บทกวีที่มากมายได้ปรากฏหลั่งรินรดจากใจข้างในนี้อักษรสรรค์ปั้นแต่งแสดงมีบ้างสุนทรี/สุข/เศร้า.. คละเคล้ากันจากวันวานจวบวันนี้หลายปีแล้วหลากเพื่อนแก้วพี่น้องพ้องสุขสันต์ต่างอาศัยนัยกวีคลี่สัมพันธ์สร้างสวนสวรรค์วงศ์กวีที่หัวใจหากวันหนึ่งซึ่งอาจถึงวันนั้นวันที่ฉันมิอาจคาดหมายได้วันที่ฉันเดินทางหว่างฟ้าไกลมิรับรู้ใดใดในวันคืนหากต้องนับเวลาคราถอยหลังน้ำตาหลั่งยั้งคิดดวงจิตฝืนสองแขนล้าสองขามิหยัดยืนคงล้มครืนเหมือนลับดับชีวาคงฝากไว้เพียงอักษรหากย้อนอ่านความเคยหวานและสนุกสุขหรรษาขอให้รับประทับไว้ในอุราเผื่อวันหน้าจะมิเลือน...ว่าเพื่อนเคย ..
...สายลมแผ่วพลิ้ว..ยังให้ใบไม้ไหวสั่นคลอน... ...ราตรีที่เงียบงันคล้ายถูกทักทายด้วยสายลมแห่งวสันตฤดู... ...พลันบังเกิดเสียงกิ่งไม้และใบไม้ลู่ไปตามสายลม... ...กระต่ายน้อยตัวหนึ่ง ชะเง้อชะแง้มองจันทร์... ...ไม่เพียงแต่กระต่ายน้อยเท่านั้น... ...ที่ยังมีความเพ้อฝันและเพรียกหา... ...มันคอยจ้องความตระการแห่งจันทรา... ...แล้วหวังใจว่า...จันทราจะปรานี... ...กระต่ายน้อย...มันไม่รู้เลยว่า... ...อีกหนึ่งมนุษย์ผู้น่าเวทนาอุรานี้... ...มิต่างกันกับเจ้ากระต่ายน้อยในพงพี... ...วิงวอนให้จันทราปรานีและเห็นใจ... ...จันทร์เจ้าเอย... ...โปรดมอบความรักความห่วงใยและอาทร... ...แม้นยามเหนื่อยอ่อนครั้งคราไหน... ...คราต้องทุกข์ระทมตรอมตรมใจ... ...จันทราอันสว่างกระจ่างใส... ...โปรดเถิด โปรดได้ปลอบขวัญ... ...กระต่ายน้อยตัวหนึ่ง... ...กับมนุษย์ผู้ซึ่งโศกเศร้าร้าวรำพัน... ...รอคอยค่ำคืนอันตระการตามา..นิจนิรันดร์... ...โอ้ดวงจันทรานั้น จักเห็นใจหรือไม่เอย ? ..๏ ครั้นรัตติกาลเยือน.......ศศิเคลื่อนนภาพราว พลันให้หทัยหนาว............อุระร้าวมิเสื่อมคลาย ..๏ ครุ่นคิดคะนึงหา..........ฤ ยุพาสิกลับกลาย เชยชิดสนิทชาย-.............นระอื่นและชื่นชม ๚ ..๏ ครั้นแสงพระจันทร์ส่อง..สิริผ่องประภาสม ฤๅน้องมโนรม.................ฤ สิชมเสมือนกัน ..๏ เพรียกเพ้อละเมอถึง....และคะนึงมิเว้นวัน ข่มใจมิใฝ่ฝัน..................รตินั้นก็ลุกลาม ๚ ..๏ แผ่วผ่าวพระพายพัด.....และอุธัจประชิดตาม ครั้นจิตพินิจความ.............มิสงบและบรรเทา ..๏ เหยียบย่ำกระหน่ำจิต...วิปริต ฤ หนอเรา หม่นหมองมิบางเบา..........ขณะเศร้าและอาลัย ๚ ..๏ ยามเมื่ออดีตนั้น..........ปริพันธ์กวีให้ กล่อมเจ้าระรื่นใจ.............อภิรมย์และสมปอง ..๏ ร้อยคำประพันธ์พจน์....นยะบทกวีผอง เอื้อนอรรถรสพ้อง............สรพันและเย้ายวน ๚ ..๏ เชยชิดสนิทเจ้า..........ผิว์กระเซ้าสิเสสรวล ตรึงในฤทัยชวน-.............อนุจินต์ถวิลหา ..๏ ดาวเดือนสิเคลื่อนคล้อย....ดุจลอยและร้างลา ตราบเมื่อสุรีย์จ้า..............ลลนา ฤ เช่นกัน ๚ ..๏ สิ้นรักประจักษ์จิต........บ่สนิทสนมพลัน ลืมเลือนอดีตนั้น..............มิตระหนักและภักดี ..๏ คืนนี้นภาพราว.............ศศิวาวสกาวศรี แต่ข้าพเจ้ามี-...................ปริเทวนาการ ๚ ..๏ คร่ำครวญคะนึงหา- .....วนิดาบ่เว้นวาร เจ้าลืมเกษมศานต์............ณ อดีตกาลฤๅ ? ๚ะ๛
เดียวดายใต้ฟ้ามืด .......เดือนดับหายห่าง ฤๅ ฟ้าหับ........ห่มไว้อกเคยชื่นกลายกลับ......หดหู่ยืนอยู่เดียวเปลี่ยวให้......หักสะอื้นคืนเหงาลำพังท่ามฟ้าพร่ำ..........คืนแรมหายลับกับเมฆแซม.......ซ่อนเร้นเพรงกาลพร่างพราวแวม...วับร่างหมองหม่นไยเดือนเว้น.....เลื่อมหล้านภาสลัวโดดเดี่ยวประดุจไร้........มิตรสหายโอ้อกคงเปล่าดาย.........อยู่บ้างลมแผ่วผ่านผิวกาย........ยิ่งสะทดอกอุ่นมาแรมร้าง.........โลกรู้คืนเหงาแรมเดือนมีเคลื่อนด้วย.....ธรรมดาดับย่อมยอยาตรา...........สว่างแต้มแรมใจหนักอกหนา.........ดับนิ่งเพ็ญส่องพันเพ็ญแย้ม......ไม่รู้เรืองไหม
..๏ ด า ร ด า ษ แ ด ง ป ร ะ ทั บ ป ร ะ ดั บ ช่ อ ล า น ล อ อ ช ม พู พ ร า ว แ ล ะ ข า ว ส ด เ ลื่ อ ม ล ด า ค่ า พ อ ช ะ ล อ พ จ น์ พ เ ยี ย ย ศ ยั่ ว พ ย า ง ค์ ใ ห้ ว า ง ม า ร้ อ น รุ่ ม สุ ม ไ ล่ หั ว ใ จ จี้ อ า จ ดั บ ด้ ว ย ม า ลี อั น มี ค่ า เ พื่ อ เ ยื อ ก เ ย็ น เ ห ย า ะ ล ง ต ร ง อุ ร า ธ ร ร ม ช า ติ ส ร ร ค์ ผ ก า ม า เ กื้ อ กู ล ช บ า ไ พ ร ไ ร้ ก ร ะ ถ า ง ข้ า ง ก ร ะ ท่ อ ม อ า จ มิ ห อ ม เ ช่ น กุ ห ล า บ ใ ช่ ส า บ สู ญ ค่ า แ จ กั น กุ ก่ อ ง อ า จ ก อ ง กู ณ ฑ์ ห า ก จ รู ญ ก ลั บ จ ร า ย หั ว ใ จ เ ร า ก ลิ่ น จ รุ ง ฟุ้ ง ห อ ม ด อ ม ด้ ว ย จิ ต ห า ก แ ค่ พิ ศ เ พี ย ง ผ า ด ป ร ะ ก า ศ เ ข ล า ด้ ว ย คุ ณ ค่ า น้ อ ย ใ ห ญ่ ใ ช่ ยิ่ ง - เ ย า ว์ ม า ก แ ง่ เ ง า ง ด ง า ม ค ว ร ต า ม ดู ด า ร ด า ษ แ ด ง ป ร ะ ทั บ ป ร ะ ดั บ ช่ อ ถ้ อ ย เ ยิ น ย อ บ ริ บ ท พ จ น์ เ ลิ ศ ห รู บ ร ร ณ า ก า ร พ ฤ ก ษ์ ไ พ ร ห ม า ย เ ชิ ด ชู เ ถิ ด วิ ญ ญู พิ จ า ร ณ า คุ ณ ค่ า มั น ๚ะ๛
๏ เมียงมองผองสิ่งโพ้น.............เกินหมาย ยังมุ่งมั่นเหยียดกาย...................ไขว่คว้า ถึงแรงย่อมคลอนคลาย...............เคยพรั่น พรึงเฮย คงแต่ใจแกร่งกล้า.......................พรั่งพร้อมเพียงตน ๚ ๏ ครองฝันฝันอยู่ด้วย..................ในตัว ถึงพร่าหรือหมองมัว...................อยู่บ้าง เคยฝันเมื่อตื่นกลัว.....................ฝันสร่าง ไหนจึ่งควรโอ่อ้าง......................ว่าได้เห็นจริง ๚ ๏ ฝันใดจงมุ่งคว้า.......................มาครอง ฝันย่อมเปี่ยมพลังผอง................มากพ้น เพียงใจใฝ่ดังปอง......................สรรพสิ่ง นั่นนา เห็นซึ่งมวลลหากล้น..................ต่างล้วนคอยเรา ๚ ๏ พอตื่นพลันกอดด้วย..............ความจริง ฝันเมื่อก่อนยังอิง.......................แอบเจ้า ฝันใดใคร่ช่วงชิง........................คงอยู่ ฝันอื่นหมื่นแสนเฝ้า...................ต่างล้วนจริงพลัน ๚ ๏ ถึงเกินใจไขว่คว้า....................มาครอง คงคู่ควรเราปอง...........................ยิ่งแท้ หาใช่ใฝ่เมียงมอง.......................โดยเปล่า ใจหนึ่งคงสุขแล้...........................อย่าได้โรยรา ๚ ๏ ค้นเอยค้นฟากฟ้า.................... หาดาว ยังพร่างพรายนภาพราว...............ใหญ่น้อย ค้นหาหนึ่งจันทร์สกาว.................งามเด่น นั่นแฮ ค้นเถิดค้นอย่าด้อย.......................ด่วนสิ้นอุดมการณ์ ๚ะ๛