30 กันยายน 2548 09:02 น.
อัลมิตรา
...อย่าถามเลยว่าอยู่ได้ไหม มั่นใจก็ยังห่วง
...เมื่อจะไปใครเล่าจะทักท้วง
...ฉันไม่มีปัญญาทำ ...
..๏ อย่าถามฉันอยู่ได้........ฤๅไหม
ยังห่วงอยู่ในใจ..................ก็รู้
ในเมื่อคิดจะไป.................แล้วนั่น
ฉันมิอาจฝืนสู้....................ทักท้วงอย่างไร ฯ
...หากรู้แล้วใจจะเปลี่ยนไหม ไม่ไปไม่ลาจาก
...ต่อให้ฉันแทบขาดใจชอกช้ำนัก
...ก็ต้องยอมให้ไป ...
..๏ หากรู้ใจห่วงล้น...........เหลือคณา
จะเปลี่ยนใจไม่ลา.............ฤ นั้น
ถึงฉันเจ็บช้ำอุรา...............ร้าวยิ่ง
ก็จักมิกีดกั้น......................หักห้ามเธอเลย ฯ
...อย่ากลัวเลยฉันทำมาทุกอย่าง
...เพี่อให้เธอคลายใจ
...ดูแลรักษาไม่ว่าเรื่องใดๆ
...ไม่เคยให้ต้องกังวล ...
..๏ เช่นเคยอย่าหวั่นแท้.....มั่นเสมอ
ทุกอย่างทำเพื่อเธอ...........ผ่านพ้น
ยังคงหมั่นปรนเปรอ...........ทุกเรื่อง
เพียงเพื่อมอบสุขล้น...........มิให้ระคายใจ ฯ
...อีกครั้งจะเป็นอะไรไป ให้เธอไม่ต้องผิด
...ไม่ต้องรู้ไม่ต้องเห็นสักนิด
...ฉันจะเดินไปตายไกลๆ ...
..๏ อีกหนอีกสักครั้ง..........เป็นไร
เธอมิต้องผิดใจ.................ทุกข์ท้น
ไม่รู้ไม่เห็นใด...................แม้แต่ นิดเอย
ฉันจะเดินจากพ้น..............ดับดิ้นไกลไกล ฯ
...หากพบเจอกันจะยังยิ้ม ให้เธอได้โล่งใจ
...ว่าชีวิตยังอยู่ดีไม่สลาย
...ฉันทำได้เพื่อเธอ ...
..๏ ได้พบกันจะยิ้ม............แย้มสบาย
เธอจะได้โล่งคลาย............อัดอั้น
ว่าชีวิตใช่สลาย..................ยังอยู่ ดีเอย
ฉันย่อมแสดงอย่างนั้น.......แน่แท้เพื่อเธอ ๚ะ๛
29 กันยายน 2548 10:30 น.
อัลมิตรา
..๏ นกน้อยลอยลิ่ว
เป็นแนวแถวทิว..................พลิกพลิ้วปลิวไป
นำความหวังดี.....................มากมีห่วงใย
จากพี่น้องไทย....................บินไปปลอบขวัญ ฯ
..๏ นกน้อยลอยลิ่วพลิ้ว ........ปลิวพิไล
ด้วยรักและห่วงใย ..............ฟ่องฟ้า
ความหวังพี่น้องไทย ...........ทุกภาค
บินมุ่งไปถ้วนหน้า ...............แห่ห้อมปลอบขวัญ ฯ
..๏ ปีกบางร่างน้อย
สวยงามเรียบร้อย................ล่องลอยเรียงกัน
แรงลมโหมพัด....................ให้กระจัดกระจายพลัน
นำความสุขสันต์..................ผูกพันไมตรี ฯ
..๏ ปีกบางเรือนร่างน้อย ......นวยกราย
ละล่องลงเรียงราย ...............แช่มช้อย
ลมพัดกระจัดกระจาย ..........ทั่วถิ่น
นำสุขสันต์รวมร้อย ...............ฝากถ้อยไมตรี ฯ
..๏ ด้วยใจปรองดอง
ดังเสมือนเพื่อนพ้อง.............ทั้งผองน้องพี่
ลืมวันฝันร้าย........................คลี่คลายโดยดี
สุขเกษมเปรมปรีดิ์................อย่างที่ปรารถนา ฯ
..๏ ด้วยใจหมายเหล่าล้วน.....ปรองดอง
เหมือนดั่งเพื่อนทั้งผอง.........พี่น้อง
ฝันร้ายคลี่คลายปอง..............แปรสงบ
เกษมชื่นเปรมปรีด์พ้อง.........สิ่งเพี้ยงปรารถนา ฯ
..๏ นกน้อยคล้อยไกล
บินถลาร่อนไป......................อย่างไม่อ่อนล้า
สู่แคว้นแดนดิน....................เยือนถิ่นพสุธา
เปี่ยมสุขทุกครา..................ใต้ฟ้าเมืองไทย ฯ
..๏ นกน้อยลับลิบคล้อย........ยังถวิล
เจ้าร่อนถลาบิน ..................ไป่ล้า
รวมใจสู่แดนดิน.................หวงห่วง
เปี่ยมสุขใต้แผ่นฟ้า.............แหล่งหล้าเมืองไทย ๚ะ๛
28 กันยายน 2548 17:23 น.
อัลมิตรา
..๏ ปรารถนาหัวใจใครบางคน
แม้นดิ้นรนอาจได้สมใจฝัน
หากมัวแต่ละเมอเพ้อรำพัน
คงคลาดกันมิได้อยู่เป็นคู่เคียง
ปรารถนาหัวใจใครบางคน
รักมากล้นพร่ำทำไมให้ยินเสียง
เรื่องส่วนตัวอย่ากระจายขายสำเนียง
ค่ารักเพียงซื่อต่อกันสำคัญพอ
ปรารถนาหัวใจใครบางคน
ฝึกอดทนเข้าไว้รู้ไหมหนอ
หากมากมีอุปสรรครักต้องรอ
อย่าคิดท้อความหวังสิ้นชีวินพัง
ปรารถนาหัวใจใครบางคน
อย่าวางกลหลอกใครเพื่อให้หวัง
รักจะสูญเสื่อมสลายกลายเป็นชัง
ยามแผนพลั้งสิ่งล้ำค่าเหลือค่าลวง
ปรารถนาหัวใจใครบางคน
อย่าพร่ำบ่นเรื่อยไปคล้ายแหนหวง
มัวระแวงทุกวันเพราะหวั่นทรวง
อาจเสียใจน้ำตาร่วงโดนช่วงชิง
ปรารถนาหัวใจใครบางคน
อย่าฉ้อฉลไขว่คว้ามาทุกสิ่ง
หากเขามีรักแท้แน่นอนจริง
คงได้อิงคู่กันนิรันดร ๚ะ๛
ป ร า ร ถ น า หั วใ จ ใ ค ร รั ก จ ริ ง
เ ร า จ ะ ล ะ ทิ้ ง ทุ ก สิ่ ง เ พื่ อ พั กพิ ง ใ จ
27 กันยายน 2548 08:56 น.
อัลมิตรา
...สิ่งใดหรือคือที่สุดความยุติธรรม ?
...ปืนกระหน่ำยิงร่างบอบบางหรือ ?
...วางกับดักให้ย่อยยับ...กับสองมือ
...การลุกฮือดื้อด้าน...ต่อต้านไทย
..๏ ยุติธรรมนั้นที่แท้...............เยี่ยงไหน
ลอบกระหน่ำยิงประลัย............ร่างสะท้าน
วางกับดักระเบิดภัย.................พิฆาต
แยงลุกฮือดื้อด้าน....................ต่อต้านภูมิไทย ฯ
...คือเสียงเงียบ...ท่ามกลางลางบอกเหตุ
...เป็นอาเพศ...คึกคะนองจองหองใหญ่
...แฝงมนต์ดำ...อำมหิต...ในจิตใจ
...ฉาบเลศนัย...ไร้เหตุผลคนใดกัน ?
..๏ ในท่ามเสียงเงียบใบ้..........บอกเหตุ
คะนองลึกลางอาเพศ...............เขตใต้
ใจอำมหิตจิตเจตน์..................จองฆาต
แฝงเลศเหตุผลไร้...................เหล่าผู้ใดกัน ฯ
...เฝ้าทวงถามความปรารถนาอย่างสาสม
...แล้วทับถมด้วยน้ำตาพาโศกศัลย์
...ล้วนร่างศพผู้บริสุทธิ์ดุจลงทัณฑ์
...แล้วเย้ยหยันเหยียบย่ำคอยซ้ำเติม
..๏ หันถามความถูกแท้.........ปรารถนา
กลับอาบด้วยน้ำตา................โศกเว้ย
ผู้บริสุทธิ์ศพคา......................สบเคราะห์
มันเหยียบย่ำหยันเย้ย............เจ็บช้ำซ้ำเติม ฯ
...ล้วนเย็นชา...ตาหูดูมืดหนวก
...ครั้นผนวกย่ำยีไทย...ไยฮึกเหิม
...คราปลุกปั่นดุจมะเร็งร้ายคล้ายเรื้อนเริม
...มีแต่เพิ่มเติมไฟ...ให้รุนแรง
..๏ เยิ้มหนวกมืดบอดด้วย......เย็นชา
ครั้นผนวกฮึกบีฑา.................ระทดสะท้อน
ปลุกปั่นดุจมะเร็งรา...............เรื้อนโรค
มีแต่เติมไฟร้อน...................เพิ่มเชื้อรุนแรง ฯ
...อุดมการณ์...ผลาญเผาเฝ้าปลุกกระแส
...ยังตั้งแง่...เงื่อนไขให้ผาดแผลง
...ครั้นเห็นช่อง...จ้องรุกบุกแทรกแซง
...หยดเลือดแดง...ผู้บริสุทธิ์ดุจวารี
..๏ อุดมการณ์ผลาญวอดปั้น.....ปลุกกระแส
แผลงเงื่อนไขลวงแล................แง่ตั้ง
เห็นช่องชิงรุกแถ ....................โถมบุก
โลหิตฉานทุกครั้ง ...................หลั่งคล้ายวารี ๚ะ๛
26 กันยายน 2548 08:57 น.
อัลมิตรา
...เหล่ามวลผู้กล้าแห่งบู๊ลิ้ม...ต่างกล่าวกันว่า...
... " ใต้แสงจันทรา ณ ห้วงมหรรณพ์...
...ยังความสุขสันต์ให้ปรากฏ...
...ซ่อนเร้นความมหัศจรรย์ในมธุรพจน์...
...ย่อมกำหนดจิตใจในรัตติกาล...
...ใต้แสงศศิธรใคร่อ้อนเอื้อน
...จึ่งมิตรภาพในผองเพื่อนบ่อวสาน
...ประดุจวิภาดามิอันตรธาน
...เจิศจรัศนิรันดร์กาล...มิเสื่อมทราม
...เคียงกายมีกระบี่ที่คมกริบ
...กระบวนเพลงรัว...ชั่วพริบตาอย่ามองข้าม
...ความแกร่งกร้าวผสมผสานผ่านความงาม
...ผ่านย่ำยามชมจันทราดาราราย
...รำกระบี่...มีสุรามาซดแล้ว
...คงไม่แคล้วร่ายกวีมีความหมาย
...กระบี่พริ้วไหว...ใจพลิกผัน...ครั้นเอี้ยวกาย
...จอกเหล้าหงายเป็นได้ดื่ม...ลืมย่ำยาม "ฯ
..๏ ใต้จันทราส่องห้อม........ห้วงมหรรณพ์
ปรากฏความสุขสันต์...........สว่างจ้า
มธุรพจน์มหัศจรรย์.............อันซ่อน
กำหนดจิตใจข้า..................จ่อมเคลิ้มรัตติกาล ฯ
..๏ ใต้ธารศศิเอื้อน................ปรารถนา
มิตรภาพผองเพื่อนยา...........จุ่งยื้น
ประดุจวิภาดา........................ผดุงสวัสดิ์
เจิดจรัสนิรันดร์รื้น................ไป่รู้เสื่อมทราม ฯ
..๏ วามวาวกระบี่รุ้ง.................เคียงกาย
ชั่วพริบตากระบวนกราย..........ร่างพลิ้ว
งาม-กร้าวแกร่งพร่างพราย......ผสานสนิท
ผ่านย่ำยามจันทร์ริ้ว................รอบด้วยดาวราย ฯ
..๏ ร่ายกระบี่มีซดแล้ว.............โอ้.. สุรา
คงมิแคล้วพรรณนา..................รจน์ร้อย
กระบี่ใจพลิกไหวครา...............เอี้ยวหยิบ
ยกจอกดื่มลืมคล้อย.................โศกพ้นชั่วยาม ๚ะ๛