใดที่ฉันจะถือโทษคุณได้ค่ะ คุณยังอยู่เหนือความผิดใดทั้งมวล .. เพียงแต่ว่า 
 เพียงแต่ว่า .. อะไรครับ เพียงแต่ว่าอะไร 
 ฉันรู้สึกดีที่คุณบอกว่า คุณรักฉัน เพียงแต่ว่า ฉันไม่อาจทำใจให้เชื่อคุณได้อีกต่อไปแล้ว 
 มันคือความจริง 
 อย่าหลอกตัวเอง 
 ผมไม่เคยหลอกตัวเอง 
 ถ้าเป็นเช่นนั้น อย่าหลอกฉันอีกเลย ปล่อยฉันไป ปลดปล่อยพันธนาการนี้ด้วยเถิดค่ะ 
 คุณ ! ..   เขาคลายวงแขนออก

ฉันเดินจากที่นั่นมาโดยไม่เหลียวหลังกลับไปมองว่าเขาจะคงยืนอยู่อีกนานแค่ไหน
ฉันพอใจกับความกล้าหาญของตนเอง ฉันพอใจที่จะกลับไปอยู่ในเปลือกหอย จมอยู่กับความทุกข์เพียงลำพัง

ลาก่อน ความทรงจำที่งดงาม 
ฉันตั้งใจทำหล่นหาย โดยที่ไม่สนใจจะเสาะหาคืนมา ..

				
7 กันยายน 2548 14:05 น.

อารมณ์ดีวันที่ฝนตก

อัลมิตรา


วันนี้ฝนตก เมื่อคืนก็ฝนตก หลายคืนที่ผ่านมาฝนก็ตก..
สวัสดีสายฝน .. สวัสดีวันที่ชุ่มฉ่ำ ..
ยิ้มให้กับความรู้สึกดี ๆ เมื่อย้อนรำลึกวันที่ฝนตก สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา..

 นี่คุณ ใส่กระโปรงเป็นหรือเปล่า ?  หมอนี่แปลก หัวก็ไม่ล้านแต่ดันชอบใส่หมวกสีแฟนต้าน้ำส้ม
 ถามแปลก  มีอะไรเหรอ ?  ฉันผละจากเส้นเล็กน้ำ แล้วหันมาถามเขากลับ
 ก็เห็นทีไร ใส่กางเกงยีนส์ทุกทีนี่  พูดขาดคำ เขาก็จัดการกับบะหมี่แห้ง เสียงซู๊ดซ๊าดดังลั่น คงเผ็ด
 ก็แล้วทำไมล่ะ มีกางเกงใส่ก็ยังดีกว่าแก้ผ้านะ   ได้ผลแฮะ หลังจบประโยคนี้เขาอึ้งไป
 โห แม่คุณ ทำเป็นปากดี   มือที่ว่างจากการถือตะเกียบ โป๊กลงหัวฉัน
 รังแกกันด้วยวาจานี่หว่า แบบนี้ต้องปรับ   ว่าแล้วฉันก็หนีบลูกชิ้นปลา กับหมูอีกสองชิ้น คิดเสียว่าเป็นค่าปรับ
 เฮ๊ย ๆ โกงว่ะ แล้วนี่จะให้กินแต่เส้นบะหมี่หรือไง เล่นเอาลูกชิ้นกับหมูไปหมด แบบนี้ก็แย่ดิ  
 โธ่เอ๋ย รู้ช้าจังว่าโกง ฮ่า ฮ่า ฮ่า  อย่างน้อยเขาก็ไม่กล้าเอาลูกชิ้นปลากับชิ้นหมูคืน เพราะฉันเลียจองไว้แล้ว ก๊าก !..

 ต้มยำกุ้ง สนมั๊ย  เขาถาม หลังจากเดินออกมาจากร้าน
 ยังอิ่มอยู่เลย ไม่ไหวล่ะ ขอเป็นขนมหวานได้เปล่า ?  ฉันแกล้ง
 หิวก็กวน อิ่มก็กวน เอายังไงนี่ วันหลังไม่พามาเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวนะ ร้ายนัก  เขาบ่น
 พูดผิด เขาต้องเรียกว่า วันหน้า ไม่ใช่วันหลัง  ฉันย้อน
 จะไปดูหนังไหม ต้มยำกุ้ง คราวก่อนบอกว่าอยากดู ไปเปล่า เดี๋ยวผมออกค่าตั๋วหนังให้ก็ได้ 
 อ้าว ค่ำนี้ไม่ได้มีนัดกับโจรปล้นสวาทเหรอ เป็นไปได้ไง ไม่น่าเชื่อ  อั่นแน่ ปกปิดอะไรหรือเปล่า ?
 นี่ แม่หนูจามาย มัวแต่สงสัยนั่น สงสัยนี่ ตกลง ไปมั๊ย เดี๋ยวเปลี่ยนใจนะ 
 ก็ได้ หยอกแค่นี้ทำเป็นตัดบท ฮี่ธ่อ เห็นแก่พี่บึ๊ก จาพนมหรอก ขอบอก 
 ถ้างั้น เร็วเข้า เราต้องรีบแล้วล่ะ ไม่รู้ว่ามีรอบกี่โมง 

หมอนี่คงจะเคยชินกับการเดินจูงมือผู้หญิง แค่เห็นฉันเดินชักช้า (ก็มันจุกนี่นา เพิ่งกินอิ่มๆ) ก็ยื่นมือมาให้
ไอ้ฉันรึ กว่าจะเข้าใจ ว่ายื่นมือทำไม นึกว่าขอเศษตังค์ กำลังจะเอ่ยปากบอกว่า ไปข้างหน้าก่อนแล้วเชียว ..ฮา
แต่ฉันก็ไม่ว่าไร ยื่นมือมาให้ ก็ยื่นมือไปรับ เพื่อนไม่ใช่ปลาไหลไฟฟ้า คงไม่เป็นอันตราย 
ฉันฮัมเพลงเล่น ๆ 
.. ชีวิตฉันมีแต่หมาพาไป จะเดินหนใดมีหมานำ
ชีวิตฉันมีแต่หมานำ ฉันเดินก้าวตาม ตามหมาเดิน ชีวิตฉันมีแต่หมานำไป....
คนเราเลือกเกิด บ่ ได้ดอก... 
 เฮ้ย ! ไหง๋ ร้องเพลงนี้ บ้าเปล่า แหม๊ เพลงตั้งแยะ ดันไม่เลือกร้อง  เสียงดัง แต่ฉันรู้ว่าเขาไม่โกรธ
 ไรว๊า ร้องเพลงก็ไม่ได้ อุตส่าห์ยอมดูหนังเป็นเพื่อนด้วยนะเนี่ย แหม๊ ทำดีไม่ได้ดี วุ๊ย  ฉันแกล้งตัดพ้อ
 โห เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย เจ้าคารมนัก 
 เอาไง มายืนเถียงกันตรงนี้ รถชนตายกันพอดี เราข้ามถนนไม่ค่อยเป็นนะ โง่ ๆ เซ่อ ๆ เดี๋ยวไปทำรถเขาบุบ แย่เลย  
 จ้า แม่คุณ เดี๋ยวจะพาเหาะไป 

เขาจูง เอ๊ย เขาลากแขนให้วิ่งตามข้ามถนน เจ็บชะมัด มือแข็งอย่างกะคีบ ขาก็ยาวกว่า พาวิ่งจะอย่างกะหนีตำรวจ
สงสัยเขาคงลืมไปว่าฉันเป็นผู้หญิง บ้าเอ๊ย .. เอาไว้มีโอกาสไปสโตร์ จะซื้อผ้าอนามัยให้ดู .. ยี้

 ค่อยยังชั่ว กะเวลาได้พอดี เหลือเวลาอีก 15 นาที เข้าห้องน้ำก่อนมั๊ย   เขาซื้อตั๋วมาสองใบ กี่ตังค์ไม่รู้ ไม่ได้จ่ายเอง
 ชวน หรือว่า ถาม  ฉันมองหน้าเขา เห็นแว๊ปหนึ่งที่เขาตะลึง
 ชวน ไปเปล่า เข้าห้องน้ำชายด้วยกัน  เขาแก้ลำ
 แย่เลย ยืนฉี่ไม่เป็น ทำให้ดูหน่อยสิ   และแล้วมะเหงกที่สอง ก็ลอยลงกลางกระหม่อมฉัน

 ไม่มีขนมเหรอ ?  ฉันถาม หลังจากที่จัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำหญิงเรียบร้อย
 ยังจะกินได้อีกหรือไง แม่คุณ แม่ขนุนหนัง  ฉันไม่ค่อยเข้าใจคำว่า แม่ขนุนหนังนักหรอก มันน่าจะดูอ้วน ๆ นะ
 เลี้ยงหนังแต่ไม่เลี้ยงขนม งกจัง   ฉันบ่นหงุบหงิบ
 เงินเดือนก็มากกว่า ยังจะมาให้เลี้ยงขนมอีก เงินจะเก็บไว้ระวังปลวกขึ้นนะคุณ  แน่ะ เขาเหน็บ
 ใครชวน ?  ฉันถาม
 ก็แล้วทำไม ?  แทนที่จะตอบ เขาก็ดันถามมาอีก
 คนชวนก็ต้องจ่าย  ฉันก็เลยต้องตอบ
 กฏไหนเนี่ย ?  
 เพิ่งคิดได้ตะกี้ แต่หยวน.. เอาว๊า เดี๋ยวหาว่าเอาเปรียบ รอแป๊บละกัน เดี๋ยวไปซื้อขนมก่อน ต้องเอาแบบที่เราชอบนะ ขอบอก 
 เอาเถอะคุณ แล้วแต่จะทรงโปรด 
 
 เดินดี ๆ มันมืด มองเห็นหรือเปล่า มัวแต่หยิบขนมกินอยู่ได้ แทนที่จะถึงที่นั่งก่อน 
 ขนมนี่ ใครเป็นคนซื้อ ?   
 จ้า แม่คุณ รู้แล้วจ้า ว่าแม่คุณซื้อมา 

 ก่อนแยกย้ายสลายโต๋กันกลับบ้าน ที่ร้านขายเครื่องดื่มเล็ก ในห้างสรรพสินค้า เขาคะยั้นคะยอชวนดื่มกาแฟ 
..บอกก็ไม่รู้จักจำเสียที ฉันไม่ชอบกาแฟ แล้วเป็นไงน๊า ชอบมาชวนจัง.. ( คิดในใจ ห้ามอ่านออกเสียง )
พอเขาเห็นฉันคิ้วขมวด เขาก็หัวเราะลั่น พร้อมกับหันไปสั่งเครื่องดื่มเป็นกาแฟแก่ ๆ และ โอวัลตินเอ๊า ๆ 
ค่อยยังชั่วหน่อย เขาน่ะ เหมาะแล้ว สำหรับกาแฟแก่ ๆ

 สนุกเนอะ ดูกี่ทีก็ยังสนุก   ฉันพูดหลังจากจิบโอวัลตินไปสองเฮือก
  หา !!! อะไรนะ นี่แสดงว่าเคยดูแล้วสิ  ดูสิ เขาทำตกอกตกใจ
 อืม ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม  ฉันตอบแบบหน้าตาปกติที่ซู๊ด
 แล้วทำไมไม่บอก รู้งี้ไม่ชวนหรอก 
 ดูฟรี ดูหลายรอบได้ ไม่เป็นไร เราไม่ถือสา 
 คุณนี่ จริง ๆ เล้ย ตัวป่วนเมืองนัก     
 ตัวป่วนดอนเมืองเหรอ ไม่อ่ะ ไกล อีกอย่างกลัวเครื่องบินหล่นตุ๊บ 
 เฮ้ย ..!!    
 เอ .. เครื่องบินนี่ ตามสถิติมันนาน ๆ ร่วงที แต่ กลัวโดนน้ำกรดสาดมากกว่า ...ฮา ขำวุ๊ย  
 เฮ้ย เฮ้ย !! ล้อแบบนี้เลยเหรอ 
 มัวแต่เฮ้ย รถเมล์มาแล้ว ไปล่ะ โชคดีสำลีแปะหัวนะ    รถเมล์กำลังชะลอมาเทียบ ฉันก้าวลงจากฟุตบาท
 เดี๋ยว เสาร์นี้ว่างเปล่า ?    ตั้งนานไม่ถาม ตอนนี้ดันมาถาม
 อะไรนะ พูดอะไร  ฉันตอบโดยที่ไม่หันหน้า   
 ไปมาบุญครองกัน แล้วดูหนังเรื่อง Stealth  กันนะคุณ  โอเคเปล่า  
 หือ อะไรนะ ชัด ๆ อีกที ตรงนี้เสียงมันดัง 
 Stealth เครื่องบินแจ๊ทน่ะ ไปดูด้วยกันนะ คุณ  เสาร์นี้  เขาตะโกนตอบ แทบกางมือกระพือให้ดูเป็นเครื่องบิน เห็นแล้วขำกลิ้ง
 ใครจ่าย    ฉันโผล่หัวมาจากหน้าต่างของรถเมล์ ตะโกนถามเป็นครั้งสุดท้าย

เขาตอบอะไรก็ไม่รู้ เสียงรอบตัวดังมากจนไม่ได้ยิน รถเคลื่อนตัวออกแล้ว .. ฝนก็เริ่มปรอย 
ฉันอยู่บนรถเมล์ แต่เขายังยืนโบกมือหยอย ๆ หมวกสีแปร๊ดเด่นมาแต่ไกล
เอาเหอะ ถ้าใส่หมวกแล้วจะดูหล่อ แล้วจะไม่เปียกฝน ตามใจ .. หล่อแบบไร้ตะไบ ก็เงี๊ยะ
ว่าแต่ว่า เสาร์ที่จะถึงนี้ ฝนจะตกหรือเปล่าเนี่ย ?

 

				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา