3 พฤษภาคม 2546 21:24 น.
อัลมิตรา
ร่มพวงครามงามนักประจักษ์แล้ว
ปลูกเป็นแนวแถวพุ่มเกาะกลุ่มสวย
เถาเลาะเลื้อยเปลือยกิ่งแอบอิงนวย
ลมระชวยเริงสลับกับใบงาม
กิ่งก้านเล็กเรียวรับหมายจับต้อง
ดุจมือน้องผ่องพรรณอกหวั่นหวาม
ขอบใบเรียวสากมือยามถือตาม
ผันย่ำยามงามแท้ครั้นแลชม
ใบโดดเดี่ยวเขียวขจีรูปรีคู่
กว้างพอดูชูกิ่งพลิ้วพริ้งสม
ดอกม่วงครามล้ำเลอจนเผลอดม
ครั้งลู่ลมช่อห้อยย้อยง่ามใบ
ดูกลีบเลี้ยงเรียงรายโคนชิดเชื่อม
หมายโอบเอื้อมเด็ดดอมจักหอมไหม ?
ปลายดอกแยกแฉกดาวพราวประไพ
งามเหลือใจไขว่คว้าอุราปอง
เกสรมีสี่อันแพร่พันธ์พฤกษ์
ยามตราตรึกนึกถึงคะนึงผอง
เผยความงามห้ามใครหมายเมียงมอง
คงจักต้องตรอมใจหากไป่เชย
ผลติดอยู่คู่ท่อคลอกลีบดอก
มีขนออกหนาแน่นทดแทนเอ๋ย
ดอกสะพรั่งครั้งหนาวทุกคราวเคย
กาลล่วงเลยฤดูแล้งเปลี่ยนแปลงไป
ดอกจักโรยโปรยร่วงเป็นห่วงนัก
อันความรักจักร้างเหิรห่างไหม
ดอกม่วงครามยามหล่นระคนไกล
หากหัวใจอย่าเลือนบิดเบือนกลาย
โอ้คนงามยามชมภิรมย์แล้ว
ดอกม่วงแพร้วครามพลิ้วละลิ่วหาย
พี่กับน้องปองรักมิพรากกาย
ดังความหมายพวงครามยามดอกบาน
3 พฤษภาคม 2546 21:05 น.
อัลมิตรา
คลื่นกระเซ็นเป็นฟองละอองเกล็ด
ดังพลอยเพชรเม็ดงามเกินคำกล่าว
ต้องแสงเรื่องเหลืองทองผ่องแพรวพราว
สุกสกาวราวว่าจินดามณี
บังเกิดรุ้งพุ่งฟ้าเวหาห้วง
ช่างโชติช่วงเฉิดฉันท์พลันแทนที่
เลื่อมระวีเริงระรื่นชื่นฤดี
แสนเปรมปรีด์ที่เยือนมิเลือนลืม ฯ