28 พฤศจิกายน 2551 15:11 น.
อัลมิตรา
๏ "โรงเรียนหยุดอย่างนี้ดีหรือแม่ ?.."
ฉันได้แต่สงบนิ่งปราศติงไหว
สายตาลูกประหนึ่งจ้องปากฟ้องไป
"ผมจะเรียนอย่างไร ?.. หากไม่ทัน"
"ทุกคนพูดเพื่อชาติประหลาดแท้
ชาติย่ำแย่ย่อยยับใครรับนั่น
หรือเศษซากส่วนเสียหารเฉลี่ยกัน
ผมแสนหวั่นเพราะผมพกเงินน้อย ! "
"ในขอบแคว้นเขตขันฑ์มิคสัญญี
เห็นมากมีปนเปื้อนคนเถื่อนถ่อย
ผมควรทำอย่างไร ?.. หรือให้คอย
ตอบผมหน่อย.. ผมอยากไปโรงเรียน"
ยินเรื่องราวเร้ารุกจากลูกชาย
"ความเสียหายคณานับเกินปรับเปลี่ยน
ท่ามสมรภูมิสถานการณ์ ณ สังเวียน
ชาติจวนเจียนล่มสลายไปกับตา"
"เพราะผู้คนมากมายดุจกลายพันธุ์
ฉวยอาวุธสารพันประจันหน้า
เรื่องโรงเรียนหยุดสอนผ่อนเวลา
คงจนกว่าคุณครูดูปลอดภัย"
"เมื่อฝ่ายต่างอ้างชาติประกาศกร้าว
เหตุอื้อฉาวจึงลุกลามเกินห้ามได้
เศรษฐกิจระเนระนาดอนาถใจ
เพราะคนไทยไร้รักสามัคคี"
"โรงเรียนหยุดอย่างนี้ดีหรือแม่ ?..
ท่ามกระแสสังคมโสมมนี่
ฉันตอบลูกไม่ได้ในกรณี
เด็กชายขี้สงสัยอยากไปเรียน๚ะ๛
................................................................
24 พฤศจิกายน 2551 13:22 น.
อัลมิตรา
๏ เชิญรังสรรค์บรรเลงบทเพลงเลือด
ให้มันเดือดระอุพล่าน ณ ลานสยาม
หากสติวินิจฉัย ..ฉันไม่ปราม
ฉันอยู่ท่ามแตกแยกมิแปลกใจ
โน่นก็บอกตอกย้ำทำเพื่อชาติ
โน่นก็สาดชี้รัฐเปรียบสัตว์ใหญ่
โน่นด่ากลางช่างขลาดเขลาบรรลัย
โน่นรอเสียบเสี้ยมไทยสุมไฟเติม
บรรเลงเพลงละเลงเลือดดุเดือดพล่าน
เคลิ้มอารมณ์เบิกบานสถานการณ์เริ่ม
ยามเพี้ยนคีย์ครุ่นคิดด้วยจริตเดิม
คนฮึกเหิมโลดเต้นเน้นลวดลาย
พอเสียงร่ำรัวกลองประกาศกล้า
ฉันรากหญ้าสนุกสนานสำราญหลาย
กว่าเพลงจบศพที่นอนเรียงราย
ซากสุดท้ายไหมนั่น... ฉันไม่รู้ ๚ะ๛
22 พฤศจิกายน 2551 10:35 น.
อัลมิตรา
๏ พระเพลิงโหมซากเขาเผาไหม้หมด
ยังปรากฏรอยอาลัยในอนุสรณ์
เหลือกระดูกเล็กน้อยพลอยสังวรณ์
ณ เชิงตะกอน ฤๅ ผู้ใด ใคร่หลบพ้น
เพราะเกิดแก่เจ็บตายความหมายสัตย์
บังเกิดวัฏฏสงสารวิญญาณผล
กว่าสูญสิ้นอจินไตยในสากล
ต้องเวียนวนเกิด-ตายอีกหลายภพ
ไปไม่กลับหลับไม่ตื่นฟื้นไม่มี
ย่อมเยี่ยงนี้กว่าผ่านปรินิพพานจบ
หากดำรงกงเกวียนเวียนกรรมครบ
จักประสบสุทธาวาสพิลาสล้ำ
มนุษย์เอย !
ชีพล่วงเลยประสงค์ใดในคืนค่ำ
แสวงหากิเลสาสวะ ฤๅ ละกรรม
ล้วนแต่กัมมัสสกตาสัทธา ๚ะ๛
17 พฤศจิกายน 2551 20:54 น.
อัลมิตรา
๏ ความผิดหวังครั้งก่อนตอนรักลับ
ฉันสดับซาบซึ้งหนึ่งความหมาย
"รักตราบสิ้นดินฟ้าชีวาวาย"
แค่นิยายตลบแตลงเสแสร้งทำ
ค่อยค่อยจูบลูบไล้อิงไออุ่น
กลอนบทคุ้นเธอเสนอดุจเพ้อพร่ำ
ทุกนัยแนวนั้นล้วนใคร่ควรจำ
ฉันโง่งมดื่มด่ำหลงคำเปรย
กระทั่งกาลผ่านผันจวบวันนี้
นิยายที่พริ้งเพริศถูกเปิดเผย
ร่างซาตานมารร้ายกายคุ้นเคย
ที่เอื้อนเอ่ยทั้งปวงแท้ลวงใจ
"รักคงมั่นตราบสิ้นจวบดินฟ้า"
ถ้อยวิจิตรภาษาคราขานไข
เธอฝากพจน์งดงามนิยามนัย
แต่เชื่อได้ ฤๅ นั่น.. ฉันรู้ดี ๚ะ๛
13 พฤศจิกายน 2551 21:08 น.
อัลมิตรา
๏ หน้ากากดูหรูหราคราพกแขวน
ชาวชนแคว้นสงสัยใคร่ค้นหา
บ้างซุบซิบ/เอ็ดอึง..ถึงที่มา
บ้างสมมุติอุปมานานาเป็น
หากซุบซิบหยิบโย่งแล้วโยงเรื่อง
คงเปล่าเปลืองการใดในความเห็น
หากเอ็ดอึงประหนึ่งว่าหาประเด็น
คงเฉกเช่นกวนใจในเหตุการณ์
สวมหน้ากากหลากหลายนิยายยก
ใครอยากถกสารพันปัญหาผ่าน
ก่อนตัดสินนินทาเหมือนพาพาล
ก่อนวิจารณ์ถูกผิด .. คิดให้ดี
อย่าเอนเอียงเยี่ยงอย่างแลข้างเดียว
ทุกข้องเกี่ยวกระทบผลบนวิถี
ความจะแจ้งแจ่มชัดปัจจัยมี
ก่อนบ่งชี้ระบุโทษ ..โปรดไตร่ตรอง
ด่วนสรุปเร็วไปโดยไม่คิด
ปะเหมาะผิดขึ้นมาอุราหมอง
เพราะบางสิ่งยิ่งกว่าสายตามอง
แค่จับต้อง ฤๅ สืบได้หัวใจคน
หน้ากากดูหรูหราคราพกแขวน
สาหัสแสนซ่อนไว้ใครเห็นผล ?
หากอยากเดาเล่าเล่นหลอกเร้นกล
ท่านจักค้นหน้ากาก .. ลำบากไย ?