21 เมษายน 2546 01:28 น.
อัลมิตรา
คงมีเธอเสมอมั่นมิหวั่นไหว
เคียงหัวใจหมายพร่ำย้ำคำหวาน
คอยรับฟังทุกอย่างมิห่างนาน
ยามฟุ้งซ่านปัญหาอ่อนล้าทรวง
เธอช่วยปลอบมอบรักมิพรากหาย
มิเสื่อมคลายในรักดุจมากห่วง
ที่หนักหนาสาหัสบำบัดลวง
ยังคอยควงแขนคู่เอ็นดูกัน
มีรอยยิ้มพริ้มพราวทุกคราวครั้ง
หากใจขังวังวนดุจคนฝัน
ดั่งของรักจักกลายมลายพลัน
ของสำคัญนั้นหายไกลลิบตา
ใจยังหวังยั้งยื้อยึดถือใว้
แต่เกินไขว่มิอาจปรารถนา
เพราะจำเป็นเช่นนั้นประหวั่นครา
ร่ำอุราพลัดพราก...อยากทัดทาน
เกินที่ใจหมายห้ามและย้ำบอก
ยามเธอออกเดินทางดั่งเพลิงผลาญ
ใจก็หายไปพร้อมตรมตรอมนาน
ทรมารยิ่งนักยามจากจร
สิ่งซ่อนเร้นเช่นเพื่อนมาเยือนแล้ว
ช่างกาจแกล้วแน่วแน่มาหลอกหลอน
คือความเหงาร้านรานประหวั่นวอน
ที่หลบซ่อนพลันสิงแอบอิงทรวง
มิได้เชิญเกินใจร่ำไรแล้ว
ยามคลาดแคล้วคนรักมักห่วงหวง
ยังทัดทาน...มั่นมุ่งมือจูงควง
ดุจโดนบ่วงนาคมัด...มิอาจคลาย
ทุกค่ำคืนยืนเฝ้ารบเร้าฟ้า
เดือนดารารัศมีที่ฉานฉาย
อิงโอบกอดพรอดพร่ำเยือนย้ำกราย
ให้สบายใจสุขมิทุกข์ตรม
ที่ร้อนรุ่มกลุ้มใจจงหายพลัน
ที่หนาวสั่นกลับอุ่นเอื้อหนุนห่ม
บอกตะวันพรรณรายชม้ายชม
เพลินภิรมย์เริงร่าสง่างาม
รักษาตัวหัวใจอย่าได้ท้อ
มาวอนขอพจน์พร่ำพิร่ำถาม
หากเบื้องลึกนึกหวั่นใจสั่นตาม
ทุกย่ำยามห่วงใย...มิหายเลย
ใจหวิวหวาดประหลาดนักแสนยากแท้
คนจอแจขวักไขว่กระไรเอ๋ย
น้ำตาไหลใจหล่นเสียจนเคย
สุดอ้างเอ่ยรำพันเป็นวรรณกรรม
เอื้อนสำเนียงเพียงแผ่วแสนแน่วนัก
ยากท้วงทักหักห้ามคนงามขำ
อย่าด่วนพรากจากใจพิไรคำ
จำกลืนกล้ำความคลาด...สุดทัดทาน
ครั้งคราวก่อนเคยงอนมาอ้อนว่า
เธอบ่ายหน้าเฉยชานะตาหวาน
ผลัดกันง้อพอรักประจักษ์นาน
ห้วงวันวานพันผูก...แสนสุขใจ
จากกันไปหมายเพียงมาเคียงข้าง
แท้ยังอ้างหวังพบประสบใกล้
ผ่านวันพรุ่งรุ่งรางดุจหวังใจ
พบกันใหม่หมายแอบเคียงแนบนวล
ยังคำนึงถึงเธอและเพ้อหา
หวังเพียงว่าเกษมศานต์สราญสรวล
รักษาตัวหัวใจและใคร่ครวญ
ทุกสิ่งล้วนสื่อความตามคำชาย...ฯ
(โซโล่..)
ทุกค่ำคืนยืนเฝ้ารบเร้าฟ้า
เดือนดารารัศมีที่ฉานฉาย
อิงโอบกอดพรอดพร่ำเยือนย้ำกราย
ให้สบายใจสุขมิทุกข์ตรม
ที่ร้อนรุ่มกลุ้มใจจงหายพลัน
ที่หนาวสั่นกลับอุ่นเอื้อหนุนห่ม
บอกตะวันพรรณรายชม้ายชม
เพลินภิรมย์เริงร่าสง่างาม
รักษาตัวหัวใจอย่าได้ท้อ
มาวอนขอพจน์พร่ำพิร่ำถาม
หากเบื้องลึกนึกหวั่นใจสั่นตาม
ทุกย่ำยามห่วงใย...มิหายเลย
19 เมษายน 2546 23:02 น.
อัลมิตรา
๑.
.....วาระบทจรมุสู่วิหาร
ระหว่างวิถีและอุทยาน.........................สราญรมย์
แว่วพระพายระรินระรวยประสม
ณ รัตติกาลระรื่นระงม........................ภิรมย์ใจ
พบทหารวิกรานต์เกษมฤทัย
กระฉับกระเฉง เขลงกระไร...................พิไรลม
ข้าพเจ้าพินิจพิเคราะห์ปฐม
พิภพพินาศทลายถล่ม..........................นิยมใด
ปรารถนาประดิษฐ์ประสิทธิ์ไฉน
ณ กาลวิบัติและอายุขัย.........................ผิวายปราณ
โอ้วิมานพิสุทธิ์พิเศษตระหง่าน
ณ ห้วงภวังค์ประทังอุทาร.....................ตระการเกิน
สรรพสิ่งสลายมลายเผชิญ
พระพายกระโชกระหกระเหิน..................ประเมินเหมือน
โปรดประคับประคองมิร้างมิเลือน
ประสิทธิ์ประสาทผดุงเสมือน.................มิเบือนกานท์ ฯ
๒.
.....พึงกระนั้นคะครึ้นระรื่นฤดี
ประสบพิสุทธ์วิมุติศรี...........................สุธีฐาน
เยาวชนผิว์เยี่ยง ณ เคียงพิชาน
ก็เสพและจับประทับผลาน.....................ปริปราณปัน
ย้อนอดีตวิจิตรสมานฉันท์
ฤทัยระรื่นรติกระนั้น.............................ถวัลย์คง
ด้วยพระพายละมุนและอุ่นผจง
อดีตระทมระทวยประสงค์......................เจาะจงหาย
โปรดสนับสนุนมโนภิปราย
มุมั่นประสงค์ตะเกียกตะกาย..................ชม้ายฝัน-
อันพิลาสเจริดประเสริฐกระนั้น
ณ รัตติกาลสราญนิรันดร์......................และหรรษา
เพียงแสดงแถลงประกาศกถา
เสมือนประคบประหงมยุพา-..................ดรุณชน
ด้วยผสมผสานสมานกมล
ขยม*และท่านสิหมั่นถกล.......................ประดนเกียรติ์ ฯ
๓.
..ห้วงพระพายประจักษ์อนิจตา
ประดุจสุบินพิลาสประภา......................คละวนเวียน
ท่านและข้าพเจ้าสิเฝ้าชระเมียน
มิท้อมิถอยเผชิญกระเสียร....................เสถียรคง
เฉกระหัดสิหมุนสนองประสงค์-
มิหยุดมิหย่อนพระพายยุยง...................มิหลงภรานต์
เพียงหทัยผิว์มั่นผดุงวิธาน
พิทักษ์ประจักษ์และภักดิ์ขนาน................ประสานปรีดิ์
ดัชนีขยับ ณ เส้น ณ คีย์
สดับเสนาะและเพราะฉะนี้.......................ฤดีหมาย ฯ
( สร้อยโซโล่ )
.....โปรดสนับสนุนมโนภิปราย
มุมั่นประสงค์ตะเกียกตะกาย..................ชม้ายฝัน
อันพิลาสเจริดประเสริฐกระนั้น
ณ รัตติกาลสราญนิรันดร์.....................และหรรษา
เพียงแสดงแถลงพิลาสกถา
เสมือนประคบประหงมยุพา....................ดรุณชน
ด้วยผสมผสานสมานกมล
ขยมและท่านสิหมั่นถกล..........................ประดนเกียรติ์
สร้างสุบินพิลาสสถิตเสถียร
ระหว่างพระพายระรวยผละเผียน..............และเปลี่ยนแปลง ฯ
คำว่ากีตาร์ ใช้คำว่า ณ เส้น ณ คีย์ ...
คำว่าผิวปาก ใข้คำว่า พิไรลม ..
19 เมษายน 2546 19:44 น.
อัลมิตรา
.....นัด.....แนะนำน้องนุ่ง...............หนอนัด นวลหนอ
นัด.....นอบนบนุตณัฐ...................นี่นี้
นัด.....เนืองแน่นนาทนัจ................นันท์เนิ่น- นานนา
นัด.....แน่แน่วหนีหนี้.....................หน่วงโน้มนัวเนีย ฯ
.....วัน.....วารเวียนว้าเหว่...............วิงวอน
วัน.....วัตรว่างวิวรณ์.....................ว่าไว้
วัน.....วาววับวามวอน....................วิเวก เวศม์เหวย
วัน.....วิวรรธน์วัจน์ไหว้..................วิชญ์เว้าหวานแหวว ฯ
.....พบ.....พานพลันพรั่งพร้อม.......พุงพี เพียบพ่อ
พบ.....พรรคพวกผองพี่...............เพื่อนพ้อง
พบ.....ภักดิ์พากย์เพียงพีร์.............พิชญ์พร่ำ
พบ.....พักตร์เพลิดเพลินพร้อง.......พรอดเพรี้ยมแพรวพราว ฯ
.....มิตร.....มั่งมีมื่นแม้น.................มาตรหมาย
มิตร.....มุ่งเมตต์มากมาย...............ม่วนหมื้อ*
มิตร.....มองมั่นเมียงหมาย.............มอบโมทน์
มิตร.....ม่อยหมอบเมามื้อ*.............มุดมั้งหมุบหมิบ เมามาย ฯ
17 เมษายน 2546 10:44 น.
อัลมิตรา
...ดาวเลื่อนเดือนล่องไร้เรือง-...............รองบ้านผ่องเมือง
ผุดมองหม่นแล้วเนื่องคืน
...เนิ่นวันตรองตรึกใคร่ฝืน...................แลเฝ้าใฝ่ฟื้น*
เพริศแพร้วพร่างฟ้ายืนยง
...พลัดพรากจากจิตให้หลง..................หมายพร่ำเพรียกตรง
เดือนฉายบ่งย้ำคำแปล
...ประจักษ์ขยายจิตสนิทแม่...................นาทัศน์เอ่ยแล้
พจน์พร้ำ*ดุจให้แลเห็น ฯ
.....ดาวเลื่อนเดือนล่องไร้-.................เรืองรอง
บ้านผ่องเมืองผุดมอง.......................หม่นแล้ว
เนื่องคืนเนิ่นวันตรอง-......................ตรึกใคร่ ฝืนแล
เฝ้าใฝ่ฟื้น*เพริศแพร้ว.....................พร่างฟ้ายืนยง ฯ
.....พลัดพรากจากจิตให้..................หลงหมาย
พร่ำเพรียกตรงเดือนฉาย.................บ่งย้ำ
คำแปลประจักษ์ขยาย.....................จิตสนิท- แม่นา
ทัศน์เอ่ยแล้พจน์พร้ำ*.....................ดุจให้แลเห็น ฯ
14 เมษายน 2546 01:52 น.
อัลมิตรา
๖๑.
....สั่งเสียเศียรขาดด้วย................พระขรรค์
นางแม่พรหมกัญญ์......................แน่งน้อย
นามทุงษะเทวีพรรณ.....................ผุดผ่อง
พานรับจับเศียรคล้อย...................นอบน้อมถนอมเศียร ๚
๖๒.
.....พรหมกัญญาแน่งน้อย.............โฉมเฉลา
ทัดดอกทับทิมเนา........................หนึ่งแย้ม
อาภรณ์แต่งพริ้มเพรา..................ปัทมราช
มะเดื่อเป็นภักษ์แกล้ม...................หัตถ์ซ้ายทรงสังข์ ๚
๖๓.
.....หัตถ์ขวาทรงจักรเพี้ยง...............นารายณ์
ทรงครุฑยุดนาคสยาย.....................ปีกกว้าง
รับเศียรซึ่งปิตุหมาย-......................วนเทือก- สุเมรุนา
ลุศกศักราชอ้าง............................เปลี่ยนน้องอัญเชิญ ๚
๖๔.
.....วันสงกรานต์เกิดด้วย................ดังความ- โคลงเฮย
วัฒนธรรมงดงาม.........................สืบไว้
ทำบุญตักบาตรยาม.......................เปลี่ยนศัก- ราชนา
ก่อพระเจดีย์ทรายให้......................เหลื่อมฟ้าจิตรการ ๚
๖๕.
....รดน้ำท่านผู้เฒ่า........................ปูชนีย์
จักเช่นเป็นราศรี............................เกียรติสร้าง
มาลัยกระแจะมี.............................รดท่าน- เถิดนา
จักวัฒนานิจอ้าง............................ส่งให้เกษมศานต์ ๚
๖๖.
.....บรรเทิงเริงเล่นน้ำ.....................ยามสง- กรานต์นา
จิตใฝ่หมายจำนง...........................เก่ายั้ง
คงคู่ชาติดำรง..............................ตราบลูก- หลายเฮย
เอกลักษณ์ไทยจักตั้ง.......................คู่ฟ้าเคียงสยาม ๚ะ๛