12 พฤศจิกายน 2549 23:56 น.
อัลมิตรา
คืนนี้คุณรู้สึกถึงความรักบ้างไหม ? ..
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
๏ ยินยอมพร้อมใจ
หมายมั่นฝันใฝ่...........อย่างไร้ทุกข์ตรม
คืนผันวันผ่าน-............ฤดูกาลนานนม
ครั้นสิ้นขื่นขม..............รื่นรมย์สุขสันต์
๏ อันโลกธรรมมี
เกลือกกลั้วชั่วดี..........มากมีสารพัน
รู้ความแตกต่าง...........อยู่อย่างเท่าทัน
ขจัดเศร้าโศกศัลย์......จักพลันเปรมปรีดิ์
๏ ในห้วงเวลา
เปี่ยมด้วยสิเนหา..........ปรารถนาหวังดี
พรั่งพร้อมในจิต............ดั่งสถิตทุกที่
ไร้ซึ่งปรัศนีย์.................ไม่มีเล่ห์ลวง
๏ ดั่งด้วยยุทธการ
อันเผชิญเนิ่นนาน........ร้าวรานทั้งปวง
จงมลายหายสิ้น...........ยลยินความห่วง
ขออยู่คู่ควง...................ตราบห้วงรัตติกาล
๏ โอ้ยอดดวงหทัย
รู้บ้างหรือไร..................ห่วงใยเกินประมาณ
สายใยไอรัก.................ที่ประจักษ์เนิ่นนาน
ยามดาวพราวตระการ...จันทร์ที่พร้อมมูล ?
๏ แท้จริงสิ่งสรรพ์
ยั่งยืนนิจนิรันดร์.............เสมอมั่นทวีคูณ
รักแจ้งประจักษ์ใจ.........บ่คลายมลายสูญ
ยังเอื้อเกื้อกูล................เพิ่มพูนในใจ
๏ เคยท่องพเนจร
พบสุขทุกข์ร้อน.............เร่ร่อนแรมไกล
ล้วนต่างเพียงพอ..........ไม่ท้อสิ่งใด
ด้วยยังฝันใฝ่.................สุขในดวงกมล
๏ โอ้ยอดชีวัน
ได้แจ้งใจพลัน..............รักอันเปี่ยมล้น
ทั้งความห่วงใย............เข้าใจบัดดล
พร้อมด้วยเหตุผล.........ตราบพ้นค่ำคืน
๏ ดั่งองค์ราชันย์
ยาจกหนึ่งนั้น................ต่างกันเป็นอื่น
หากน้อมพร้อมรัก.........ล้วนจักสดชื่น
ตลอดวันผ่านคืน...........แช่มชื่นรื่นรมย์
๏ ด้วยจิตศรัทธา
มุ่งมาดปรารถนา..........ครั้งคราเหมาะสม
ยึดถือสุจริต-..................ธรรมคิดนิยม
อันความทุกข์ระทม.......ดั่งลมแผ่วพลัน
๏ พ้นช่วงยุคสมัย
เสมือนเรียนรู้ใจ............เปลี่ยนไปเช่นนั้น
รักโลภโกรธหลง...........บ้างคงจาบัลย์
สุขทุกข์เคล้ากัน............เนื่องวันเวลา
๏ เป็นภาพปรากฏ
เช่นการกำหนด.............เช่นบทนำพา
ดำเนินบทบาท..............แม้นมาตรปรารถนา
เช่นเครื่องพันธนา-........การมาผูกตน
๏ แล้วต้องเป็นไป
เกินการฝันใฝ่................เข้าใจเหตุผล
สมหวังพลั้งพลาด..........ล้วนประหลาดชอบกล
ให้ติดวังวน.....................หลงตนลืมตัว
๏ โปรดสดับรับฟัง
บทกวีพร้อมพรั่ง...........ซึ่งกังวานทั่ว
แม้นคราวทุกข์ใจ.........แม้ใจหวาดกลัว
โศกศัลย์พันพัว............อย่ามัวร้าวระทม
๏ สัจธรรมความจริง
รับรู้สรรพสิ่ง.................อ้างอิงเหมาะสม
เป็นโลกธรรมแท้..........ผันแปรดั่งลม
ด้วยธรรมนิยม..............อย่าตรมตรอมเลย
๏ สดับเสียงหัวใจ
แห่งผู้ยากไร้................อย่าได้เมินเฉย
แท้ยิ่งจริงใจ.................ห่วงใยเช่นเคย
คือสิ่งเปิดเผย..............เอื้อนเอ่ยแทนคำ
๏ แว่วเป็นทำนอง
สำเนียงเสียงพ้อง........คล้องจองวรรณกรรม
ฤๅเช่นเป็นไป..............ดั่งใจงามขำ ?
ว่ายังคงย้ำ...................น้ำใจไมตรี ?
๏ โอ้ยอดดวงหทัย
รู้บ้างหรือไร..................ห่วงใยทบทวี
สายใยไอรัก.................ยังประจักษ์ด้วยดี
ยามดาวพราวมณี........จันทร์ที่พร้อมมูล ?
๏ แท้จริงสิ่งสรรพ์
ยั่งยืนนิจนิรันดร์.............เสมอมั่นทวีคูณ
รักแจ้งประจักษ์ใจ........บ่คลายมลายสูญ
ยังเอื้อเกื้อกูล................เพิ่มพูนในใจ
๏ เคยท่องพเนจร
พบสุขทุกข์ร้อน.............เร่ร่อนแรมไกล
ล้วนต่างเพียงพอ..........ไม่ท้อสิ่งใด
ด้วยยังฝันใฝ่.................สุขในดวงกมล
๏ โอ้ยอดชีวัน
ได้แจ้งใจพลัน...............รักอันเปี่ยมล้น
ทั้งความห่วงใย.............เข้าใจบัดดล
พร้อมด้วยเหตุผล..........ตราบพ้นค่ำคืน
๏ ดั่งองค์ราชันย์
ยาจกหนึ่งนั้น................ต่างกันเป็นอื่น
หากน้อมพร้อมรัก.........ล้วนจักสดชื่น
ตลอดวันผ่านคืน...........แช่มชื่นรื่นรมย์
๏ โอ้ยอดจอมขวัญ
พรรณนาสารพัน............รักนั้นเปี่ยมล้น
ทั้งยิ่งห่วงใย...................มากในดวงกมล
ล้วนเป็นเหตุผล..............ตราบพ้นศศิธร
๏ ดั่งองค์ราชา
ยาจกอนาถา..................ต่างฐานันดร
หากน้อมพร้อมภักดิ์......ด้วยรักสถาพร
ตราบสิ้นศศิธร.................ก่อนไร้เรืองรวี ๚ะ๛
อ ย า ก ใ ห้ เ จ้ า รู้ ว่ า . . . ยั ง แ ส น ห่ ว ง ใ ย
อ ย า ก ใ ห้ เ จ้ า เ ข้ า ใ จ ว่ า . . . ข้ า ฯ ยั ง ห วั ง ดี
ใ น ห้ ว ง แ ห่ ง ย า ม ร า ต รี
โ อ้ ค น ดี . . . รู้ ซึ้ ง ถึ ง สิ่ ง เ ห ล่ า นี้ . . . บ้ า ง ไ ห ม ?
7 พฤศจิกายน 2549 23:02 น.
อัลมิตรา
๏ เดิมพันรัก
..๏ โอ้เจ้าช่างสิ้นหวังดั่งพ่ายแพ้
ความอ่อนแอครอบคลุมสุมใจหรือ
ไร้วิเคราะห์ใคร่ครวญด่วนวางมือ
ไม่ยึดถือความจริงสิ่งใดเลย
ไยไม่ฟื้นตื่นตัวหรือกลัวเล่า ?
หรือโศกเศร้าเข้าสิงจึงนิ่งเฉย ?
ล่วงคืนวันนานเนิ่นจนเกินเลย
ดุจคุ้นเคยคร่ำครวญรัญจวนใจ
โอ้เจ้าช่างเด็ดเดี่ยวเชียวหนอเจ้า
จึงมัวเฝ้าฝืนช้ำอีกร่ำไห้
คงจะมีเหตุผลอันดลใจ
ประการใดจึงดื้อดั่งถือดี
ความพอใจเช่นนี้ไม่ดีแน่
อาจพ่ายแพ้ร่ำไรคล้ายไฟจี้
เหมือนเล่นไพ่หมายคว้าราชินี-
ผู้ที่มีเพชรพลอยคอยเพ่งความ
อย่ามัวมุ่งหมายมั่นไพ่นั้นนัก
เกรงเจ้าจักหมดตัวจึงมัวห้าม
เจ้าหนูเอ๋ยจะเฉลยให้รู้ความ
ที่ห้ามปรามเปรียบดั่งผู้หวังดี
ราชินีแห่งเพชรฤทธิ์เดชมาก
จักฉุดลากลงทัณฑ์พลันป่นปี้
ทั้งแส้หวายหางกระเบนเห็นมากมี
โอกาสดีนางจักเฆี่ยนให้เจียนตาย
เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจมิใช่หรือ
สิ่งยึดถือไขว่คว้าก่อนจะสาย
ราชินีแห่งรักจักคลี่คลาย-
ความแพ้พ่ายเดิมพันเป็นมั่นคง
ณ บัดนี้ข้าคิดไม่ผิดนัก
แจ้งประจักษ์ความจริงสิ่งประสงค์-
อันประณีตยิ่งนักหากจำนง
วางอยู่ตรงโต๊ะข้าวของเจ้าเอง
คำเปรียบเปรยเช่นนี้พินิจเถิด
จักบังเกิดสุขสมใช่ข่มเหง
อันสิ่งดีไขว่คว้าอย่ากลัวเกรง
จงรีบเร่งขวนขวายได้ครอบครอง
แต่เจ้ายังกังวนสับสนอยู่
ช่างอดสูสิ้นหวังดั่งหม่นหมอง
ยังเพ้อฝันใจฝืนยืนเมียงมอง
สิ่งลอยล่องเกินใฝ่วิสัยตน
โอ้เจ้าช่างเด็ดเดี่ยวเชียวหนอเจ้า
อันวัยเยาว์ที่หวังดั่งไร้ผล
ไม่อาจย้อนเวลามาให้ยล
คืนวันพ้นเกินพร่ำนำกลับมา
ครั้นเจ็บช้ำระกำใจใดรึงรัด
ความอึดอัดอิดโรยโดยหนักหนา
ควรยอมรับสภาพนั้นด้วยปัญญา
เร่งค้นหาความจริงอย่าชิงชัง
..เสรีภาพ.. โอ้นี่ ..เสรีภาพ..
คงเป็นภาพน้ำคำที่พร่ำหวัง
เครื่องผูกมัดรัดรึงประหนึ่งยัง-
เฝ้าคุมขังตัวเจ้าให้เศร้าใจ
มันกำลังเดินผ่านกาลแปรเปลี่ยน
โลกหมุนเวียนเปลี่ยนสีที่สดใส
เป็นเทาทึบท่วมทันจนล้นใจ
ผ่านโลกไปลำพังอย่างวางมือ
สองฝ่าเท้าของเจ้าคราวเหยียบย่ำ
ไม่ชอกช้ำเหน็บหนาวรวดร้าวหรือ ?
ยามเหมันต์พลันเดินเพลินชำงือ*
ยังขืนดื้อเยื้องย่างอย่างเดียวดาย
อีกท้องฟ้าไม่โปรยโรยหิมะ
สุริยะปราศแสงแดงเฉิดฉาย
เกินวิเคราะห์สภาวะอธิบาย
เกินคาดหมายราตรีหรือทิวา
เจ้ากำลังสูญสิ้นจินตภาพ
ไม่รับทราบเรื่องราวที่เฝ้าหา
อันดีชั่วปานใดไม่พิจารณา
กลับไร้ค่าเพียงความชอกช้ำทรวง
ปล่อยคืนวันกาลพ้นจนลับหาย
ยังฟูมฟายโศกเศร้าราวใหญ่หลวง
หมดสิ้นแล้วสรรพสิ่งจริงหรือลวง
เกินตามทวงให้คืนยืนชำงือ*
โอ้เจ้าช่างสิ้นหวังดั่งพ่ายแพ้
ความอ่อนแอครอบคลุมสุมใจหรือ
ไร้วิเคราะห์ใคร่ครวญด่วนวางมือ
ไม่ยึดถือความจริงสิ่งใดเลย
ไยไม่ฟื้นตื่นตัวหรือกลัวเล่า ?
หรือโศกเศร้าเข้าสิงจึงนิ่งเฉย ?
ล่วงคืนวันนานเนิ่นจนเกินเลย
ดุจคนเคยคร่ำครวญรัญจวนใจ
จงลงมาจากรั้วนั่นเสียเถิด
อย่าเตลิดลุ่มหลงตรงสิ่งไหน
เร่งทำตามสมจินต์ตัดสินใจ
มุ่งก้าวไปเปิดประตูสู่ความจริง
แม้นฝนตกฟ้าร้องคะนองอยู่
อยากให้ดูความงามตามแอบสิง
คือสายรุ้งพุ่งฟ้าสง่าอิง-
ช่างเพริศพริ้งแพรวพรายให้ชื่นบาน
เจ้าควรหาผู้หนึ่งซึ่งหวังดี
มีไมตรีเปี่ยมภักดิ์สมัครสมาน
แม้นผู้ใดหมายรักประจักษ์นาน
จงรับการหวังดีที่มีมา
อย่านิ่งเฉยเฉื่อยชาและล้านัก
อันความรักงดงามล้ำหนักหนา
ครั้นวันคืนล่วงลับดับชีวา
รีบค้นหาหัวใจก่อนสายเกิน ๚ะ๛
3 พฤศจิกายน 2549 16:15 น.
อัลมิตรา
..๏ หากถูกคนกล่าวสยบสบประมาท
คิดอาฆาตมุ่งร้ายให้หม่นหมอง
ความรู้สึกบานปลายอาจก่ายกอง
โปรดตรึกตรองถี่ถ้วนสิ่งควรเป็น
กิจการภายหน้าจงท้าสู้
อย่าหดหู่เมื่อเขาเหยียบย่ำเข่น
เฉกภูผาประสบภัยมิไหวเอน
ถูกเขม่นเพียงใดไม่อินัง
จงหนักแน่นหาญกล้าฝ่าอุปสรรค
จงพิทักษ์หัวใจให้เข้มขลัง
จงปรับสิ่งเลวร้ายคล้ายชิงชัง
แปรเปลี่ยนเป็นพลังกำลังใจ
อย่ารำลึกเรื่องราวเปลืองเปล่านั้น
จงรังสรรค์ทุกอย่างกระจ่างใส
ส่วนผรุสวาทหยามหมิ่นจากลิ้นใคร
อย่านำไปปรุงจิตจนติดตรวน
ดูแต่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า
มารยังเคล้าวิบากลมปากผวน
เทียบอะไรกับมนุษย์สุดแปรปรวน
ทุกอย่างล้วนแจ่มชัดอนัตตา
เถิด !! จงมั่นอุราด้วยกล้าแกร่ง
สร้างกำแพงป้องภัยไม่ถือสา
กำลังใจสร้างเองบรรเลงพา
แล้วฟันฝ่าสู่เส้นชัยในบัดดล ๚ะ๛