4 กันยายน 2546 10:00 น.
อัลมิตรา
...๑...
.....ยุคผันกาลล่วงสิ้น..................มิลลา- เนี่ยมเฮย
พันขวบควบสองครา...................กว่าแล้ว
ลืมศกนักษัตรพา........................วิปลาส
หลงศักราชแคล้ว........................คลาดร้างปีเถลิง ๚
...๒...
.....ป่าพงษ์คงรกร้าง...................พนาสูญ
คอนกรีตอิฐโบกปูน....................วุ่นแท้
ไพรวัลย์ไป่กอปรกูล...................หนุนปักษ์ รักษ์ฤา
เตียนโล่งคงตึกแพ้-....................พ่ายแล้วแนวไพร ๚
...๓...
.....สูงเสียดเอียดเบียดฟ้า............มหรรณพ์หาว
ดาษดื่นยืนวับวาว......................สกาวตั้ง
คอนโดฯ โด่เกรียวกราว..............โดดเด่น- ดุลย์นา
ดังสวรรคโลกยั้ง........................ฝั่งฟ้านภาลัย ๚
...๔...
.....มธุรพจน์บทหนุ่มน้อย...........กลอยใจ
เทียมมาดเจมบอนด์ไทย.............ใคร่เฟี้ยว
ลึกลับสลับไกล-..........................กลายหนุ่ม- นาเฮย
แปลงเช่นเป็นคนเฮี้ยว.................ฮาร์เล้ย์เดวิดสัน ๚
...๕...
.....เอวองค์ทรงแช่มช้อย..............คอยแฟน
สวมใส่ลีวายส์แทน......................โสร่งผ้า
เวอร์ซาเช่เรย์แบนด์....................แสนเท่ห์
เกิบ*เลือกมาร์ตินคว้า-.................ด๊อกเต้อร์เลอแพง ๚
...๖...
.....เพ-ลาคราเคลื่อนแคล้ว...........ปานใด
โอริสติดแขนไป.........................ใส่ซ้าย
แหวนงามอร่ามไพ-.....................ลินเรื่อ เรืองแฮ
ผมหล่อเงางามคล้าย...................ใส่แต้มแจมเจล ๚
...๗...
.....โมบายด์หมายพกไว้...............มายโฟน
ของเก่าเราจับโยน.......................ร่วงน้ำ
ใหม่เฉียบเรียบเนี๊ยบโอน-............สนท์ง่าย สบายแฮ
ติดต่อฉอเลาะย้ำ.........................พร่ำได้คลายถวิล ๚
...๘...
.....เครดิตติดบัตรบ้าง.................ดังหมาย
วีซ่าบัวหลันหลาย.......................หลากพ้อง
รถเครื่องรีบเกียกกาย..................ไหลลื่น
มาตรมุ่งผดุงคล้อง.....................ย่องใกล้กัลยา ๚
...๙...
.....สับสนคนคั่งค้า.....................จราจร
รีบเร่งเกรงงามงอน.....................ค่อนบึ้ง
เข็มไมล์ส่ายไหวคลอน.................ตอนเหยียบ ทะยานนา
ควบบึ่งโปลิสอึ้ง..........................บึ่งใกล้สลายโต๋ ๚
...๑๐...
.....หลงเพลินเกินเกริ่นแล้ว..........เราเหวย
พลาดผละจะชวดเชย..................ชื่นช้อง
ผิดนัดสิคลาดเขย.......................เกยหง่าว- นอนนา
จำเร่งเกรงใครจ้อง......................ย่องเกี้ยวดรุณงาม ๚
...๑๑...
.....เดียวดายชายหนึ่งผู้...............ยากจน
ปราศเวทย์วิเศษดล.....................กร่นถ้อย
เรียงรจน์พจน์สนน.....................หวานบ่ อนงค์เฮย
เพียงจิตสนิทคล้อย.....................เกี่ยวก้อยคอยเคียง ๚
...๑๒...
.....แดงฉานบานเบ่งแล้ว...............กุหลาบงาม
ชูช่อรอหลายยาม.........................คร่ำแล้ว
มีสลิลลี่ผมถาม............................ตามส่ง- ถึงแม่
มอบมั่นสคราญแพร้ว...................พร่างพริ้มพิมพ์ใจ ๚
...๑๓...
.....เกินคำพิร่ำร้อง.......................รจนา
เกรงกริ่งประวิงครา.......................คลาดคว้าง
เพียงใจสั่งมาหา...........................อนงค์พี่
ขออย่าผละละขว้าง.......................อย่างไร้ไมตรี ๚
...๑๔...
.....แหวนวงตรงบ่งนิ้ว-...................นางเรียว งามเฮย
พลาดมั่นวสันต์เดียว.......................เปลี่ยวแท้
ใจชายพิไรเหลียว...........................เชียวแม่ อนงค์เอย
บวชก่อนเบียดเครียดแล้..................แต่เศร้าเราเหวย ๚ะ๛
3 กันยายน 2546 23:38 น.
อัลมิตรา
...๑...
.....พระจันทร์...พรรณพร่างแพร้ว......แนวมหรรณพ์
ตระหง่านปอง...สนองฉันท์...............ผ่านฟ้า
กระจะส่อง...ผ่องพรรณ....................เพริศพร่าง- พราวแฮ
สิถ่องใจ...ชมคว้า.............................ไขว่เอื้อมโสมสะคราญ ๚
...๒...
.....พินิจ...คิดอาจโน้ม.....................เพ็ญงาม
ประชิดใคร...หมายถาม...................จิตไว้
มนะใคร่...ดรุณงาม........................นวลพี่ ชมนา
มิใช่ชิง...สิงให้...............................สิ่งเร้นเข็ญขม ๚
...๓...
.....อนงค์...คงชื่นยิ้ม......................ยลจันทร์
จะบ่งใด...ดาวพรรณ......................แผกโพ้น
ศศิใหญ่...วลัยวรรณ.......................พิลาสเรื่อ- เรืองฤๅ
จะไขว่จริง...ดาวโน้น......................นี่นั้นจันทรา ๚
...๔...
.....( คัค)คนางค์...หวังเหนี่ยวโน้ม.....โฉมแข
ประพร่างพิง...อาจแล.......................เลื่อมใกล้
มนะยิ่ง...อิงแพร-............................นวลแม่ โอบนา
นะมิ่งนวล...ชวนให้.........................รื่นอ้างรมณีย์ ๚
...๕...
.....โพยม...โหมเคลื่อนห้าม..............แสงเรือง
ขยับยาม...ชำเลือง..........................เขื่องแท้
ขณะย่ำ...ถลำเคือง..........................ทะมึนขุ่น
กระหน่ำรวน...ป่วนแพ้.....................พ่ายฟ้าวสัน- ตฤดู ๚
...๖...
.....สดับ...รับขวัญให้......................คลายหวิว แม่เอย
สลับมวล...ฝนปลิว.........................ลิ่วไล้
รติป่วน...แถวทิว...........................เพรียกทุ่ง แผ่วนา
มิด่วนคืน...ฝืนไข้..........................หากน้องปองเคียง ๚
...๗...
.....วสันต์...สาดซ่านซ้ำ..................เส่าทรวง แม่ฤา
สนั่นนัก...จากสรวง........................ม่านฟ้า
ศศิจัก...ประจักษ์ดวง-.....................จิตดั่ง เดิมเฮย
ละพรากขืน...คืนหม้า......................เปรียบได้ดาวเดือน เยือนใจ ๚
...๘...
.....หทัย...คลายขุ่นแล้ว..................แพรวพราย
สิใคร่ยืน...เคียงกาย.......................กล่าวด้น
มิผละอื่น...โคลงหมาย....................คลายขื่น- ตรมนา
นะชื่นใจ...สุขพ้น...........................พจน์ได้ขยายความ ๚ะ๛