18 พฤศจิกายน 2552 21:29 น.
อัลมิตรา
๏ หากอัตตาพาเตลิดจนเกิดเหตุ
ก่ออาเพทลำบากยากสะสาง
บุคคลใดใช้ปัญญาอัตตาวาง
ย่อมกระจ่างทางแก้จริงแท้เทียว
หากคับแค้นแน่นอกพกเคืองขัด
บ่งบอกชัดเชื้อมนุษย์นั้นเศษเสี้ยว
บุคคลใดใช้คารมสร้างกลมเกลียว
ย่อมข้องเกี่ยวสมานฉันท์สัมพันธ์ชน
หากก่อกวนชวนทะเลาะเพาะคดี
ถ้อยอัปรีย์โปรยไว้หวังใครสน
บุคคลใดเยือกเย็นแม้นยินยล
ย่อมหลุดพ้นทุกข์ร้อนบั่นทอนใจ
หากระบายร้ายร่อนหย่อนคำหยาบ
ดุจซึมซาบกรรมพันธุ์ชั่วชั้นไหน
บุคคลเอื้อโอบอ้อมยอมให้อภัย
ย่อมเลิศกว่าอเวไนยซึ่งไกลธรรม ๚ะ๛
13 พฤศจิกายน 2552 22:46 น.
อัลมิตรา
๏ เหมือนม่านหมอกหลอกตาจนพาโศก
คล้ายอับโชคเส้นทางรักห่างเหิน
คราวที่ฟ้าเลือนลางหว่างดำเนิน
หากหลงเพลินเดินดุ่มอาจกลุ้มใจ
ม่านหมอกเมฆเฉกฉากหลากลดหลั่น
เปรียบอุปสรรคพรากกั้นรักหวั่นไหว
ยามฟ้าแจ้งย่อมกระจ่างหนทางไพร
หมายสิ่งใดควรคว้ามาครอบครอง
ผู้ยอมพ่ายหน่ายชะตาพารันทด
ประหนึ่งหมดพลังใจไม่สนอง
ปล่อยให้รักลับหายกลายทำนอง
ฤๅ ควรฟ้องโทษชะตามาแกล้งกัน
แม้นมิมุ่งมั่นหมายในความรัก
คราเจ็บหนักจะหวังใครไปปลอบขวัญ
เมื่อปราศร่องรอยใจให้ผูกพัน
เพียงหมอกกั้นนิดหน่อยพลอยระทม
อยู่ใต้ฟ้าเหมือนกันตะวันเดียว
คราวยากเหนี่ยวรักไว้ให้สุขสม
ดุจหมอกเคลื่อนเลื่อนไหลไปตามลม
สมควรข่มเถิดหนาอย่าอาลัย ๚ะ๛
11 พฤศจิกายน 2552 22:19 น.
อัลมิตรา
๏ เปิดเวปย้อนกลอนเก่างานเขาเขียน
อ่านวนเวียนหลายหนคล้ายคนบ้า
ท่วงทำนองของเขาช่างเข้าตา
ให้รู้สึกนึกประหม่าเกินกว่ากลอน
มีหลายครั้งพลั้งใจไปคนเดียว
ถ้อยคำเกี้ยวรำพัน ณ วันก่อน
ฉันวูบไหววาบหวามแม้ยามนอน
แพ้เชิงอ้อนหลงเพ้อเผลอทรงจำ
จากคนเถื่อนแถมห่างเส้นทางกวี
กลายท่าทีเป็นปลื้มและดื่มด่ำ
ฉันเพียรคว้าหาศัพท์ขับลำนำ
ประดิษฐ์คำสละสลวยด้วยจงใจ
หวังใกล้ชิดสนิทเขาเท่านั้นคิด
จึงผูกมิตรมาตลอดทอดสะพานให้
แต่ศิลป์ศาสตร์ปราศถนัดจัดเจนใด
ยิ่งเขียนเหมือนยิ่งไกลแนวนัยกวี
เขาโดดเด่นเล่นคำแสนช่ำชอง
มากเพื่อนผองตามประชิดติดวิถี
วันก่อนเขาเขียนกลอนอ้อนวลี
ประหนึ่งชี้ชัดแจ้งแหล่งเจตนา
แท้เขาเขียนจากใจให้คนอื่น
เปล่าหยิบยื่นแด่ฉันเพื่อหรรษา
อาจทั้งหมดบทกวีที่ผ่านมา
ฉันอุปมาแปลผิดคิดไปเอง ๚ะ๛
5 พฤศจิกายน 2552 15:30 น.
อัลมิตรา