31 มกราคม 2548 23:39 น.
อัลมิตรา
..๏ อย่าหลับจนทับสิทธิ์........หรือเลือกผิดไม่ไตร่ตรอง
ขอให้ไทยทั้งผอง.................โปรดอย่ามองแค่เบอร์ดี
เลือกโจรไปปล้นชาติ............คนอุบาทว์ครองปฐพี
คนไทยไม่เช่นนี้..................เชื่อว่ามีอุดมการณ์ ฯ
..๏ เลือกพรรครักบุคคล.........ต้องสืบค้นเรื่องการงาน
คนดีมีหลักฐาน....................จักสืบสานงานบ้านเมือง
อย่าหลับกับเสียงสิทธิ์...........หรือหลงผิดคิดฝันเฟื่อง
แผ่นป้ายอันเกลื่อนเมือง.......เพียงอ้างเรื่องคำสัญญา ฯ
..๏ พรรคใดใครซื่อตรง...........อีกมั่นคงในปฏิญญา
นโยบายใช่วาจา.....................แค่ปากอ้าโอ้อวดกัน
ฟังแล้วให้เคลิบเคลิ้ม..............จนเราเริ่มวาดความฝัน
นี่คือผู้สำคัญ...........................จักรังสรรค์ด้านความเจริญ ฯ
..๏ น้ำไหลจนไฟดับ..............ลิงเผลอหลับด้วยความเพลิน
การงานและการเงิน...............มากเหลือเกินช่างสมจริง
ประชาธิปไตย........................บันดาลให้ได้สรรพสิ่ง
อำนาจอาจอ้างอิง....................เพื่อช่วงชิงแล้วเชือดเฉือน ฯ
..๏ มีดโกนอาบน้ำผึ้ง.............ปังตอหนึ่งยังเลอะเลือน
พี่น้องอีกผองเพื่อน................ยังดูเหมือนภาพลวงตา
เห็นใครถูกใจแล้ว..................เดินเข้าแถวเข้าคูหา
พรรคใดให้พิจารณา...............อย่าขายผ้าเอาหน้ารอด ๚ะ๛
18 มกราคม 2548 15:52 น.
อัลมิตรา
..๏ มีคำตอบมากมายหมายให้ถาม
จะตอบตามหัวข้อเพื่อล้อเขียน
หนึ่งปุจฉาหนึ่งบทกฎความเพียร
เชิญเพื่อนเวียนฝากไว้ในคำกลอน ๚ะ๛
ตัวอย่าง ๑ คำถาม ต่อ ๑ บท
ปุจฉา ..
คือบันทึกบรรทัดความอัดอั้น
เสียงเย้ยหยันเหยียดหยามยังตามหลอน
อยากแหกกฏฉันทลักษณ์หักใจคอน
เชิงยังอ่อนตะแบงไปอย่างไรดี
วิสัชนา..
ฉันทลักษณ์ร่างไว้ให้ยึดถือ
กฎก็คือข้อบัญญัติจัดตามที่
หากอ่อนหัดควรขยันหมั่นเพียรมี
อย่าเพิ่งตีคำประณามว่าหยามตน
15 มกราคม 2548 21:23 น.
อัลมิตรา
ปาเจราจริยา โหนติ คุณุตตรานุสาสกา
ข้าฯขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์
ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา
ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา
แก่ข้าฯในกาลปัจจุบัน
ข้าฯขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์
ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา
ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน
อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี
แก่ข้าฯและประเทศไทย เทอญฯ
ปญญาวุฑฒิกเร เต เต ทินโนวาเทนมามิห
.๏ ปาเจราจริยาโหนติ
เป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒน์ผล
บังเกิดจิตกตัญญูรู้บัดดล
ว่ามีคนผู้หนึ่งซึ่งหวังดี
ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นเค้นคำสอน
บ้างพร่ำวอนเขียนอ่านขมันขมี
เมื่อเติบใหญ่ให้ตั้งตนเป็นคนดี
คนผู้นี้คือครู...ผู้ค้ำจุน
คุณุตตรานุสาสกา
ขับขานคราครั้งใดใจอบอุ่น
ถ้อยสำเนียงน้ำคำสำนึกคุณ
ผู้การุณประสาทสิทธิ์วิทยา
สิ่งชั่วดีมีอยู่ให้รู้แจ้ง
ต่างแจกแจงให้ตรองมองปัญหา
บ้างชี้แนะแนวทางสร้างปัญญา
ให้ค้นหาเหตุผลจนได้ดี
น้อมเทียนแพรพานทองประคองเข้า
รวบรวมเอาสิ่งล้ำจำเริญศรี
ทั้งหญ้าแพรกดอกมะเขือเจือปนมี
ดอกเข็มที่งามดอกข้าวตอกตาม
สิ่งมงคลทั้งมวลล้วนกำหนด
น้อมประณตกิริยาวาจาสาม
ดวงจิตตั้งกตัญญูอยู่ทุกยาม
หมายแสดงความบูชาครูอาจารย์
ด้วยเดชากตัญญูอยู่เป็นนิจ
จงสัมฤทธิ์อิฐผลจนแตกฉาน
มีปัญญาแจ่มแจ้งแห่งปฏิภาณ
กอรปกิจการงานใดให้จำเริญ
มีปัญญารักษาตนให้พ้นทุกข์
มีความสุขท่วมท้นคนสรรเสริญ
แม้นพบกับปัญหากล้าเผชิญ
สุดประเมินฤๅพรรนา...ค่าคุณครู ๚ะ๛
14 มกราคม 2548 08:27 น.
อัลมิตรา
...โอ้แสงดาวพราวใสกลางใจฟ้า
...ดังดวงตาสุกใสใครคนหนึ่ง
...ใครคนที่มีเราเฝ้าคะนึง
...ฝากใจซึ้งแอบแฝงในแสงดาว
..๏ พรายแสงแรงเรื่อแล้..........กลางนภา
ปานประหนึ่งนัยตา.................แห่งเจ้า
หัวใจใคร่คะนึงหา...................บ่สร่าง
ยังฝากดาวเดือนเฝ้า................กล่อมน้องแทนเผือ* ฯ
...ในคืนคราฟ้าหนาวปวดร้าวจิต
...ความใกล้ชิดช่วยคลายให้หายหนาว
...ความอาทรสอนสุขให้ทุกคราว
...รอนรวดร้าวให้หายมลายเลือน
..๏ บางคืนทนปวดร้าว...........หนาวใจ
หวังนุชซึ่งห่างไกล.................จักรู้
บรรดาเรื่องราวใด...................แฝงอยู่ เสมอนา
หมายบอกกล่าวแด่ผู้...............อยู่บ้านกลางกรุง ฯ
...มีดวงใจใฝ่ถึงให้ซึ้งซาบ
...คิดถึงตราบสิ้นใจหาใดเหมือน
...ลมหายใจใฝ่ชิดย้ำติดเตือน
...ความห่วงใยย้ำเยือนมิเลือนลับ
..๏ ดวงใจใครกู่ก้อง................คำหวาน แม่เอย
ยังคิดถึงวันวาร.......................เก่านั้น
ลมเพรียกแผ่วแว่วปาน............บทเสนาะ
ความห่วงใยบีบคั้น.................จิตให้คนึงหา ฯ
...เดือนบรรเลงเพลงฟ้ามาให้ฝัน
...โลมคืนวันสดชื่นให้คืนกลับ
...ความห่วงใยใฝ่ถึงซึ้งเกินนับ
...รับแล้วรับสุขล้นท้นหัวใจ
..๏ เดือนดาวราวกล่อมด้วย......บทกวี
จงหลับใหลฝันดี....................จวบแจ้ง
ยังฝันใฝ่ไมตรี........................ดังเก่า แม่เอย
น้อมรับไม่เสแสร้ง...................หลอกให้ใจหมอง ฯ
...คืนแสงดาวพราวช่วงในห้วงฟ้า
...คืนที่หล้ารับรสความสดใส
...เป็นสัญญาณขานถามความห่วงใย
...คิดถึงใครคนนั้นทุกวันคืน
..๏ รัตติกาลจันทร์แจ่มจ้า.........นภาพราว
มวลหมู่ดาราราว......................ระรื่นแล้
สัญญากับเดือนดาว.................พราวพร่าง
ยังมั่นคงแน่แท้.......................ตราบฟ้าดินสลาย ๚ะ๛
( กลอน..carot โคลง..อัลมิตรา )
13 มกราคม 2548 09:09 น.
อัลมิตรา
..๏ น้ำเอ๋ยน้ำใจ
สวยใสล้ำค่าสมานฉันท์
จากจิตโอบเอื้อเกื้อกูลกัน
ผูกพันธ์เปี่ยมพลังด้วยหวังดี
ปานฝนทิพย์พรมให้ร่มรื่น
ดินชุ่มฟ้าชื้นทั่วพื้นที่
ปัดทุกข์ป้องภัยในปฐพี
เพื่อที่ประสบสุขทุกผู้คน
ไม่มีผู้ใดใครบังคับ
พร้อมสรรพศักดิ์สิทธิ์อิฐผล
เย็นใสบริสุทธิ์ดุจพุทธมนต์
บันดาลดลเกษมและเปรมปรีดิ์
สายธารน้ำใจไทยทั้งชาติ
มุ่งมาดมอบสุขทุกน้องพี่
จากจิตเมตตาปรารถนาดี
ให้มีความสุขทุกคนเอย ๚ะ๛
( กลอนดอกสร้อย )