14 มกราคม 2546 08:31 น.
อัลมิตรา
.....ขอโทษนะท่านพี่.............ขณะที่ประพันธ์คำ
เรียงร่ายเพราะใคร่นำ...........พิเคราะห์ย้ำและร่ำเรียน
อาจด้นนิพนธ์แผก...............กวิแปลก ฤ แยกเจียรณ์
หยอกเย้ากระเซ้าเพียร..........ดุจเกียรติ์เสถียรคง ฯ
.....ขอโทษนะจะเขียนเรียนกานท์กฏ
ท่านพี่ขยาดหมดหรือถดเลี่ยง
ณ ที่ประพันธ์นี้มิใช่เพียง
พันธุ์คำเรียงผูกพจน์ปรากฏกล ฯ
.....ร่ายเพราะใคร่หมายเพลินจำเริญเหมาะ
นำพิเคราะห์พิจารณ์จิตรการผล
ย้ำและร่ำร่ายรจน์กฏเกณฑ์ดล
เรียนอาจด้นคำพลั้งดั่งพลาดไป ฯ
.....นิพนธ์แผกแซกซอกมิกลอกแกลก
กวิแปลกกรณีย์ผิดพิชญ์สอนให้
ฤ แยกเจียรณ์คล้ายหมายยอมน้อมหัวใจ
ใคร่เย้ากระซิบให้ได้ดูกัน ฯ
.....เซ้าเขียนดุดันบ้างดังดองญาติ
จะเกียรติ์สถิตย์ปราถน์สมานฉันท์
เธียร(เถียร)คงเมตตาให้คล้ายอภินันท์
ที่ประพันธ์เพราะท่านปราชญ์ประสาทพร ฯ
13 มกราคม 2546 16:44 น.
อัลมิตรา
ยามคิมหันต์พลันชื่นระรื่นจิต
มองทั่วทิศทุ่งหญ้าพาแจ่มใส
สายลมล่องต้องกายให้สุขใจ
แดดฉาบไล้โลมอุ่นละมุนมาลย์
ริมทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มกลุ่มพืชน้อย
ต่างชดแช้มคอยชมลมผสมผสาน
เอียงก้านดอกซอกซ้อนโยกคลอนนาน
เอนกิ่งก้านพลันพริ้วละลิ่วลม
ใบเป็นหยักจักซอยดั่งรอยเลื่อย
รูปเปลี่ยวเปลือยเลื้อยรับก้านทับถม
เป็นสามแฉกแตกเสี้ยวมิเหี่ยวซม
ช่างงามสมชมแผกแปลกพืชพันธุ์
ดอกบานเบ่งเร่งสีฉวีเพริศ
แสนบรรเจิดเฉิดโฉมภิรมย์หรรษ์
สุขยิ่งนักหากได้ชม้ายพลัน
คราดอกนั้นบานชื่นดาษดื่นไป
มีดอกย่อยพลอยอวดทรวดทรงหวาม
ล้วนงดงามยามแข่งแสร้งไฉน
กลีบวงนอกออกเหลืองเฟื่องวิไล
ยามเพ่งใกล้ได้เห็นเช่นนงคราญ
อยากจะนำทัดหูพธูน้อง
เกรงหม่นหมองต้องนวลสิข่วนกร้าน
เพราะมีขุยปุยคันนั้นรำคาญ
อาจตัวสั่นพลันเกาเราจะซวย
ไม้เมืองไกลมิใช้ของไทยดอก
อยากจะบอกท่านไว้เพราะไม้สวย
ปราศกลิ่นหอมดอมดมยามลมชวย*
หากแต่ช่วยอำนวยด้วยความงาม
ถิ่นกำเนิดเกิดในอเมริกา
รอนแรมมาแดนไทยจนใจคร้าม
ตีนตุ๊กแกชื่อย้ำจำนิยาม
หรืออีกความมือต๊กโต*ชื่อโก้ดี ฯ
ลมชวย...........( พัดเรื่อย ๆ ...ลม )
มือต๊กโต...........เทียนเศรษฐี (แม่ฮ่องสอน) มือต๊กโต (เชียงใหม่) ตีนตุ๊กแก (ภาคกลาง)
12 มกราคม 2546 21:12 น.
อัลมิตรา
.....เพ็ญแขแลแจ่มจ้า........................ราตรี
กาลเมื่อนงคราญมี...........................จิตให้
ชิดเคียงคู่เปรมปรีดิ์.........................สันต์สุข มั่นแม่
พธูช่างงามดูใกล้.............................ผ่องเพี้ยงเพ็ญพรรณ ฯ
.....ประคองปองเอ่ยอ้าง....................ดังโคลง
ชมชื่นใจรมย์โยง..............................ผูกแล้ว
สุขมั่นเปรียบจรรโลง........................คำร่าย กล่อมแล
นิรันดร์เนื่องนวลกันย์แก้ว..................ยิ่งพริ้งสิงใจ ฯ
เพ็ญแขแลแจ่มจ้าราตรีกาล
เมื่อนงคราญมีจิตให้ชิดเคียงคู่
เปรมปรีดิ์สันต์สุขมั่นแม่พธู
ช่างงามดูใกล้ผ่องเพี้ยงเพ็ญพรรณ
ประคองปองเอ่ยอ้างดังโคลงชม
ชื่นใจรมย์โยงผูกแล้วสุขมั่น
จรรโลงคำร่ายกล่อมแลนิรันดร์
เนื่องนวลกันย์แก้วยิ่งพริ้งสิงใจ ฯ
11 มกราคม 2546 22:19 น.
อัลมิตรา
ผืนผ้าใบคล้ายเคยเผยห้วงจิต
พู่กันนิดมือน้อยที่คอยตวัด
ให้สีเส้นเป็นไปดั่งใจคัด
ภาพบ่งชัดช่ำชองปานคล่องเคย
สีน้ำมันรังสรรค์ตระการก่อ
ผสมพอจินตนาการนั้นเปิดเผย
ใต้ภวังค์ครั้งเก่าคราวล่วงเลย
แล้วเอื้อนเอ่ยเปรยเปรียบเทียบภาพเดียว
ไร้รูปแบบแอบอิงสิงใจอยู่
สะบัดพู่กันพลั้งดังเศษเสี้ยว
สีกระเด็นเป็นรูปชั่ววูบเดียว
แต่ข้องเกี่ยวเหนี่ยวจิตให้ตึดตรึง
ปราศกรอบกั้นคั่นขวางอันอ้างชี้
มีเพียงสีที่ใส่ปราศใครทึ่ง
ไร้รางวัลภาพนั้นพลันรัดรึง
ดุจซาบซึ้งผสานใจให้เพ่งมอง ฯ
9 มกราคม 2546 21:00 น.
อัลมิตรา
เป็นหัวหน้าอย่าบึ้งทำขึงขัง
ให้ระวังวาจาคราปราศรัย
แย้มยิ้มเถิดประเสริฐนักจักตรึงใจ
แม้นผู้ใดแลเห็นเปรียบเป็นงาม
ครั้นเสร็จการงานล่วงห่วงลูกน้อง
อีกเพื่อนพ้องสมานมิตรพินิจถาม
สารทุกข์สุกดิบรีบติดตาม
ดุจดั่งล่ามจิตใว้ด้วยไมตรี
เป็นลูกน้องต้องหมั่นงานนวดเฟ้น
หน้าทะเล้นหยอกเย้าปานเข้าผี
หมั่นยิ้มย่องผ่องใสในพาที
และแอบจี้เพื่อกลั้วนายหัวเราะ
ครั้นนายสั่งนั่งงงจงยิ้มย่อง
หน้าขาวผ่องสบตาอย่าปากเปราะ
เมื่อสั่งเสร็จจงลืมทำซึมเซาะ
ดุจเจ้าเงาะหลงชบาเวลาเพลิน
หากเจ้านายได้ลูกน้องต้องฉะนั้น
งานมากมีเห็นทีจะขาดเขิน
สรรพการพลันเสียเพลียใจเกิน
อย่าหมางเมินในคำที่พร่ำมา
ระวังด้วยถ้านายหมายจะคั่ว
จงทำตัวคล้ายบ้าครามาหา
พูดเรื่อยเปื่ยเอื้อยอิ่งลิงพนา
ศรีธัญญาบ้านเก่าบอกเล่าฟัง
เคยฆ่าคนมาแล้วแถวแถวนี้
เพราะวจีมาเกี่ยวทำเหลียวหลัง
แค่มองตาคว้ามีดกรีดพุงพัง
พูดแล้วคลั่งตาขวางมิยั้งใจ ฯ