9 มิถุนายน 2548 07:45 น.
อัลมิตรา
..๏ มีอำนาจบาตรใหญ่ใช้คำสั่ง
จึงแต่งตั้งให้ดำรงตรงหน้าที่
สร้างผลงานนโยบายให้เด่นดี.
ครองตำแหน่งรัฐมนตรีที่เลิศเลอ
เจ๋งครับพี่,ดีครับนาย,ได้ครับผม
ช่างเหมาะสมครับท่าน,ดูหวานเสมอ
ล้วนประเคนน้ำคำนำปรนเปรอ
หากพลั้งเผลองานพลาดอาจเด้งพลัน
ครั้นโองการสะท้านฟ้ามาฟาดใส่
ต้องถูกไล่จากยศศักดิ์ที่รักฝัน
ถูกลงโทษตราหน้ามารับทัณฑ์
ผลลัพธ์อันผิดพลาดมิอาจอภัย
ต้องถูกแขวนแขนขามัดตราสัง
ด้วยความหวังลางเลือนสิ้นเงื่อนไข
เสร็จจากนาฆ่าโคถึกนึกเศร้าใจ
เสร็จศึกไยฆ่าแม่ทัพดับชีวี
ดั่งเป็ดไก่รอมีดมากรีดตัว
แม้นหวาดกลัวเพียงใดใคร่หลบหนี
ต้องอับจนหนทางช่างโศกี
ฤๅความดีเก่าก่อนไม่ย้อนมา
ทุ่มเททั้งพลังกายหมายสืบสาน
สร้างผลงานด้วยตระหนักแม้นหนักหนา
แสนเหนื่อยใจอ่อนแรงและโรยรา
กลับต้องมารับโทษทัณฑ์ดาบบั่นคอ ๚ะ๛
8 มิถุนายน 2548 08:12 น.
อัลมิตรา
..๏ อิฐหินดินมากก้อน.......ในปฐพี
หมายคัดแต่มวลมณี...........เพริศแก้ว
มือกอบเก็บหินสี................ดาษดื่น
จักพบรัตนชาติแพร้ว...........มากน้อยเพียงใด ? ฯ
..๏ คัดสรรหินใหญ่น้อย....นานา
เพียงจิตยังปรารถนา.........เช่นนั้น
ปรากฏสิ่งลวงตา...............ดารดาษ
ฤๅอวิชชาปิดกั้น..............หลอกให้ใจประสงค์ ฯ
..๏ กอบเก็บจนเล็บช้ำ......มือระบม
ยังขุดเจาะหมายชม..........เก็จแก้ว
แสนเหน็ดเหนื่อยบ่สม.....ดังใฝ่
พบแต่เศษหินแล้ว............หลากล้วนกองพะเนิน ฯ
..๏ อิดโรยใจอ่อนล้า........เกินประมาณ
เสียเรี่ยวแรงกับกาล..........ผ่านพ้น
กองหินเศษดินดาน...........กลาดเกลื่อน
หากใคร่ครวญแต่ต้น.........จึ่งแจ้งสัจธรรม ๚ะ๛
6 มิถุนายน 2548 11:48 น.
อัลมิตรา
..๏ หากเธอพร้อมแบกรับภาระนี้
พันธะที่แสนหนักรักเราสอง
เกินกว่าคำมั่นใดใครอื่นมอง
ดั่งเชือกคล้องถักเรียงเยี่ยงหัวใจ
เหนือกว่าคำสัญญาคราเคยขาน
เหนือกว่ารักวันวานพบพานได้
เหนือกว่าค่าทรัพย์สินเคยสิ้นไป
เหนือกว่าใครคนก่อนย้อนกล่าวมี
สิ่งที่เธอฝากไว้นัยพันธะ
ย้ำว่าจะมอบใจให้ฉันนี่
ขอตอบแทนความรักและภักดี
ด้วยการพลีหัวใจมอบให้คืน
เพราะรักนี้สูงค่ากว่าภาระ
เพราะรักคือพันธะสัจจะยื่น
เพราะรักผ่านเรื่องร้าวคราววานซืน
เพราะรักเราจะหยัดยืนชื่นนิรันดร์ ๚ะ๛
3 มิถุนายน 2548 07:56 น.
อัลมิตรา
..๏ บทบาทอาจแต่งแต้ม............เติมตัว
บ้างปิดตาฝ้ามัว..........................เกร่อล้น
สวมหน้ากากเพราะกลัว-.............ปรากฏ กายแฮ
เก็บกักสิ่งอยู่ก้น-.........................จิตไว้ฉากหลัง ๚
..๏ ดีงามความชั่วร้าย................เริงละเลง
เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเลบง.....บ่นบ้า
หัวเราะร่าอลเวง........................ระแวงหวาด- กลัวเฮย
ครวญคร่ำนำเสนอหน้า.............ขนาดนั้นเป็นไฉน ? ๚
..๏ สรรพสิ่งซับซ้อนซ่อน........สุมทรวง
ลึกลับเล่ห์ร้ายลวง....................รุกล้ำ
หักหาญหากหึงหวง.................ฮึดฮัด
อุกอาจ-อึดอัดอ้ำ......................โอ่อ้างเอียงอาย ๚
..๏ จุดจบพบสิ่งเพี้ยง.............สัจธรรม
ดีชั่วตัวขาวดำ..........................ถ่องแท้
คงหมดกฎเกณฑ์นำ...............คำพากย์
ความสุขทุกข์ชนะแพ้..............ต่างต้องกองสุม ๚ะ๛
2 มิถุนายน 2548 12:18 น.
อัลมิตรา
..๏ ยามข้างแรมแสงจันทร์พลันดับหาย
คืนเพ็ญฉายทอภาพฉาบรังสี
กระต่ายจ้อยเหม่อหาทุกนาที
หวังไมตรีจากสรวงร่วงสู่ดิน
เฝ้าพร่ำเพ้อรำพันจันทร์เจ้าเอ๋ย
..อย่าเมินเฉยเวทนาข้าฯสูญสิ้น
ขอเพียงเศษเสี้ยวในใจยุพิน
สมานรักที่พังภินท์พลิกวิญญ์คืน..
จันทร์เจ้าตอบกลับไปด้วยใจช้ำ
..เราฤๅทำแสร้งใครให้ขมขื่น
เจ้าหลงรูปจูบเงาเมาตามืน
ใช่เราขืนขู่เจ้าให้เฝ้ามอง..
เพราะเดือนเด่นงามสง่าบนฟ้ากว้าง
กลับเคว้งคว้างแม้มากมายหลายคนจ้อง
ทั้งประกายดวงดาวพราวประคอง
แต่แสงจันทร์ที่ส่องใช่ของตัว
จงปลดโศกให้หายกระต่ายจ้อย
การรอคอยแสงริบหรี่ที่สลัว
อาจสมปองสมใจได้พันพัว
ดีกว่ามัวรอจันทร์...ฝันไม่จริง ๚ะ๛