16 มกราคม 2546 09:32 น.
อัลมิตรา
ญ....เมื่อมีเธอผูกพันเป็นโซ่คล้อง
ช....จะร่วมห้องเคียงหอพนอขวัญ
ญ....เฝ้าออดอ้อนพร่ำเพ้อทุกวี่วัน
ช....อยู่กับฝันคู่ฟ้าชีวาวาย
ญ....แม้นห่างหันใจนั้นยังพันผูก
ช....เหมือนดังปลูกต้นรักมิรู้หน่าย
ญ....หมั่นพรวนดินรดน้ำยามเดียวดาย
ช....มิกลับกลายลืมยุพินแม้จินตนา
ญ....ถึงชีวิตปลิดปลงคงมั่นแท้
ช....จักรักแค่นวลน้องถวิลหา
ญ....และมิร้างห่างหายคลายสัญญา
ช....เสน่หาพันผูกดั่งถูกตรึง
ญ....ไม่มีแปรแม้นางใดมาให้เห็น
ช....เธอคงเป็นจอมขวัญฉันใฝ่ถึง
ญ....มิเคยหน่ายคลายรักที่ปักดึง
ช....จากก้นบึ้งของใจพลีให้เธอ
16 มกราคม 2546 00:35 น.
อัลมิตรา
...เอ๋ !! เราเองเกรงว่าจะมึนหัว
คงขอตัวมั่วแล้วในภาษา
หยอกอนงค์ประสงค์เพียงเมียงชายตา
ให้หันมายิ้มหวานพลันชื่นใจ
ขอโอบอิงพิงใจหวังใกล้ชิด
แล้วครุ่นคิดถ้อยคำพร่ำกลอนให้
ใช่ไก้แจ้แค่หวังเป็นดั่งใจ
เสมือนไก่สยายปีกแล้วปลีกจร
เอกอีเอ๊กเฉกเช่นเห็นคล้ายหรือ
มีสองมือใช่ปีกหลีกบินว่อน
พ่อไก่แจ้แท้คำมาพร่ำวอน
เกรงงามงอนค้อนขวับลับไกลตา
หวังข้าวเปลือกเลือกจิกปลีกเปลี่ยนกาย
แต่ยังหมายพลอยงามอันล้ำค่า
แค่เหลือบเห็นเช่นบุญเกื้อกูลมา
แม้ไร้ค่ากว่าข้าวคราวจิกกิน
มิหวังพลอยเพ็ชรล้ำนำมาครอง
แค่วอนน้องมองมาอย่าใจหิน
ธรรมชาติน้ำเซาะเกาะแก่งดิน
แม้แท่งหินอาจกร่อนบั่นทอนลง
นี่กระไรน้ำใจของนวลน้อง
ใช่หมายพ้องคล้ายศิลาคราประสงค์
ไยกร้าวแกร่งแข็งนักชักพวง
ไก่แจ้คงลี้ไพรตราบวายปราณ
พ่อไก้แจ้แค่นี้ฤดีเอ๋ย
ไม่เคยเลยเปรยเปรียบเทียบหักหาญ
อนิจจามาบ่นสุดทนทาน
แค่นงคราญมารุมยังกลุ้มใจ
น้องนิดจี๊ดต๋อมแต๋มแก้วนวลน้อง
น้องแมวจ้องน้องกิ๊กอีกขวักไขว่
น้องตุ้มติ๊มยิ้มยุ้ยนุ๊ยลำไย
น้องกุ๊กไก่สงสัยใครนี่เอย ฯ
14 มกราคม 2546 23:36 น.
อัลมิตรา
วันอีกวันมาถึงอีกหนึ่งศก
สิบห้ามกราคมภิรมย์สมัย
ร่ายอักษรเป็นลำนำคำจากใจ
อวยพรในวันเกิดประเสริฐกาล
ประสงค์ใดในหวังสมดังหมาย
สิ่งเลวร้ายทั้งปวงจงล่วงผ่าน
อริคร้ามยอมสยบยามพบพาน
มั่น เงิน-งาน สุขครอบครัวชั่วนิรันดร์
ครั้นนึกคิดจิตต้องจักผ่องแผ้ว
สัมฤทธิแล้วแน่วใจเหมือนในสวรรค์
สรรพกิจประสิทธิ์โรจน์และโชติพลัน
เป็นผลอันเกิดจากการทำดี
อายุมั่นขวัญมิ่งสิ่งดีน้อม
ดุจเกราะล้อมคุ้มป้องประคองที่
มิหวั่นไหวใดกล้ำและย่ำยี
ปัญหามีปัญญามา...วัฒนากาล ฯ
14 มกราคม 2546 16:08 น.
อัลมิตรา
เพ่งมองฟ้าพิศเห็นเพ็ญงามนัก
จึงหลงรักใฝ่ปองร่ำร้องหา
แสงจันทร์ส่องผุดผ่องยั่วยวนตา
อยากปรี่คว้ามาแนบอิงแอบทรวง
ยามเจ้าหายกลายคืนสะอื้นโศก
ฤๅลาโลกละล่องลับหรือดับล่วง
มาชะเง้อละเมอหาพระจันทร์ดวง
ฤๅหลงสรวงลืมหล้าให้ข้าตรม
แม้นค่ำคืนฝืนรอจนกาลคล้อย
จันทร์ดวงน้อยล้อทิวาอุราขม
แสนคิดถึงคนึงหาใช่เพียงลม
ยอมระทมเฝ้าแลชะแง้มอง
จนฟ้าสางรังสิมันตุ์ผันกายฉาย
ยากจักคลายความหลังครั้งเราสอง
เคยถักทอสายใยมั่นเคียงครอง
มั่นหมายปองคู่ภพจบนิรันดร์
14 มกราคม 2546 09:05 น.
อัลมิตรา
.....ขอเขียนริเพี้ยนแบบ................จะแฉลบระรื่นใจ
ผวนพจน์และรจน์ใว้.....................รติให้พิจารณ์คำ
อาจแผกฤแปลกไป......................ดุจให้ตริตรองทำ
สำนวนประมวลคำ........................กวิล้ำและช่ำชอง ฯ
.....ขอเขียนริตริตรองทดลองฉันท์
เพี้ยนแบบจะประพันธ์กานท์กลห้วน
แฉลบระแบบภาษากระบวน
รื่นใจชวนชื่นชมภิรมย์กลอน ฯ
.....ผวนพจน์และแปะคำมาขำขัน
รจน์ใว้ระบายฉันท์ปานหลอกหลอน
ติให้พิเคราะห์หมั่นรังสรรค์กลอน
จารณ์คำย้อนเย้าหยอกออกยียวน ฯ
.....อาจแผกฤาพลาดประหลาดแท้
แปลกไปดุจดันแค่แหย่ให้สรวล
จะให้ติ(ตริ)มิใช่ไม่บังควร
ตรองทำถ้วนพาทีแสนปรีดาฯ
.....สำนวนประสาบทกฎเกณฑ์เก่า
มวลคำกติกาเล่าเฝ้าสรรหา
วิ( เคราะห์ )ล้ำและแม้ยากหากตรึงตรา
ช่ำชองกว่าอย่าพวงคงเก่งกล ฯ