29 กุมภาพันธ์ 2547 01:34 น.
อัลมิตรา
..๏ เริ่มจากสองดวงใจอันหมายมั่น
ร่วมสร้างสรรค์สิ่งงามตามปรารถนา
แล้วร้อยรักถักไมตรีร่วมชีวา
หลอมอุราเป็นหนึ่งซึ่งผูกพัน
อยู่ครองคู่เคียงกันในบ้านน้อย
ต่างหมั่นคอยรักษาสมานฉันท์
มากความรักน้ำใจมีให้กัน
ร่วมแบ่งปันความสุขทุกวันคืน
แว่วคำหวานไพเราะเสนาะหู
ผ่านไปสู่หัวใจให้สดชื่น
เพรียกกังวานดั่งรักนี้ที่ยั่งยืน
ยามขมขื่นยังมอบคำปลอบใจ
ต่างเป็นที่ปรึกษาคราเหนื่อยอ่อน
แม้นรุ่มร้อนสับสนจนหวั่นไหว
ทุกถ้อยคำล้ำค่าเยียวยาใจ
ผ่านพ้นภัยวิกฤติการณ์อย่างมั่นคง
ต่างเกื้อกูลประกอบกิจดังจิตหวัง
ล้วนเป็นดังมุ่งมั่นพลันสมประสงค์
ร่วมก่อร่างสร้างตนจนมั่นคง
ด้วยจิตส่งรักเสริมเติมเรี่ยวแรง
แม้เคยพลาดพลั้งไปในบางครั้ง
หมดความหวังเปรียบตะวันอันยอแสง
ยังพร้อมภักดิ์ประสานใจไม่เปลี่ยนแปลง
จวบจนแกร่งพ้นภัยในบัดดล
ผ่านคืนวันเดือนปียังมีรัก
แจ้งประจักษ์เข้าใจในเหตุผล
เพียรสานถักสายสร้อยร้อยกมล
อย่างเปี่ยมล้นมิตรภาพตราบนิรันดร์
อยู่ร่มเย็นเป็นสุขทุกค่ำเช้า
มีสองเราครองคู่ดูสุขสันต์
ภายในบ้านหลังนี้ที่ผูกพัน
อยู่เคียงกันสมัครสมาน รักมั่นคง ๚ะ๛
27 กุมภาพันธ์ 2547 09:53 น.
อัลมิตรา
...บางคนเรียกว่าเริ่มต้น
...บางคนเรียกว่าการหนีปัญหา
...การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
...เป็นการยากยิ่งเหลือเกินที่จะกระทำ
...ในสภาวะความเป็นตัวตน และพันธะภาระต่างๆที่พันธนาการข้าฯไว้
...ข้าฯจำยอมรับกับความเป็นจริง ว่า..
...ต้องขมขื่น และกล้ำกลืน อดทน อดกลั้น อย่างสุดกำลัง
...กาลที่ผ่านมา เพียงพอแล้วหรือยังที่ใจต้องบอบช้ำ ใครจักตอบได้
...และเบื้องหน้าจะเป็นเช่นไร ใครจะรู้อีกเช่นกัน
...เพียงความหวังเดียวที่ริบหรี่ ณ อีกฝั่งฟาก
...ก็ยังอยากจะพาหัวใจตนเองให้บินไปให้ถึง
...ข้าฯจะบิน ...แต่ข้าฯก็ไม่รู้ว่า
...แรงเพียงน้อยนิดของข้าฯ จะพาข้าฯไปส่งยังปลายทางได้หรือไม่
...ข้าฯอาจปีกหัก พลัดตกลงกลางทาง และดับสูญ
...ไปไม่ถึงถิ่นที่วาดหวังไว้
...ข้าฯอาจจะไปถึงโดยสภาพของผู้ที่ยับเยินบาดเจ็บ
...และถึงแม้ข้าฯจะถึงจุดหมายปลายทาง
...แต่ข้าฯ ก็มิอาจรู้ด้วยซ้ำไปว่า .. ณ สถานแห่งนั้น จะต้อนรับข้าฯไหม
...แต่กระนั้นเถอะ ถ้าไม่เริ่มก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
...ข้าฯรู้ว่า การเริ่มก็คือ การก้าว..ก้าวแรก ซึ่งเป็นก้าวที่ยากที่สุด
...ถ้าข้าฯมัวแต่ขลาดกลัว ข้าฯก็จะไปไม่ถึงสิ่งที่ข้าฯตั้งใจ
...แค่เพียงใครสักคน เป็นกำลังใจให้ข้าฯ
...แค่คำปลอบโยนของใครสักคน ที่ประคับประคองข้าฯยามข้าฯอ่อนล้า
...เพียงเท่านั้น .. ข้าฯ..พร้อมจะบิน
มีไหม..ใครสักคนข้าฯค้นหา
จิตเมตตาเอ็นดูผู้ทุกข์ถม
ท่ามกลางโลกโศกเศร้าเคล้าระทม
กลับรื่นรมย์จากล้าระอาแรง
25 กุมภาพันธ์ 2547 12:41 น.
อัลมิตรา
จะเหมือนเดิมหรือเปล่า ... เราอยากรู้
คลอเคียงคู่ขานขับ ... รับกลอนหวาน
จะเหมือนเดิมหรือเปล่า ... ดั่งวันวาน
ร่วมร้อยกานท์เรียงใจ ... คล้ายเดิมๆ
อย่าห่างหายไปบ้าง ... อย่างที่เห็น
มาหลบเร้นเลี่ยงกัน ... สัมพันธ์เสริม
หากเวลาผ่านไป ... ไร้ต่อเติม
ยากจะเพิ่มสิเหน่หา .. ว่าอาลัย
ฤๅจะเป็นเพียงเรา .. เฝ้าครุ่นคิด
ห่วงดวงจิตคนหนึ่ง ... ซึ่งหวั่นไหว
เวลาล่วงเลยเปลี่ยน ... หมุนเวียนไป
หวาดดวงใจระทม ... ตรมติดตาม
อยากจะให้เหมือนเดิม ... ได้หรือเปล่า
อย่าให้เศร้าเลยนะ ... จะขอถาม
ลืมรักเราหรือไร ... ในนิยาม
ไยหักห้ามมิเป็นไป ... ให้เหมือนเดิม
24 กุมภาพันธ์ 2547 16:38 น.
อัลมิตรา
..๏ เตรงเตรงเตรงเตร่งเตร้ง..............เตรงเตรง
เตรงเตร่งเตรงเตรงเตรง...................เตร่งเตร้ง
เตรงเตรงเตร่งเตรงเตรง...................เตรงเตร่ง เตรงเตรง
เตรงเตร่งเตรงเตรงเตร้ง...................เต่งเตร้งเตรงเตรง ๚
..๏ เสียงเสนาะสนั่นทั้ง..................ธรณี
คร่ำเคร่งขมันขมี...........................ขยับย้าย
ท่วงถนัดทะนงมี...........................มือทะมัด- ทะแมงเฮย
ฤๅกระแทกกระทั้นคล้าย................บอกใบ้ไฉนหนอ ๚
..๏ รุนแรงแลเร่งเร้า.......................อารมณ์
หวานแว่วเปรียบฝนพรม................ผ่านฟ้า
ร้อนฤๅเร่าเริงรมย์..........................หลายหลาก
คงสื่อความแกร่งกล้า......................จากไม้กระทบกัน ๚
..๏ สดับเพลงไพเราะเพี้ยง...............เสียงสวรรค์
ระนาดเอกช่างเสกสรรค์...................เสนาะแท้
บรรเลงเก่งฉกาจฉกรรจ์...................ช่างกระฉับ- กระเฉงเฮย
ปานทิพยดุริยางค์แล้......................โสตซึ้งคีตศิลป์ ๚ะ๛
24 กุมภาพันธ์ 2547 10:44 น.
อัลมิตรา
เมื่อเธอคิดตัดใจไปจากฉัน
ความผูกพันแปรกลับ..ลับสลาย
ก็จะไม่ทักท้วงห่วงเสียดาย
รักมาคลายก็มิบ่น..ทนกล้ำกลืน
หักดิบรัก..ริบหรี่ที่ปลายฟ้า
หักใจลา..ระทมสุดข่มฝืน
หักสวาท..นาฏน้องมิปองคืน
หักอาลัย..กลั้นสะอื้นรื้นน้ำตา
แม้โดดเดี่ยวเดียวดายใต้โลกกว้าง
แลเคว้งคว้างลำพังอย่างไร้ค่า
ขาดคนรักภักดีที่เคยมา
ยังดีกว่าจำยอมความตรอมใจ
ขอตัดสายใยสวาทขาดครานี้
ก่อนลุกลามเกินที่จะตัดไหว
หักดิบรัก..อาจปวดร้าวรวดใจ
ดีกว่าต้องร่ำไห้..ไปชั่วกัลป์