29 ธันวาคม 2547 23:09 น.
อัลมิตรา
..๏ โอ้คลื่นวิปโยค......มาพร้อมความโศก......กรรโชกบีฑา
มาพรากชีวิต............มาปลิดชีวา.................ไร้ความเมตตา
ไม่มาปราณี
พลัดพรากจากกัน......ครวญคร่ำรำพัน...........อกสั่นขวัญหนี
คลื่นซ้ำกรรมส่ง.........จมลงวารี.....................กลืนกินชีวี
ย่ำยีจิตใจ
ร่างน้อยคล้อยจาก.......ร่างใหญ่ไกลพราก......เอ่ยปากร่ำไห้
ภาพชัดบาดตา...........โศกาอาลัย..................แสนช้ำร่ำไร
ยังใจอาดูร
คำรามย้ำก้อง.............คลื่นคลั่งลำพอง...........พี่น้องสาบสูญ
พ่อแม่แลลับ..............ศพกลับเพิ่มพูน...........มากมีทวีคูณ
ดับสูญเพิ่มเติม ฯ
..๏ พระแม่คงคา..........โมโหโกรธา.............ฤๅว่าฮึกเหิม
ลูกไร้ความผิด.............ไยคิดช้ำเติม............ก่อนยังส่งเสริม
ไฉนเริ่มทำลาย
บอบช้ำคร่ำครวญ........โอดโอยโหยหวน.......ให้ชวนใจหาย
คลื่นบุกคุกคาม............แฝงความอันตราย......บ้านแตกแยกย้าย
หนีตายพัลวัน
คลื่นแรงคลุ้มคลั่ง.........มากล้ำกำลัง...............ความหวังสิ้นพลัน
หมดสิ้นสินทรัพย์ .........บ้างหลับนิรันดร์.......นอนนิ่งอย่างนั้น
ด้วยมหันตภัยพาล
สูญสิ้นหมดแล้ว..........พ่อแก้วแม่แก้ว..........คลาดแคล้วลูกหลาน
พี่น้องผองเพื่อน.........ไยเหมือนอันตรธาน...ปราศจากหลักฐาน
ทรมานจิตใจ ฯ
.๏ พบร่างวางเกลื่อน....หวาดหวั่นฟั่นเฟือน..เชือดเฉือนหฤทัย
แม้นเผชิญเคราะห์กรรม..กระหน่ำเศร้าใจ........น้ำตาหลั่งไหล
น้ำใจหลั่งมา
ชาวไทยทั้งผอง..........ร้อยใจเกี่ยวดอง.........หมายปองเยียวยา
ทุกผู้ทุกนาม...............คงความปรารถนา.......หมายซับน้ำตา
ด้วยสามัคคี
คลื่นร้ายหายไป..........คงมีคลื่นใจ.................หลั่งไหลแทนที่
พร้อมนำความรัก.........ให้ประจักษ์ไมตรี........แด่ผองน้องพี่
เพื่อที่ปลอบขวัญ
ขอให้เหตุร้าย...............อย่ามาย่างกราย.........ทำลายเช่นนั้น
ให้เป็นแค่ครั้ง..............ดุจดั่งความฝัน.........วันพรุ่งหายพลัน
โศกศัลย์นั้นเทอญ ๚ะ๛
27 ธันวาคม 2547 17:37 น.
อัลมิตรา
..๏ ยามเรื่อสุริเยศเยื้อง..............เยี่ยมโพยม
เพริศพร่างดังบรรโลม...............เรื่อหล้า
เสียงคลื่นดุจประโคม................ขับกล่อม
เทียมทิพย์ดุริยางค์อ้า...............เอ่ยเอื้อนนิจกาล ๚
..๏ ครืนครืนคลื่นซัดซ้ำ...........รอยทราย
ริ้วเลื่อมระลอกพราย..................สุขล้น
น้ำฟ้าเฉกพื้นกลาย...................ประหนึ่งภาพ
วิจิตรดั่งเทพด้น........................เสกสร้างประหนึ่งสรวง ๚
..๏ เสียงคลื่นขรมฟ้าเลื่อง...........คำรน
ดุจมัจจุราชผจญ.......................เข่นซ้ำ
ลมพัดคัดเรือจน.......................ราบล่ม
คลื่นกระแทกกระทบย้ำ.............เยี่ยงให้ดับสูญ ๚
..๏ มหันตคลื่นยักษ์ร้าย............โรมรัน
ชีพมนุษย์สังเวยอนันต์...............อนาถแท้
พรากพ่อ-แม่-ลูกพลัน................โศกสลด
เกลื่อนซากท่วมหาดแล้..............เทวษนี้ที่เห็น ๚ะ๛
คลื่นกระเซ็นเป็นฟองละอองเกล็ด
ดังพลอยเพชรเม็ดงามเกินคำกล่าว
ต้องแสงเรื่องเหลืองทองผ่องแพรวพราว
สุกสกาวดั่งว่าจินดามณี
แล้วทะเลก็ระริกก่อนพลิกผืน
ปลาอานนท์คว่ำครืนคลื่นไล่บี้
ทะยอยโจมโรมรันบั่นชีวี
ขึ้นหาดไหนมนุษย์พลีมหันต์นั้น
26 ธันวาคม 2547 23:06 น.
อัลมิตรา
..๏ ดี...งามนำจิตแผ้ว...........ผ่องใส
ชั่ว...ต่ำทรามนำใจ...............หม่นคล้ำ
อยู่...สงบร่มเย็นใน-..............สุจริต- ธรรมนา
ที่...ชั่วฤาดีล้ำ.......................ใช่อ้างเพียงผิว ๚
..๏ ตัว...ขาวขาวแต่เนื้อ.........นวลกาย
ทำ...ชั่วชั่วพลันขยาย............แผ่กว้าง
สูง...เทียมเมฆอย่าหมาย........อยู่ยั่ง- ยืนนา
ต่ำ...แต่ตัวอยู่บ้าง..................แต่ให้ใจสูง ๚
..๏ อยู่...ดีดีส่งให้..................เห็นผล
ที่...สุจริตมักดล.....................สุขให้
ทำ...ชั่วยิ่งนำตน....................ตกต่ำ
ตัว...กอปรกรรมเวรไว้.............จักต้องตามสนอง ๚ะ๛
23 ธันวาคม 2547 22:19 น.
อัลมิตรา
..๏ ห้วงเวลาพาใจให้รู้สึก
ว่าเจ็บลึกปวดร้าวกว่าคราวไหน
คร่ำครวญถึงคะนึงหาด้วยอาลัย
เคยเคียงใจกลับจากพลัดพรากกัน
คงต้องให้เวลามาเริ่มต้น
หลากเหตุผลเสมือนมีดกรีดใจฉัน
จึงรู้แจ้งเห็นจริงสิ่งสำคัญ
พร่ำรำพันคำนึงถึงนวลอนงค์
ห้วงเวลาพารักประจักษ์จิต
หมายแนบชิดอีกครั้งดั่งประสงค์
ฉันจักอยู่ตรงนั้นเป็นมั่นคง
เพื่อดำรงปฏิญญาอีกคราครั้ง
รักเท่านั้นพลันนำพาคว้าเธอกลับ
ให้ยอมรับเรื่องราวคราวหนหลัง
อย่าปล่อยฉันชอกช้ำเพียงลำพัง
ตัวฉันยังคอยตรงนั้นตราบวันตาย
โอ้ที่รักตระหนักพลันฉันต้องสู้
แม้หดหู่บางครั้งดั่งใจสลาย
ยังรักเธอตลอดไปไม่เสื่อมคลาย
จึงมุ่งหมายให้กลับมาอีกคราครั้ง
ฉันจักขอรอคอยไม่ถอยหนี
แม้นไม่มีสิ่งใดให้คาดหวัง
อย่าปล่อยฉันชอกช้ำเพียงลำพัง
ตัวฉันยังคอยตรงนั้นนิรันดร
รักเท่านั้นพลันนำพาคว้าเธอกลับ
ให้ยอมรับเรื่องราวคราวครั้งก่อน
อย่าปล่อยฉันชอกช้ำขอพร่ำวอน
โปรดใจอ่อนกลับมาอีกคราครั้ง
ฉันจักขอรอคอยไม่ถอยหนี
แม้นไม่มีสิ่งใดให้คาดหวัง
อย่าปล่อยฉันชอกช้ำเพียงลำพัง
ตัวฉันยังคอยตรงนั้นนิรันดร์กาล
หากสองเราเฝ้าคะนึงถึงเรื่องเก่า
ครั้งเมื่อเราร่วมรักสมัครสมาน
สิ่งใดที่ทำให้ใจทรมาน
จักทัดทานพากเพียรเพื่อเปลี่ยนแปลง-
ซึ่งศักดิ์ศรีที่กั้นมั่นคงอยู่
ไตร่ตรองดูอัตตาอันกล้าแกร่ง
เกียรติปรากฏยศศักดิ์มักแข็งแรง
เป็นกำแพงแกร่งกั้นคั่นขวางเรา
จนมิอาจปรารถนาถ้าปีนป่าย
หวังทำลายด้วยกำลังดั่งโง่เขลา
ฤาบาปกรรมเหยียบย่ำซ้ำเติมเรา
ให้โศกเศร้าสิ้นหวังนั่งปวดใจ
มิอาจผ่านปราการอันแกร่งกล้า
ครั้นเสาะหาหนทางดั่งบอดใบ้
หมดปัญญาปีนป่ายหมายข้ามไป
โอ้ดวงใจอย่าโกรธโปรดปราณี
มอบแนวทางสร้างเสริมเติมความรัก
เพื่อสานถักรักเราให้เข้าที่
แสนมืดมนจนใจไร้วิธี
แม้นหวังมีสายสัมพันธ์มั่นอีกครา
ฉันรักเธอเสมอแน่ไม่แปรผัน
ยังผูกพันธ์ไม่สิ้นถวิลหา
พยายามหากคนดีมีเมตตา
อย่าร้างลาจากไกลให้ตรอมตรม
จงมั่นใจในรักอีกสักครั้ง
ด้วยฉันยังหวังชิดสนิทสนม
ยามไม่มีเธอใกล้ใจระทม
สุดขื่นขมชอกช้ำโดยลำพัง
ฉันจักขอรอคอยไม่ถอยหนี
แม้นไม่มีสิ่งใดให้คาดหวัง
อย่าปล่อยฉันชอกช้ำเพียงลำพัง
ตัวฉันยังคอยตรงนั้นนิรันดร
รักเราสองต้องถนอมอย่ายอมให้-
ถูกผู้ใดหมายปองครอบครองก่อน
หากเธอโยนรักทิ้งยิ่งอาวรณ์
ดั่งบั่นทอนให้ช้ำเพียงลำพัง
ฉันจักขอรอคอยไม่ถอยหนี
แม้นไม่มีสิ่งใดให้คาดหวัง
อย่าปล่อยฉันชอกช้ำเพียงลำพัง
ตัวฉันยังคอยตรงนั้นนิรันดร์กาล
หากสองเราเฝ้าคะนึงถึงเรื่องเก่า
ครั้งเมื่อเราร่วมรักสมัครสมาน
สิ่งใดที่ทำให้ใจทรมาน
จักทัดทานพากเพียรเพื่อเปลี่ยนแปลง-
ซึ่งศักดิ์ศรีที่กั้นมั่นคงอยู่
ไตร่ตรองดูอัตตาแสนกล้าแกร่ง
เกียรติปรากฏยศศักดิ์มักแข็งแรง
เป็นกำแพงแกร่งกั้นคั่นขวางเรา
จนมิอาจปรารถนาถ้าปีนป่าย
หวังทำลายด้วยกำลังดั่งโง่เขลา
ฤาบาปกรรมเหยียบย่ำซ้ำเติมเรา
ให้โศกเศร้าสิ้นหวังนั่งปวดใจ
มิอาจผ่านปราการอันแกร่งกล้า
ครั้นเสาะหาหนทางดั่งบอดใบ้
หมดปัญญาปีนป่ายหมายข้ามไป
โอ้ดวงใจอย่าโกรธโปรดปราณี
มอบแนวทางสร้างเสริมเติมความรัก
เพื่อสานถักรักเราให้เข้าที่
แสนมืดมนจนใจไร้วิธี
แม้นหวังมีสายสัมพันธ์มั่นอีกครา
ฉันรักเธอเสมอแน่ไม่แปรผัน
ยังผูกพันธ์ไม่สิ้นเฝ้าถวิลหา
พยายามเถิดที่รักอีกสักครา
แสนโศกาหากเธอนั้นพลันเปลี่ยนแปลง
.
อันศักดิ์ศรีที่กั้นมั่นคงแท้
ตระหง่านแลดั่งอัตตาอันกล้าแกร่ง
เกียรติปรากฏยศศักดิ์มักแข็งแรง
เป็นกำแพงแกร่งกั้นคั่นขวางเรา
จนมิอาจปรารถนาถ้าปีนป่าย
หวังทำลายด้วยกำลังดั่งโง่เขลา
ฤาบาปกรรมเหยียบย่ำซ้ำเติมเรา
ให้โศกเศร้าสิ้นหวังนั่งปวดใจ
มิอาจผ่านปราการอันแกร่งกล้า
ครั้นเสาะหาหนทางดั่งบอดใบ้
หมดปัญญาปีนป่ายหมายข้ามไป
โอ้ดวงใจอย่าโกรธโปรดปราณี
มอบหนทางสร้างเสริมเติมความรัก
เพื่อสานถักรักเราให้เข้าที่
แสนมืดมนจนใจไร้วิธี
แม้นหวังมีสายสัมพันธ์มั่นอีกครา
เคยเหยียบซ้ำย่ำใจให้เธอเศร้า
อยากคุกเข่าขอโทษโปรดเถิดหนา
รู้ว่าเธอบอบช้ำคร่ำครวญมา
วิงวอนว่าโปรดอภัยเห็นใจกัน
เพียงเธอให้ไมตรีสิเนหา-
อีกปรารถนาเพียงให้เชื่อใจฉัน
เปิดโอกาสให้เริ่มเพิ่มสัมพันธ์
จักคงมั่นตลอดไปไม่เสื่อมคลาย
ร่วมร้อยเรียงเคียงใจไม่หวาดหวั่น
ตราบถึงวันโลกสิ้นฟ้าดินสลาย
จักรักเธอเสมอมั่นตราบวันตาย
เป็นความหมายให้ประจักษ์ยังรักเธอ ๚ะ๛
อ ย า ก ใ ห้ รู้ อี ก ค รั้ ง ฉั น ยั ง รั ก เ ธ อ
อ ย า ก ใ ห้ รู้ อ ยู่ เ ส ม อ รั ก เ ธ อ มิ ค ล า ย
23 ธันวาคม 2547 12:16 น.
อัลมิตรา
..๏ แสนเบื่อหน่ายเหลือเกินแทบเดินหนี
หลบงานที่มาสุม ฮ่วย ! กลุ้มหลาย
เขียนโปรแกรมนานนักชักตาลาย
โธ่เจ้านาย..ไร้เมตตาโคตรทารุณ
เงินเดือนน้อยงานหนักกระอักแน่
ทุกข์ย่ำแย่ยากไร้..ใครเกื้อหนุน
หวังเศษเงินร้อยล้านเจือจานทุน
ถ้าเป็นหุ้นถึงให้ก็ไม่เอา ..ฮะ ฮ้า ..
โอ๊ย ! อ่านกันมากมาย อุ๊ย ! ตายแล้ว
เพื่อนมาแซวกันแยะ แหะ ! อายเขา
ก็แค่เขียนหวังสนุกทุกข์บรรเทา
ดีกว่านั่งซากเน่าเฝ้าหน้าจอ ๚ะ๛