14 เมษายน 2546 01:16 น.
อัลมิตรา
๕๑.
..... ปริศนาลำดับข้อ....................ความสอง นาแม่
ยามเที่ยงสุรีย์รอง........................เพริศแพร้ว
ราศีที่ชนปอง...............................อยู่ที่- อกเฮย
ร้อนรุ่มสุมทรวงแล้ว........................ลูบน้ำฉ่ำเย็น ๚
๕๒.
..... ตะวันชิงพลบร้าง..................เลือนมหรรณพ์
ชนมุ่งความสุขสันต์......................หลับคล้อย
ราศีที่สมกัน.............................คือคู่- บาทนา
ก่อนมุ่งสู่ห้องน้อย.........................จักล้างก่อนเสมอ ๚
๕๓.
.....ธรรมบาลกรรณเงี่ยต้อง................สุรเสียง
นกคู่ต่างจำเรียง............................พจน์แก้
บังเกิดดุจเผลียง*.........................เย็นชุ่ม- ดินเฮย
โสมนัสปราโมทย์แล้......................ดั่งได้มไหศวรรย์ ๚
๕๔.
.....ครบวันกำหนดต้อง....................เฉลยความ
พรหมเฒ่านึกเหยียดหยาม..............ยักคิ้ว
หัวเราะเยาะคุกคาม.........................ข่มพ่อ
หากตอบผิดบิดพลิ้ว........................จักต้องตัดเศียร ๚
๕๕.
.....ธรรมบาลหนุ่มน้อย...................เมธี
ยามเอ่ยเผยปรัศนีย์.......................เล่ห์ร้าย
สมคำดั่งพาที...............................วิหก คู่นา
พรหมเฒ่าร้อนเร่าคล้าย..................มอดไหม้ในเพลิง ๚
๕๖.
.....ฟังความตามปราชญ์น้อย...........ธรรมบาล
พรหมเฒ่าราวทรมาน......................มีดย้ำ
เสียชีพหากสมุฏฐาน......................สัตย์ยั่ง- ยืนนา
ไตรโลกสรรเสริญซ้ำ.....................แซ่ซ้องนิรันดร ๚
๕๗.
....กบิลพรหมข่มจิตด้วย................ขันติ- ธรรมนา
เรียกลูกสาวสิริ..............................แน่งน้อย
สั่งเสียตามนิติ..............................สุดร่ำ- ไรเฮย
พ่อสุดแสนเศร้าสร้อย.....................จากเจ้าเจ็ดนาง ๚
๕๘.
.....หากเศียรพ่อพลาดพลั้ง..............ตกดิน
หรือเลือดหยดหลั่งริน.....................อาบพื้น
โลกจักมอดไหม้ภินท์.......................สลายธาตุ
บังเกิดเอิกเกริกครื้น......................ล่มหล้าลบสวรรค์ ๚
๕๙.
.....จงรับเศียรพ่อด้วย..................พานทอง
ประทักษิณาผอง.........................เขตด้าว
กาลผันล่วงผ่านตรอง....................เมรุราช
เวียรรอบจนตราบท้าว*.................ศกสิ้นกาลสมัย ๚
๖o.
.....จงตกแต่งด้วยทิพย์.................สังเวย
เครื่องเซ่นเนรมิตเคย.....................หยิบใช้
วิษณุเทพบุตรเชย-........................ชมเสก- ...สรรค์นา
ดังเช่นมณเฑียรไท้........................เทพฟ้ามัฆวาน ๚
14 เมษายน 2546 01:07 น.
อัลมิตรา
๔๑.
..... สุริยเทพเที่ยงตั้ง-........................ตรงหัว
สิริที่ชมชัว*........................................เนื่องนั้น
สถิตอยู่พอรู้ตัว..................................หรือไม่ นาพ่อ
เปรื่องปราดอาจปิดกั้น........................มอดม้วยมรณา ๚
๔๒.
..... สายัณห์หลังเคลื่อนคล้อย..............อัสดง
วิหคผกผินตรง...................................เยี่ยมเหย้า
ราศรีที่จำนง.......................................สถิตที่- ใดนา
ขอท่านพ่อหนุ่มเหน้า...............................อย่าให้คอยนาน ๚
๔๓.
..... เราขอเจ็ดชั่วคล้อย.......................สุรีย์ฉาย
จักคิดปริศนาคลาย..............................ขุ่นข้อง
หากพลาดจักขอตาย............................ทูนมอบ - เศียรนา
คำสัตย์เสียงกู่ก้อง................................เทพฟ้าเป็นพยาน ๚
๔๔.
.....จนจิตจนจับไข้...............................คร่ำเคร่ง- เฉลยแฮ
กาลล่วงกาลเลยเกรง...........................กลัดกลุ้ม
ย่ำค่ำย่ำคืนเหง*...................................ห่อนสุข
ปราศพิชญ์ปราดเปรื่องคุ้ม.....................คลาดแคล้วยมบาล ๚
๔๕.
.....ห้าวันกาลเปลี่ยนแล้ว.......................ยังฉงน
สิริที่ขวายขวน.....................................หลบเร้น
ธรรมบาลหลีกสับสน............................มุ่งทุ่ง- นาเฮย
มือก่ายหน้าผากเขม้น-............................จากผู้ปราศรัย ๚
๔๖.
.....เอนหลังใต้ต้นเดี่ยว.........................ตาลนา
สองเหยี่ยวเมียผัวครา..........................หยอกเย้า
เมียนกกล่าววาจา................................ถามต่อ- ผัวเฮย
วันพรุ่งยามรุ่งเช้า...............................จักได้ภักษา ๚
๔๗.
..... มิต้องลอยล่องฟ้า.........................ปีกสยาย
เนื่องจากธรรมบาลตาย.........................แน่แท้
พรหมฯเฒ่าจักมุ่งหมาย.........................เข่นฆ่า พ่อเฮย
เพราะมิอาจคิดแก้................................กล่าวข้อปัญหา ๚
๔๘.
..... เหตุไฉนมล้างซึ่ง..........................เยาวพาน
ปราศจิตเมตตาผสาน..........................โหดร้าย
ฤาเป็นเช่นมรณกาล.............................ของพ่อ- หนุ่มนา
พี่ท่านขอจงส้าย*................................ตอบถ้อยคำเฉลย ๚
๔๙.
..... กุมารจักสิ้นชื่อ.............................เกียรติขจาย
คอขาดชีวาวาย...................................ดับดิ้น
ล่วงกาลเจ็ดวันปลาย...........................กำหนด
ครุ่นคิดปริศนาสิ้น................................มืดคล้ายหมอกบัง ๚
๕๐.
..... ปัญหาข้อหนึ่งนั้น.......................จักเฉลย
ยามรุ่งราศีเผย.................................ที่หน้า
ตื่นเช้าอย่าละเลย..............................ก่อนมุ่ง- การนา
ชำระมลทิลถ้า...................................ผ่องแล้วจักงาม ๚
14 เมษายน 2546 01:00 น.
อัลมิตรา
๓๑.
.....กบิลพรหมท่านท้าว.....................มหิทธิคุณ
ทราบเรื่องพลันเคืองขุ่น....................จิตร้อน
อิจฉาอีกเอื้อหนุน.............................ประทุษฐจิต
จึงผูกปัญหาซ้อน............................เล่ห์ร้ายมล้างชนม์ ๚
๓๒.
.....ปัญหาดุจหอกง้าว.......................ดาบคม
หวังบั่นคอนอนจม-...........................เลือดคลุ้ง
เพียงจิตคิดโสมม.............................หมกมุ่น- บาปนา
แก่งแย่งสำแดงฟุ้ง...........................ชั่วช้าสามานต์ ๚
๓๓.
..... นี่แนะพ่อหนุ่มน้อย......................สุธี
อันท่านปัญญาดี................................แน่แท้
สรรพวิทยาการมี..............................ปรากฏ- ตนเฮย
อัจฉริยภาพแล้..................................ล่วงล้ำเทพสวรรค์ ๚
๓๔.
...... หากเรามีสิ่งเร้น........................ปัญหา
ยังปราศผู้วิสัชนา............................เนื่องด้วย
ควรนักหากท่านมา............................คลายโจทย์ ฉงนนอ
ฤาท่านจักมอดม้วย...........................เหตุด้อยจนเชาน์ ๚
๓๕.
.....ธรรมบาลนั้นใคร่-.........................ครวญเห็น- จริงนา
พรหมอาจเจือจิตเป็น.........................มุ่งร้าย
จึงถามไถ่ประเด็น..............................ความเงื่อน- งำเฮย
ขอท่านจงผะผ้าย*............................กล่าวข้อปัญหา ๚
๓๖.
.....กบิลพรหมเจ้าเล่ห์.........................แห่งไตร- ภูมิเฮย
กระหยิ่มยิ้มทันใด................................แยกเขี้ยว
อันท่านหากจนใน...............................มวลปริศ- นานอ
ขออย่าทำบิดเบี้ยว..............................จักต้องตัดหัว ๚
๓๗.
..... นี่แน่ะพ่อหนุ่มน้อย........................หน้ามน
หากท่านคลายความฉงน.....................ขุ่นข้อง
เปิดเผยเอ่ยยุบล*...............................ตรงเหตุ
เราจักตัดเศียรพ้อง..............................เพื่อให้ยุติธรรม ๚
๓๘.
.....หลากเรื่องหลากเล่ห์ร้าย.................หลอกลวง- ไรฤๅ
พรหมเพ่งเพียงผลพวง........................ภัคน์พร้อม
ซอกซัง*สิ่งสิงทรวง.............................ทรามซ่อน
เหี้ยมโหดห่อหุ้มห้อม............................หัชให้โหยหวน ๚
๓๙.
.....ธรรมบาลคิดปลิดเปลื้อง....................ปัญหา
พลันเอ่ยปิยวาจา................................ตอบด้วย
เราขอผ่อนเพลา..................................ตรองตรึก
จักบั่นคอมอดม้วย..............................หากไร้คำเฉลย ๚
๔๐.
..... ดีละถ้าเช่นนั้น.............................พึงฟัง
อรุณรุ่งสุริเยศยัง...............................เยี่ยมฟ้า
ราศีที่ชนหวัง.....................................สถิตอยู่ ใดฤา
ขอท่านอย่าชักช้า..............................ตอบให้คลายใจ ๚
14 เมษายน 2546 00:56 น.
อัลมิตรา
๒๑.
.....รุกขเทพสถิตย์ต้น....................ไทรตรอง
เห็นซึ่งพลีกรรมของ.......................คู่นี้
บังเกิดกรุณาระลอง*......................ดลจิต
จึงเหาะสู่สวรรค์รี้...........................เร่งเฝ้ามัฆวาน ๚
๒๒.
......หากแต่องค์เทพไท้...................สรวงสวรรค์
ทิพยอาสน์เป็นอัศจรรย์...................ยิ่งแล้ว
คราวก่อนอ่อนนุ่มพลัน.....................เปรียบแผ่น- ศิลาเฮย
ร้อนรุ่มหฤทัยแพ้ว*.........................ขุ่นข้องกังขา ๚
๒๓.
.....พระอินทร์ทรงเพ่งด้วย-.............ทิพยญาณ
ทรงแจ่มแจ้งดังการณ์.....................เช่นนั้น
หากเฉยจักมรณานต์........................เคลื่อนจาก- สวรรค์นอ
อายุเศรษฐีสั้น...............................จักม้วยเสมอตน ๚
๒๔.
......ทรงมีดำรัสด้วย......................เทวบัญ- ชาแฮ
จึงส่งเทพยบุตรอัน.......................เลิศหล้า
บุญญฤทธิ์สิทธิ์อนันต์....................เดชเดื่อง
คือเทพธรรมบาลกล้า..................สู่ท้องเศรษฐินี ๚
๒๕.
.....นับแต่เสร็จกิจนั้น.....................เมียผัว
สพสุขปราศหมองมัว.....................หม่นไข้
มินานฝ่ายเมียตัว...........................เกิดคลื่น- ไส้นา
อยากรสเปรี้ยวเปรียบได้................ดั่งแจ้งแสดงครรภ์ ๚
๒๖.
.....เศรษฐีมิจิตพร้อม......................โสมนัส- ยิ่งเอย
สั่งปลูกปราสาทจัด..........................เจ็ดชั้น
บริเวณแห่งไทรอุบัติ-......................เลอเทียบ- สวรรค์นา
เป็นเคหสถานหั้น*............................แห่งผู้สืบวงษ์ ๚
๒๗.
.....ทศมาสคลาดเคลื่อนคล้อย...........กาลสมัย
คลอดบุตรสุดพิไล..........................สง่าล้ำ
ขนานชื่อธรรมบาลไข....................ดังเก่า
อาพาธมิอาจกล้ำ............................สุขด้วยบุญญา- บารมี ๚
๒๘.
.....วสันต์กาลผ่านพ้น.....................เจ็ดหน
เพียรหมั่นศึกษาจน.........................เก่งกล้า
ศิลปวิทยามนต์..............................สรรพศาสตร์
ไตรเพทวิชาค้า-............................รอบรู้สรรพเสียง ๚
๒๙.
.....คราวเมื่อกาลเก่านั้น...................มหาชน
นบนอบพรหมเบื้องบน...................เทพไท้
เพราะท่านบ่งมงคล........................แสดงแก่- ชนนา
เพียงเหตุฉะนี้ไซร์...........................ต่างน้อมบูชา ๚
๓๐.
.....กิตติศัพท์แห่งท้าว-.....................ธรรมบาล
ชนต่างระบือขนาน...........................แซ่ซ้อง
ดุจศาสตราจารย์.............................แห่งศิษย์
แสดงเหตุมงคลพ้อง........................ประจักษ์ผู้สรรเสริญ ๚
14 เมษายน 2546 00:52 น.
อัลมิตรา
๑๑.
.....คำนึงคำถ้อยแห่ง...................คนหยาม
พินิจพิเคราะห์ความ.....................ขุ่นคล้อง
ฤๅกรรมเก่าทัณฑ์ตาม...................สาปส่ง จริงเฮย
สังเวชสังวาสย้อง.........................หากไร้บุตรเคียง ๚
๑๒.
.....เหตุไฉนจึ่งไร้ลูก....................หนอแม่- เรือนเอย
เหตุก่อนดุจร่างแห.......................ห่อหุ้ม
เหตุการณ์ผ่านผันแปร.................เปรียบวิ- บากฤา
เหตุสุดวิสัยคลุ้ม..........................ครั่นคร้ามตามหลอน ๚
๑๓.
.....ควรเราควรใฝ่เฝ้า...................บวงสรวง นาแม่
อุทิศอุทัยดวง..............................แจ่มฟ้า
สำรับสำหรับปวง-........................ทวยเทพ
ประสิทธิ์ประสาทร้า*....................รื่นให้สมประสงค์ ๚
๑๔.
......ผันศกศักราชพ้น....................สามวสันต์
ปราศเดชเหตุอัศจรรย์..................เสกให้
มิอาจสมปราถนาอัน.....................จรุงเจต- นาเฮย
อธิษฐานเทพไท้............................ไป่ได้ดังหวัง ๚
๑๕.
.....ณ กาลวันหนึ่งนั้น...................รวิวาร
นักขัตฤกษ์พิธาน..........................เก่าย้อน
ราศีเมษแห่งกาล-.........................จิตตมาส
ทวยราษฏร์ต่างรำฟ้อน..................รื่นร้องสนุกสนาน ๚
๑๖.
.....เศรษฐีมีจิตพ้อง........................ภรรยา
คราวเมื่อมหาชนพา........................ลูกน้อย
เที่ยวชมมหรสพหนา.......................หมองหม่น ยิ่งเฮย
สังเวชพลันเศร้าสร้อย.....................เนื่องด้วยหน่อสกุล ๚
๑๗.
.....จึ่งคิดอุทิศไท้............................เทพสวรรค์
เครื่องเซ่นบูชายัญ..........................หลากล้น
บวงสรวงเทพยดาอัน......................มเหสักข์
สถิตย์โคนไทรต้น............................ฝั่งน้ำภิรมย์สถาน ๚
๑๘.
.....มวลหมู่วิหคร้อง.........................เริงระงม
แผกเผ่าแปลกพันธ์ขรม...................กร่นก้อง
ยักย้ายขวักไขว่ชม..........................แฉลบผ่าน
เห็นซึ่งพลีกรรมข้อง-.......................มุ่งด้วยบุตรธิดา ๚
๑๙.
.....เครื่องเซ่นสรรพสิ่งล้วน..............มากมี
ข้าวสุกบริสุทธิ์ดี.............................ยิ่งแท้
ข้าวสารคัดพรรณฉวี.......................ผุดผ่อง
หุงจากน้ำนมแล้..............................เลิศล้ำหอมหวน ๚
๒๐.
.....บรรจงตกแต่งต้น.....................ไทรงาม- งดเฮย
พิณพาทย์ประโคมความ.................เพราะพริ้ง
แตรสังข์ดั่งประณาม*....................ทวยเทพ
หวังซึ่งบุตรสิงคลิ้ง*......................หล่อเลี้ยงสืบสกุล ๚