13 มีนาคม 2546 22:38 น.
อัลมิตรา
ซาบเสียงเพลงบรรเลงแว่วแผ่วหวามหวาน
นกกาไก่บินรับขานชานบ้านไหว
พี่ออกแขกแลกต้นกล้าท้าลมไกว
แม่นวลใยปรุงมื้อใหญ่ให้พี่ชม
ฝีมือแม่ใครแน่ท้าท่าจะม้วย
บ่ายซ้อมมวยช่วยงานวัดจัดสวยสม
คืนวันเก่านึกเศร้าใจยิ่งกลัดตรม
ลิ้นพาลขมดมอาหารนานผอมโซ
คิดถึงรสอาหารในงานวัด
แม่วางจัดจานสวยข้างถ้วยโถ
ตั้งสำรับเรียงไว้ใต้ต้นโพธิ์
เหล้าสาโทก็จัดวางข้างขี้เมา
กลิ่นข้าวหอมยวนจริงยิ่งหอมหวน
คิดถึงนวลน้องนุชสุดอับเฉา
คิดถึงเสน่ห์ปลายจวักยอดรักเรา
ทุกค่ำเช้าเคยพร่ำพรอดกอดอนงค์
13 มีนาคม 2546 22:23 น.
อัลมิตรา
ดูยี่เกเขาเล่นเหมือนเช่นน้อง
นั่งเหม่อมองดูไปใจเริ่มท้อ
ก็นางเอกเขามีที่คู้คลอ
ตัวเราหนออยู่เดียวช่างเปลี่ยวใจ
ลุกจากโรงยี่เกเร่ดูหนัง
หลบไปนั่งหมองหม่นเกินทนไหว
นางเอกสวยด้วยพระเอกหล่อเกินใคร
ตัวเราไซร้แค่พระรองมิมองเลย
จะงานวัดงานใหนไม่ไปแล้ว
โธ่ .!.เดินแกร่วแล้วเศร้าโอ้เราเอ๋ย
มาคนเดียวกลับคนเดียวอีกตามเคย
ไม่มีเลยเหมือนเขาอื่นชื่นคู่กัน
13 มีนาคม 2546 13:55 น.
อัลมิตรา
แด่พี่ที่รัก
รู้ว่าใจต้องไหวหวั่นในวันหนึ่ง
ครั้นพอถึงวันเวลาอุราเอ๋ย
หยดน้ำตามาทำไมหนอไม่เคย
ช่างยากเงยหน้ามองครรลองลา
จำพราก...
เพียงสองคำลำบากเกินปากว่า
อบอุ่นความรักกาลเวลา
เจ้าเอาไปจากข้าในทุกคำ
พี่ที่รัก...
เศร้านักฝากใจในคืนค่ำ
โบยบินไปสู่ความทรงจำ
ฝนพร่ำพรายพร่าน้ำตานอง
จากกันวันนี้มีคุณค่า
ฝากหัวใจปรารถนาแห่งเราผอง
ไม่รู้ลืมต่อกันมั่นประคอง
บันทึกใจเราสองตรองมิเลือน
12 มีนาคม 2546 16:28 น.
อัลมิตรา
บทเพลงรักแผ่วหวานกังวานแว่ว
บังเกิดแล้วบางเบาดุจเงาฝัน
ทุกสิ่งสรรพสวยสดพจน์พระจันทร์
ผ่านคืนวันเมื่อไรไม่รู้เลย
ที่เฝ้ารอคอยหามานานนัก
ครั้นประจักษ์ใจหวามความจึงเผย
ช่างประหลาดนักไยหัวใจเอย
ไม่เหมือนเคยอย่างฝันน่าขันจริง
ที่เคยหนาวร้าวหทัยในวันก่อน
มาถึงตอนนี้ได้ผ่าวไฟผิง
เพลิงสรรพางค์ข้างกายแนบไหล่พิง
เห็นโลกนิ่งสายหมอกดอกไม้บาน
ช่างชุ่มฉ่ำน้ำใจที่ไหลหยาด
มนต์ประหลาดบรรเลงบทเพลงขาน
ในคำร้องรักใสใจสราญ
หวานแสนหวานจับในใจคำนึง/.
10 มีนาคม 2546 23:19 น.
อัลมิตรา
.....ณ บ้านป่าริมธาร เมืองกาญจน์นี้
เคยเป็นที่พักผ่อนแต่ก่อนเก่า
เคยชี้ชวนชมเล่นใต้ร่มเงา
เก็บดอกปีปเสียบเอาไว้ให้กัน
.....เคยยินเสียงธารไหลใกล้ใกล้บ้าน
สนุกสนานเคียงข้างทางน้ำนั่น
วิหคไพรร่อนถลาฝ่าไพรวัลย์
ส่งเสียงร้องรับกันอยู่ทั่วไป
.....สายลมพัดกิ่งไผ่ใบร่วงหล่น
ใจของคนพร่ำเพ้อละเมอไหว
เพียงชั่วยามลุ่มหลงกับพงไพร
ถึงเวลาจากไปให้คร่ำครวญ
.....อีกเมื่อไหร่จะได้กลับไปหา
ณ บ้านป่าริมธาร คอยวันหวล
คิดถึงความครั้งเก่าคอยเย้ายวน
ใจคร่ำครวญเรียกหาบ้านป่าไพร