27 มีนาคม 2552 17:10 น.
อัลมิตรา
๏ คืออะไรระหว่างความห่างหาย
ฤๅ รักคลายลงแล้วมิ่งแก้วเอ๋ย
ก่อนยั่วเย้ากระเซ้ากันทุกวันเคย
กลับเมินเฉยเยี่ยงนี้ ฤๅ มีใคร ?
หากดวงจิตคิดแปรก็แค่กล่าว
แม้นเรื่องราวจบลงคงต้องไหว
เมื่อรักนั้นผันผวนควรเกริ่นนัย
อย่าปล่อยให้บางคนทุรนรอ
หนึ่งเฝ้าคอยอีกหนึ่งมิซึ้งจิต
ต่างฟากผิดอย่างไรไม่รู้หนอ
หนึ่งทุ่มเทเทียบเท่าตัวเราพอ
อีกหนึ่งขอเปรียบได้คนไกลกัน
เพราะอ้างว้างระหว่างหนทางเปลี่ยว
โดยดายเดียวพร่างพรมอารมณ์ฝัน
คราวจนตรอกชอกช้ำเผลอรำพัน
อาศัยกลอนสกัดกั้นโศกบรรเทา
แด่..บางใครในความคำนึงคิด
จาก..ผู้ซึ่งลิขิตด้วยจิตเหงา
นัยนิยามความห่างระหว่างเรา
คือใดเล่า ? โปรดมอบคำตอบมา ๚ะ๛
25 มีนาคม 2552 17:18 น.
อัลมิตรา
๏ ชาวรากหญ้าถูกหวยเช็คช่วยชาติ
ชาวทำเนียบบอกสามารถกู้ชาติได้
สองพันบาทฟาดหัวมิทั่วไทย
ช่วยจำเพาะรายได้ไม่ถึงเกณฑ์
หากต่ำกว่าหมื่นห้าโปรดมารับ
ลงทะเบียนเสร็จสรรพรับเห็นเห็น
เช็คช่วยชาติใช้สบายคลายลำเค็ญ
ยามจำเป็นอย่าเขินแลกเงินตรา
เพราะสาเหตุเศรษฐกิจตกสะเก็ด
จนหลายคนเซ็งเป็ดคอเคล็ดด่า
บ้างสาหัสกลัดกลุ้มรุ่มกายา
บ้างเป็นบ้ามากมีเจ้าหนี้บาน
เงินสองพันปันให้เพื่อใช้สอย
ควรทยอยจับจ่ายมิใช่ผลาญ
หรือกินดอกฝากอัตราธนาคาร
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละคน
ส่วนหลงเหลือมากมีที่อัตคัด
หวังส้มหล่นมาขจัดความขัดสน
ต้องกินข้าวแกล้มเกลือเมื่อตัวจน
ฝืนอดทนเรื่อยไปปราศใครแล
คงยิ่งกว่าถูกหวยเช็คช่วยชาติ
หากสามารถช่วยได้ในกระแส
ช่วยสมานสามัคคีอย่ามีแปร
ประเทศไทยพ้นแย่...ขอแค่นี้ ๚ะ๛
18 มีนาคม 2552 15:52 น.
อัลมิตรา
๏ เขาบอกงานเราห่วยห่อกล้วยแขก
เขาบอกแลกเป็นไข่อาจได้สอง
เขาบอกช่างทุเรศเปรตไม่มอง
กลอนก่ายกองน้ำเน่าอย่าเอามา
"คนโง่งมงี่เง่าเสือกเล่าร่าย
แสนเปล่าดายเขียนไปก็ไร้ค่า"
ทุกผลงานเขาคล้ายไม่ชายตา
"หยุดดีกว่า"..เขาบอกตอกย้ำเรา
"ยามแวะอ่านก็ยิ่งสิ้นศรัทธา
เหมือนคนบ้าดัดจริตผิดแผกเผ่า
ไม่อยากเสียเวลามาขัดเกลา
ขี้เกียจสอนตุ่นเต่าดุ่มเดาเดิน"
ทุกชิ้นงานสุดห่วยเกินช่วยได้
เปรียบขยะกองใหญ่เขาได้เกริ่น
รับรู้แล้วละเหี่ยใจไม่เพลิดเพลิน
ถูกเขาเมินเหยียดหยามประณามงาน
"อยากจะเป็นกวี โธ่ ! ขี้ครอก
เขียนจนหงอกขึ้นหัวมั่วสื่อสาร
อยากเด่นดังจงยั้งไว้ในสันดาน
เขียนที่บ้านเก็บไว้อย่าได้โชว์"
เขาพูดนั่นพูดนี่เหมือนชี้ชัด
เราเปล่าขัดเพราะใจไม่โมโห
เป็นกวี แล้วไง ? .. รึ ใหญ่โต ?
ไม่เคยโง่ หรือไร ? .. ไอ้กาวี ๚ะ๛
11 มีนาคม 2552 09:08 น.
อัลมิตรา
๏ นั่งอ่านกลอนตอนบ่ายเผื่อคลายง่วง
เพราะหนังตามันถ่วงหนักหน่วงหนา
หาวหลายวอดตอดขนมขบเคี้ยวพา
สะบัดแข้งสะบัดขาออกท่าทาง
ยังคงง่วงโงกเงกหนังเนตรหย่อน
จนเพื่อนค้อนแสยะปากแล้วถากถาง
กินแล้วนอนแขวะย้ำหมูอำพราง
ชิชะ !.. แอบคลำหางหรืออย่างไร ?
เชอะ ! .. หัวหน้าสมาคมชมรมบ้า
"ช่างเกียจคร้านเหลือคณา" .. เขาว่าให้
"เรื่องลอกกลอนตอนนั้นคงอั้นใจ
จึงบอกใครขอเพี้ยนเขียนทั้งเดือน"
ฟังเขาเหน็บถ้อยสะกิดง่วงปลิดทิ้ง
มันถูกต้องอย่างยิ่งจริงของเพื่อน
เขียนเรื่องลอกตอกย้ำซ้ำซ้ำเตือน
เปรียบเสมือนเพ้อพร่ำกับกำแพง
ตราบเท่าที่นักลอกปราศรู้สึก
ในสำนึกคงกร่างอย่างกำแหง
ขาดคู่คิดมิตรสหายร่ายชี้แจง
เที่ยวตะแบงตะโกนปาวว่าเปล่าทำ
ประดาเพื่อนรุมล้อมพร้อมปกป้อง
เหตุการณ์นี้ทั้งผองมองแล้วขำ
แทนที่จะสะกิดเพื่อนติเตือนจำ
กลับกระทำสรรเสริญเพลิดเพลินยอ
วินิจฉัยนักลอกบอก - ไม่ผิด -
เรื่องลอกนั้นกระจิ๊ดริด - ไม่ผิดหนอ -
เรื่อง - ผิด/ถูก - ปัญหาพาบ้าบอ
อยากหัวร่ออีกครั้งโดยตั้งใจ ๚ะ๛
ฮะ ฮะ ฮ่า ... ฮะ ฮ่า ... ฮะ ฮะ ฮ่า
ฮะ ฮะ ฮ่า ... ฮะ ฮ่า ... ฮะ ฮะ ฮ่า
ฮะ ฮะ ฮ่า ... ฮะ ฮ่า ... ฮะ ฮะ ฮ่า
ฮะ ฮะ ฮ่า ... ฮะ ฮ่า ... ฮะ ฮะ ฮ่า
5 มีนาคม 2552 13:04 น.
อัลมิตรา
๏ ผ่านเรื่องราวร้าวรานเนิ่นนานนัก
ผ่านความรักมนุษย์ชายมากมายหน
ผ่านความสุขโศกเศร้าคละเคล้าปน
กว่าตัวตนเติบใหญ่หลายร้อยเรียน
บางสัมผัสชัดแจ้งเกินเกริ่นกล่าว
จนบางคราวอาศัยนัยงานเขียน
ถ่ายทอดแทนวาจาคราพากเพียร
มีปรับเปลี่ยนฉันท์โคลงโยงกาพย์กลอน
ที่ถ่ายทอดตลอดจนสร้างผลงาน
ล้วนสื่อสารจำเพาะเพื่อพักผ่อน
มิแข่งขันประชันใครให้อนาทร
ทรัพย์เดือดร้อนเร่ขายก็ไม่มี
จวบกระทั่งประจักษ์ผู้ลักลอบ
ซึ่งตะแบงตอบตวาดใส่ให้บัดสี
อ้างประพฤติไม่ผิดด้วยคิดดี
วิบัตินี้ชวนฉงนเกิดกลใด ?
ส่วนผู้หนุนจุนเจือเพื่อมิตรภาพ
แม้นสืบทราบความจริงย่อมติงได้
ฤๅ สังคมจมจ่อมย่อมเป็นไป
ผิดละไว้ยังถนอมคล้ายออมมือ
เมื่อกฏหมายหมายมุ่งมนุษย์ใช้
แล้วเหตุใดกฏกติกากล้าหาญหือ
ครั้นอยากเขียนเขียนได้ใฝ่ฝึกปรือ
อย่าดึงดื้อลักลอบเป็นกอบกำ
จากหนึ่งกลายเป็นสิบหยิบร่วมร้อย
จำนวนน้อยหรือไรคนใจต่ำ
ควรปรับตัวแก้ไขในการกระทำ
เหตุที่ย้ำตลอดเดือนใช่เลื่อนลอย ๚ะ๛